'คนทำสื่อ'มองการเปลี่ยนผ่านสื่อทีวียุคดิจิทัล

'คนทำสื่อ'มองการเปลี่ยนผ่านสื่อทีวียุคดิจิทัล

"..ดิจิตอลมาแบบนี้ ยังไง เคเบิลกับดาวเทียม ก็ยังไม่ตาย ผมใช้คำว่ายังไม่ตาย.." เล็ก สมชัย

สมรภูมิชิงเรตติ้งจอแก้วศักราชนี้ ใครๆก็รู้ว่า "ดุเดือด" ขนาดไหน โดยเฉพาะสนามใหม่อย่าง "ทีวีดิจิทัล" ที่ดูเหมือนเจ้าสนามเก่า (อนาล็อก) ยังมุ่งรักษาฐานผู้ชมทุกช่องทาง เพราะ "เจ้าใหม่" แต่เก๋าสนามทำเกมมานาน ด้านข่าว, บันเทิง, และวาไรตี้ ต่างพยายามชวงชิง "ความนิยม" จากผู้ชมคนดูอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

ทว่า จะมองเพียงใครมีจุดเด่น-จุดด้อยในสนามแข่งขันเพียงอย่างเดียว คงไม่รอบด้านกระมัง

ดังนั้น ต้องส่องกล้องมอง "ภาพกว้าง" ในวงการทีวี เพื่อให้ความเคลื่อนไหวที่ชัดเจน ขณะเดียวกัน จำต้อง "ลงรายละเอียด" กับคนข่าวมากประสบการณ์ อย่าง "เล็ก" สมชัย ศรีสุนาครัว อดีตผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ "มีเดีย นิวส์" หมาดๆ

พูดถึง "เล็ก สมชัย" เริ่มเป็นนักข่าวศูนย์อีสาน เครือเนชั่น ปี2536 ขยับเป็นหัวหน้าข่าวเศรษฐกิจภูมิภาค แล้วย้ายไปเป็นผู้ประกาศและหัวหน้าข่าวช่องไอทีวี เมื่อปี 2540, บรรณาธิการข่าวภูมิภาค ช่องเอเอสทีวี นิวส์วัน ปี 2547 และเป็นผู้อำนวยการฝ่ายข่าว มีเดีย สตูดิโอ คุมรายการผลิตข่าว ประเด็นเด็ด7สี, เช้านี้ที่หมอชิด และเจาะเกาะติด ช่วง2550-2557

บรรทัดต่อไป คือมุมมองของคนข่าวทีวี ส่องกล้องมองคนกันเอง (ในวงการ)..

- ภาพรวมการเปลี่ยนแปลงของสื่อทีวีในปัจจุบัน

ในห้วงที่ผ่านมาอาจจะดูเหมือนว่าสื่อทีวี จะมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว แต่จริงๆ ผมว่ามันค่อยๆ ขยับ ค่อนข้างช้าด้วยซ้ำ เพราะเอาเขัาจริงๆ เราช้ากว่าต่างประเทศเป็นสิบปี แม้ว่าจริงๆ แล้วอาจจะมีบางเจ้าที่เตรียมตัวก่อน บางเจ้าขยับก่อน และบางเจ้ารอจังหวะที่ชัดๆ แล้วก็ค่อยกระโดดลงมาเล่น ซึ่งในโลกแห่งความเป็นจริงชาวบ้านที่เราเรียกว่าผู้บริโภคนี่นะ ผมเชื่อว่าเขาสัมผัสกับเรื่องแบบนี้มานานแล้ว กับการได้ดูทีวีอะไรที่มันลอยอยู่ในอากาศหลายๆ ช่อง เป็นร้อยช่องพันช่อง ซึ่งบางคนก็เรียกกันว่า เคเบิล หรือแม้ ทีวีดาวเทียม อะไรอนาล็อค อะไรดาวเทียม อะไรดิจิตอล ถ้าไม่บอกก็คงไม่รู้ เพราะดูผ่านกล่องรับสัญญานดาวเทียม ที่เขามาขาย ชาวบ้านบอกมันก็เห็นเหมือนกัน

คนที่ดูผ่านระบบเดิมๆ ที่เราเรียกว่าหนวดกุ้ง ก้างปลาหรือเสาอากาศ ก็จะได้ดูแค่ ฟรีทีวีภาคพื้นดิน คือ ช่อง 3 5 7 9 11 และไอทีวี เท่านั้น แต่ถ้าใครบ้านไหนที่รับเคเบิล แบบจ่ายรายเดือน 300-500 บาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนเมือง ก็จะสามารถรับชมได้เช่นเดียวกับคนที่รับชมผ่านกล่องรับสัญญานดาวเทียม

ทำไมเคเบิล อยู่ในเมือง อยู่ในชุมชนใหญ่ เหตุผลของผมอธิบายง่ายๆ คนลงทุนลงแล้วคุ้ม ส่วนใหญ่คนทำธุรกิจเคเบิล เขาเลือกจะทำกับชุมชนขนาดใหญ่ มีกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าเยอะๆ ก็เอาไปลงในเมืองก่อน แล้วลากสายไปหาเป้าหมาย ผ่านบ้านไหน ขายบ้านนั้น ซึ่งเจ้าสายเคเบิลที่ว่านี้ละที่เป็นข้อจำกัดหนึ่ง เพราะมันแพงไม่ใช่เล่น เคเบิลไหนพอมีทุนหน่อย ก็จะหาช่องดาวเทียมในประเทศ ต่างประเทศให้ลูกค้าดูเป็นโปรโมชั่น เพื่อดึงดูดความสนใจ เรียกได้ว่า ย้อนหลังกลับไปห้วงสิบปี เป็นยุคเฟื่องฟูของธุรกิจเคเบิลทีวีกันเลยทีเดียว เพราะเป็นการลงทุนครั้งเดียว แล้วเก็บกินระยะยาว การแข่งขันก็สูงตามๆมา

-เคเบิลท้องถิ่นดิ้นเพื่อความอยู่รอด

บางเจ้าก็ทำรายการท้องถิ่นขึ้นมาให้คนดูได้เลือกอีกช่องทางหนึ่ง บางเจ้าพอมีกำลังหน่อยก็มีรายการเป็นของตัวเอง แต่ก็ไม่ได้มากมาย เพราะถ้าลงทุนมาก อาจขาดทุนได้ แม้จะมีรายได้จากโฆษณาในท้องถิ่นอยู่บ้างก็ตาม ส่วนช่องต่าง ๆ ที่เคเบิลเอามาให้ดู มันคืออะไร ในทางเทคนิคมันอาจจะถูกเรียกว่า FREE sattlelite เอาแบบบ้าน ก็ทีวีดาวเทียม นั่นละครับ ก็มีทั้งจากต่างประทศและในประเทศ

นี่แบบเคเบิลท้องถิ่น ไม่นับเคเบิ้ลเจ้าใหญ่ อย่าง TRUE ที่มีช่องตัวเอง รายการตัวเอง ขายกล่องเอง แบ่งพื้นที่ท้องถิ่นไปได้ไม่น้อย

-มองตลาดทีวีดาวเทียว

ก่อนถึงยุคดิจิตอลทีวี เมื่อ 8-9 ปี ก่อน ต้องบอกว่า ทีวีดาวเทียมคึกคักมาก เพราะมันเป็นช่องทางหนึ่งของนักลงทุน ที่ใครๆก็อยากมีสื่อเป็นของตัวเอง เป็นช่องทางหนึ่งของคนที่อยากนำเสนอทีวีในแนวที่ตัวเองถนัดหรือตอบสนองธุรกิจในเครือตัวเอง ทั้งภาคผู้ผลิตสินค้า หรือผู้ผลิตสื่ออื่นๆ อยู่แล้ว แล้วใช้ตัวนี้เป็นตัวเชื่อมโยง เพื่อตอบสนองทางการตลาดซึ่งกันและกัน

ที่ชัดเจนที่สุด ก็คงเป็นช่วงทีมีการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองของบ้านเราอย่างเข้มข้น ทีวีดาวเทียมเป็นช่องทางสำคัญ ที่กลุ่มๆต่างๆ ใช้ในการสื่อสารกับมวลชนของตัวเอง และประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดีแทบทุกกลุ่ม ผมเชื่อว่าจังหวะนี้ชัดเจนที่สุดกับแนวทางที่มองกันว่าคนจะทำทีวีดาวเทียม มันต้องทำแบบตลาดทางเลือกแบบตรงกลุ่มเป้าหมายของใครของมัน ที่ภาษาการตลาดเขาเรียก nich market นั่นละ ซึ่งบางเจ้าก็อาจจะทำอยู่แล้ว เช่น ช่องเพลง ช่องหนังพอชัดเจนแบบ ทีวีดาวเทียม ก็เริ่มเห็นภาพของช่องข่าวผ่านดาวเทียม ช่องเพลงของค่ายต่างๆ ช่องหนังของค่ายที่ทำมานาน มีหนังของตัวเองเก็บไว้เยอะๆแล้วเอามาฉายใหม่ วางรันดาวน์ใหม่ ขายโฆษณาใหม่ ก็เกิดให้เห็นมากมาย

ไม่เว้นแม้แต่ ช่องโฆษณาขายสินค้า ทั้งที่เคยไปโฆษณาในฟรีทีวี วันดีคืนดี ก็มีช่องขายของเป็นของตัวเองเพราะมันเป็นช่องทางหนึ่งทีคนจะขายของขายกันได้เต็มที่ ช่องป้า ช่องลุง ที่เคยขายของแบบเฉพาะกลุ่มก็ออกมาโลดแล่นในเวที เยอะแยะมากมาย บางช่องขายเพลิน เมาท์สนุกปาก ทุกซอกทุกรูขุมขน ชนิดที่ฟรีทีวีอาย แต่ก็ขายได้อยู่ได้ ก็เลยเป็นส่วนหนึ่งที่มีความพยายามจากภาครัฐเจะข้ามาทำการจัดระเบียบ ไปพร้อมๆ กับช่องการเมืองกำลังใส่กันเต็มเหนี่ยว ไม่สนว่าใครหมู่ใครจ่า เป็นที่มา ของ กสทช. ว่างั้นนะ และก็มาพร้อมๆ กับคำว่าดิจิทัลทีวี

กระแสช่วงนี้ค่อนข้างมาเร็ว จะไปเร็วรึป่าวไม่ทราบ เร็วจนคนที่กำลังสนุกและเพลิดเพลินกับทีวีดาวเทียม และมีกระแสว่า ถึงยุคที่เคเบิลทีวี คงต้องตายแล้ว เพราะผู้ผลิตถานีผ่านดาวเทียมกำลังคึกคัก เพราะกลุ่มพวกนี้ แค่ซื้อกล่องก็ดูได้แล้วไม่ต้องเสียรายเดือน แถมคนทำยังขายโฆษณาได้อีก แม้ไม่เป็นกอบเป็นกำเหมือนฟรีทีวี แต่ก็ยังดีมีช่องเป็นของตัวเอง มีอำนาจไว้ต่อรองบางเรื่อในเชิงธุรกิจกันต่อไป

บางช่องดาวเทียม ผมยังแอบชื่นชม ที่เขาอาจจะเคยเป็นช่องที่ขับเคลื่อนทางการเมือง จนยุคสมัยเปลี่ยนไป ไม่มีภาคธุรกิจใหญ่มาสนับสนุน ก็หาสินค้ามาขายเอง ผลิตเอง ขายกันเอง อาจถึงขั้นดูกันเอง แต่ก็ยังอยู่ได้ด้วยแนวทางขายปัญญาและสาระ ผมว่าภาคธุรกิจที่ใหญ่ๆ ลองหันมองดู ดูดีๆ อาจมีประโยชน์ ดีกว่ามองเรื่องความขัดแย้งเฉยๆ

จุดนี้เองคนในวงการก็มองว่า ตลาดทีวีดาวเทียมกำลังคึกคัก เคเบิลต้องตายแน่ๆ แต่ผมก็ว่าไม่น่าตายนะ บางเจ้าสร้างสถานีใหญ่กว่าสถานีดาวเทียมเสียอีก ส่วนที่ต้องจบจริงๆ มันก็คงเป็นเรื่องปกติทั่วไปของภาคธุรกิจ ที่ต้องดูว่าคอนเทนต์ขายได้มั้ย มีอะไรดีกว่าเขาป่าว ถ้าไม่มีมันก็จบ แต่คงไม่ใช่ภาคธุรกิจนี้จบแน่นอน ไม่งั้นเราจะมานั่งดูข่าวต่างประเทศ หรือสารดคีจากต่างประเทศได้อยู่จนทุกวันนี้รึ เขาทำยังไงจุดนี้ผมว่าน่าสนใจ

ส่องทีวีดิจิทัลเปรียบทีวีดาวเทียม

พอดิจิตอลทีวีมา คนก็บอกว่าทีวีดาวเทียมจะตาย แต่ผมว่าโดยหลักไม่น่าจะตายถ้าการตายหมายถึงหายจากสารบบไปเลยนะ เพราะผมเชื่อว่าที่อยู่ได้ไม่ได้ มันก็คงต้องขึ้นอยู่ว่าตั้งใจแบบไหน บางเจ้าก็มาเฉพาะกิจ บางเจ้าก็มาเพื่อขายของได้เงินแล้วก็ไป ส่วนเจ้าที่ตั้งใจแต่หายไปอยู่ไม่ได้ ก็อาจติดที่วิธีคิดว่าสู้ตรงเป้ารึป่าว หรือจังหวะนี้ยังไม่รุ่งแต่จะสู้หรือไม่สู้ต่อ ก็ว่ากันไป

พูดก็พูดเถอะ คุณลองดูสิ ดิจิตอลทีวีประมูลกันต้นปียังไม่ทันจะปลายปีดี ข่าวทีวีดิจิตอลเริ่มคลอนแคลนถึงขั้นจะล้มหายไปก็หลายช่อง เสียค่าประมูลแพงบ้างละ เม็ดเงินโฆษณาในตลาดทีวีบ้านเรามันเท่าเดิม ยังกระจุกอยู่ที่ฟรีทีวีบ้างละ ถ้าจะรอให้ระบบอนาล็อคเขาเลิกตามสัญญาเราก็อาจจะเจ๊งก่อนว่างั้น ผมว่านักเศรษฐศาสตร์​บ้านเราเยอะนะ ทั้งที่เป็นที่ปรึกษาและที่ลงมือทำเอง ด้วยความเคารพ เรื่องที่ออกมาพูดกันประมาณนี้ มันจะคาดเดาไม่ได้เลยเหรอว่ามันจะเป็นยังไง กับการลงทุนช่วงปีสองปีแรก หรือจริงๆ คิดอะไรกันอยู่ อันนี้ผมอยู่ในวงการเองก็ยากที่จะคาดเดา เพราะเราแค่เมล็ดพันธ์เล็กๆ ที่สำคัญผมบ้านๆ อาจไม่ทันเกม

เพราะฉะนั้นดิจิตอลทีวี ที่ว่ามาแรงๆ ในช่วงนี้ แล้วมีสถานการณ์แบบนี้ ผมว่ากลุ่มผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการ ทั้งเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม ยังพออยู่ได้น่า... แต่ก็คงต้องมีการปรับตัวกันบ้าง หน้าจอโทนสีซีดๆจางๆ ปรับซะหน่อยมั้ย ลงทุนสักหน่อยสองหน่อย พอให้คนดูคึกคัก พอให้ลูกค้าใจชื้น ก็อาจจะยืนระยะยาวได้ เพราะผมเชื่อว่า ทีวีกลุ่มนี้มีแฟนคลับเป็นของตัวเองและน่าจะหาได้ไม่ยากถ้าตรงเป้า

พอตรงเป้าตรงประเด็น คนทำตลาดก็อาจจะบอกว่าแล้วมันขายได้เหรอ คนกลุ่มนี้จะมีปัญญามาซื้อของแพงๆที่โฆษณาขาย อันนี้ก็ต้องบอกว่าผมเองก็ไม่ช่ำชองพอ แต่เท่าที่เห็นนอกจากคนที่ทำธุรกิจการเงินหรืออสังหาริมทรัพย์ ขายบ้านหรูหลายสิบล้านร้อยลาน จะติดอันดับเศรษฐีไทยเศรษฐีโลกแล้ว คนที่เป็นเจ้าของสิ้นค้าหรือเครื่องดื่ม ชิ้นละห้าบาทสิบบาท เขาก็รวยติดอันดับโลกเหมือนกัน ตอนลงโฆษณาเขาก็จ่ายค่าโฆษณา ค่าเวลาอัตราเดียวกัน ก็เปิดโอกาสให้ชาวบ้านเขาได้เลือกซื้อสินค้หลากหลายแนวบ้างก็ดี หรือถ้าคิดว่าทีวีดาวเทียม อยู่กับคนฐานกลางถึงล่าง ก็หาสินค้าที่เหมาะกับเขา เพราะคนกลุ่มไหนๆ ก็ต้องกินต้องใช้ เหมือน ๆ กันนี่ อันนี้ผมมองอย่างผู้ผลิตนะ ถ้ามองอย่างคนดู ถ้าอันไหนโดนหรือใช่ ผมก็ดูอันนั้น

-ขยายความ"โดนหรือใช่"

ทีนี้อันไหนโดนไม่โดน มันก็คงบังคับกันไม่ได้ ของแบบนี้มันเป็นรสนิยมผมอาจจะชอบซีรีส์เกาหลีช่องนี้ แต่เช้านี้ผมชอบดูข่าวช่องนึง ตกเย็นดูสัพเพเหระอีกช่องนึง ดึกๆ มาดูข่าวอีกช่องก็ไม่เห็นจะเป็นไร ทางเลือกผมเยอะนี่ มีหลายๆ ช่อง แต่ละสถานีก็มีวิธีคิดที่แตกต่าง คิดอย่างไรก็นำเสนอออกมาอย่างนั้น อำนาจอยู่ในมือผู้บริโภคเพราะถือรีโมท (หัวเราะ)

สมัยก่อนทีวีมีให้ดูไม่กี่ช่อง สวิทไปสวิทมาเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาคนดูก็เหลือไม่กี่ช่องให้เปลี่ยน เพราะที่ลงทุนทำเอาใจชาวบ้านจริงๆ มีไม่เท่าไร จริงๆส่วนหนึ่งก็หวังเม็ดเงินโฆษณาด้วยนั่นละ อย่างช่อง3 กับช่อง7 ชาวบ้านที่ไหนก็รู้ว่าถ้าจะดูละครแบบไทยๆ ต้องดู 2 ช่องนี้ ไม่ได้หมายความว่าช่องอื่นไม่มีให้ดูนะ แต่จากผลสำรวจมันบอกว่าโดน เพราะเล่นกับอารมณ์คนดูเล่นกับอารมณ์ชาวบ้าน การนำเสนอได้ใจ ผลมันออกมาว่ายังงั้น แต่ก็ไม่ได้ความว่าสองช่องนี้ไม่มีสาระอื่นๆให้ดู มันก็มีบางห้วงเวลาบางพื้นที่สอดแทรกสลับสับเปลี่ยนกันไป ที่สำคัญถึงช่วงเวลาข่าวเขาก็มีข่าวมานำเสนอ ลงทุนซื้ออุปกรณ์แพงไมารายงานภาคสนาม เหตุเกิดจากพื้นที่ไหนก็ไปรายงานให้เห็นกันสดๆ ทันที ได้ใจชาวบ้านแแบบเลี่ยงไม่ได้ นี่เขาสู้กันแบบฟรีทีวี ไม่ได้มีดีแต่ละคร ข่าวที่นำเสนอก็อยู่ภายใต้ทฤษฎี ต้องเป็นกลาง

ถึงยุคนึงสมัยนึง การเมืองเข้มข้น การกำเนิดของช่องทีวีดาวเทียม ที่ออกมาเป็นช่องทางในการสื่อสารระหว่างแกนนำกับมวลชน สร้างกระแสเป็นประวัติการณ์ ตั้งแต่ ASTV,PTV จน BLUESKY ช่องที่ไม่ได้มีมวลชนเป็นของตัวเองอย่าง NATION, SPRING ที่เกาะติดเหตุการณ์อย่างต่อเนื่องก็พลอยได้รับการกล่าวขานถึงอย่างต่อเนื่องคู่ขนานกันไป ช่วงนี้จังหวะนี้นี่เอง ทฤษฎีสื่อต้องไม่เป็นกลาง ต้องอยู่ข้างความถูกต้องก็เกิดขึ้น เล่นเอาข่าวช่องฟรีทีวีหลักๆ ถูกจับตามองไม่ใช่น้อย เพราะถ้าทำอย่างทำอย่างที่เคยทำ เพื่อนมีโห่

แต่อย่างว่าอะไรที่เป็นกระแสบ้านเราอยู่ได้ไม่นาน ท้ายที่สุด ทุนนิยมก็เข้ามาทำหน้าที่ภาคธุรกิจกันต่อไป ใครดีใครได้ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ก็ดำเนินกันต่อไป แต่ที่หลงเหลือให้จดจำกันบ้าง ก็คงเป็นเรื่องของจิตสำนึก เรื่องความพยายามในการต่อต้านคอรัปชั่น ที่เป็นต้นเหตุแห่งความล้มเหลวในการพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ ที่อาจจะดูใช่บ้างไม่ใช่บ้าง ก็ยังดีที่ยังมีความพยายามในการสานต่อเจตนารมย์นี้

-การแข่งขันของทีวีบ้านเราตอนนี้มองยังไง

...ดิจิตอลมาแบบนี้ ยังไง เคเบิล กับดาวเทียม ก็ยังไม่ตาย ผมใช้คำว่ายังไม่ตายนะ แต่ในอนาคตไม่ว่าในเชิงอุตสาหกรรมจะเปลี่ยนไปยังไง กลุ่มแพลทฟอร์มจะหนาแน่นแค่ไหน ทีวีดาวทียมและเคเบิลทีวี ที่อยากทำจริงๆ ก็ยังคงมี แต่ก็ต้องปรับตัวกันยกใหญ่

เอาแบบมองสถานการณ์ช่วงนี้ระหว่างนี้ ว่ากันว่า ปี 2556 ในอุตสาหกรรมสื่อโฆษณา มากกว่า 55% ประมาณ 6-7- หมื่นล้านบาทต่อปี ไปซุกอยู่กับฟรีทีวี 3-4 ช่อง อีกประมาณ 15 % ไปอยู่ที่สื่อสิ่งพิมพ์ หลักหมื่นล้านบาท อ้าวแล้วเคเบิลกับทีวีดาวเทียมละ เคเบิ้ลก็เป็นระบบหาสมาชิก ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย จะอยู่ได้ก็ขยันหน่อย ส่วนทีวีดาวเทียมตัวเลขโฆษณาบางส่วนอาจอยู่ในระบบเพราะผ่านเอเยนซี่ บางส่วนไม่อยู่ในระบบเพราะไม่ต้องผ่านเอเยนซี่ เพราะพี่ขายเอง แบบไดเรกซ์นั่นเอง

ถ้าจะให้อยู่ได้สำหรับช่องดิจิตอล ผมว่าก็ใช้แนวตอนที่ทำทีวีดาวเทียมกันละครับ คือ nich market เจาะตรง ถนัดอะไรก็ทำอันนั้น อีกอย่างผมว่าฐานคนดูเดิมๆ เรายังมีอยู่ เช่น Grammy, RS นี่ไม่ต้องพูดถึง เรื่องเพลง บันเทิง หนัง ละคร บ้านเราต้องเขา เสริมข่าวตามกติกา อย่างน้อยก็ให้คนดูที่เขาเป็นแฟนคุณจริงๆ ไม่เปลี่ยนช่องไปไหน ได้รับรู้ข่าวสารบ้างก็โอเคแล้ว Workpoint ที่เข้มแข็ง ทั้งเกมโชว์ สาระโชว์ ถูกคอชาวบ้านเป็นพื้นฐาน ถ้าจะเติมรายการที่เกี่ยวกับข่าว ข่าวชาวบ้านให้น่าดูขึ้นมาหน่อยก็ผมว่า ฟรีทีวี อย่างช่อง 3 ช่อง 7 นี่ต้องปรับกลยุทธ์กันหนักแน่

ส่วนที่ประมูลกันมาเยอะแยะมากมายจะทำไง ผมคิดได้แค่ว่าทำของดีๆ รอไว้ แล้วต้องหาทางโปรโมท ประชาสัมพันธ์ตัวเอง จากเป้าหมาย คิดว่าอยากได้กลุ่มคนเมือง ก็หาสินค้ามาป้อน อยากได้ชาวบ้านก็หาของถูกคอมาจัด อยากได้ทั้งสองกลุ่มก็ต้องสู้หนักหน่อย แล้วเดินไปบอกชาวบ้าน ว่าตอนนี้ในกล่องรับทีวีบ้านคุณมีช่องนี้อยู่นะ ช่องนี้มีรายการประมาณนี้นะ ว่างแวะเข้าไปดูกันนะครับ ประมาณนี้ คือผมพูดแบบคนที่ผ่านประสบการณ์มาเพียงน้อยนิดนะครับ แต่ช่องว่างที่ผมเห็นของคนทำทีวีบ้านเราตอนนี้คือ เราจะสู้อย่างสมัยที่มีทีวีอนาลอก 5-6 ช่อง ประเภทที่กดรีโมทรีโมทไม่กี่ทีก็เจอเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว จะนำเสนอรูปแบบรายการซ้ำ ๆ ก็ยาก จะวางผังรายการตามสูตรตามทฤษฎีเดิม ๆ มันก็ยังยาก เพราะแพลทฟอร์ม ช่องทางการออกอากาศก็มีหลายแบบ ตอนนี้มัน cross section หรือไขว้กันไปไขว้กันมาเยอะ ต้องออกแบบเยอะหน่อย ผมคิดแบบคนดูนะ

ปัจจัยของทีวีบ้านเรา ตอนนี้ เท่าที่ผมมองเห็น มันเกี่ยวพันเชื่อมโยงกันหลายเรื่อง คนทำจะทำอะไร ทำให้ใครดู ผ่านช่องทางไหน จะทำยังไงให้คนดูรู้จัก จะทำยังไงให้มีคนดู เพราะมันหมายถึงจะทำยังไงให้คนขายของอยากมาขายของกับเรา ผมว่ามันเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องใช้วิชาเยอะ แต่น่าสนใจ และมันก็เป็นศาตร์เฉพาะที่ผมว่ามันเป็นจังหวะที่ต้องสร้างทฤษฎีการสื่อสารใหม่ ๆ ขึ้นมาละ ถามว่าผมทำได้มั้ยที่พูดๆมา ด้วยประสบการณ์มันก็คงได้ระดับหนึ่ง ผมคงไม่อาจะเทียบชั้นกับผู้คร่ำหวอดในวงการที่มีอยู่ไม่น้อย ผมยังห่างไกลปรมาจารย์เหล่านั้นเยอะ แต่นี่ก็แค่ความคิดหรือแนวคิดส่วนหนึ่งของผม แต่มวยถ้าได้ขึ้นชกมันก็ต้องสู้เต็มที่ ถ้าโปรโมเตอร์เขาจัดให้แลัว(หัวเราะ)

-เล่าชีวิตการทำงานทีวีที่ผ่านมาให้ฟังหน่อย

ผมเริ่มต้นงานข่าว ก็กับเครือเนชั่น กรุ๊ป นี่ละครับ เมื่อ 20 ปี ที่แล้ว ไปเริ่มต้นกับศูนย์ข่าวภาคอีสาน เรียกได้ว่า ได้ครูข่าวก็ที่นี่ละครับ ที่นี่สอนตั้งแต่หาข่าว เขียนข่าว ถ่ายรูป เราก็ล้างฟิล์มกันเอง วันดีคืนดี ก็ช่วยพี่เขาจัดหน้า ยิ่งตอนนั้นทำแทปลอยด์ อีสาน เป็นอะไรที่สนุกมาก หาข่าว มาเขียนข่าว มีคอลัมน์เป็นของตัวเอง หัวหน้าข่าวคนแรกของเรา คุณนิกร จันพรม สอนแทบทุกอย่าง ถ่ายภาพเองด้วยบางที

ยุคนั้นสมัยนั้น เราสนุกกับข่าวการเคลื่อนไหวขององค์กรชาวบ้าน ภาคประชาชนมาก ม้อบที่ไหนเป็นต้องเจอกัน ประมาณธันวาคม 2536 ช่วงที่สมัชชาคนจน ซึ่งนำโดยบำรุง คะโยธา อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ มีการเคลื่อนไหวเดินเท้าจากลำตะคองเข้ากรุงเทพฯ ผมได้เริ่มงานข่าวที่สนามนั้น กับครูคนแรกของผม พี่ตึ๋ง ปิยะราช อินทรพานิชย์ ตอนนี้พี่แกจากไปแล้ว ทั้งหาข่าว เขียนข่าว ส่งข่าว รายงานวิทยุ ตอนนั้น เนชั่น มีครบทุกสื่อ พอจะครบสัปดาห์ พี่ตึ๋งก็จะนั่งปั่นคอลัมน์จุดประกาย ผมจะแอบเอาของแกมาปั่นส่งเนชั่นสุดสัปดาห์อีกรอบ จริงๆ ก็ข้อมูลเดียวกันนั่นละ สนุกมากช่วงนั้น เราเดินกันเป็นเดือนๆ เดินจนไม่สนใจเบี้ยเลี้ยง ไม่ได้ทวงถามด้วย เพราะอาศัยเพื่อนๆในม็อบเป็นหลัก ผ่านไปสัปดาห์โรงแรมที่พักเริ่มจะเอะใจให้พนักงานถามว่าจะเคลียร์เมื่อไหร่ นั่นละถึงได้มองหนัากันว่า เออวะ เราไม่ได้เบิกเงินกันมากเลยนี่หว่า เพราะออกจากกรุงเทพประมาณ 3 ทุ่ม ที่ประชุมแจ้งก็ ขึ้นรถทัวร์กันมา เพราะช่วงนั้นยังทดลองงานอยู่ที่กรุงเทพฯ บางนา-ตราดนี่ละ

ทำข่าวการเคลื่อนไหวนี่สอนเราหลายอย่าง หนึ่งละคือการกรองข้อมูลต้องสูงมาก จะเชื่อสิ่งที่ได้ยินมาอย่างเดียวไม่ได้ เพราะหากเรารายงานอะไรไปอย่างรวดเร็วทันทีอาจจะเกิดความผิดพลาดได้ ถ้าเรื่องนั้นไม่ใช่เหตุการณ์หรือสถานการณ์เฉพาะหน้า ครั้งหนึ่งเราเดินตามมวลชนมาจนเข้าเขตสระบุรีแล้ว โค้งท้ายๆ ละ ประมาณ เกือบๆ สองทุ่ม เราก็รอฟังการปราศรัยบนเวทีตามปกติ ก็ถือเป็นการอัพเดทสถาการณ์และข้อมูลไปในที กำลังสนทนากับเพื่อนๆ รอบเวที ก็ได้เสียงผู้ปราศรัยบนเวทีตะโกนอย่างสะใจว่า ตอนนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ที่ไม่ยอมดูแลเราได้ลาออกแล้วพี่น้อง เท่านั้นละครับ เสียงเฮของมวลชนก็ดังขึ้นอย่างดีใจ เพื่อนผมซึ่งเรารู้จักกันในสนามข่าวเพราะอยู่ด้วยกันหลายวันที่อยู่สำนักข่าววิทยุชื่อดัง ก็วิ่งไปหาที่สงบรายงานข่าวทันทีมืออาชีพมาก แต่ของผมต้องรอรอบดึก ผ่านไปแค่ไม่กี่นาทีพิธีกรบนเวทีก็วนกลับมาเรื่องเดิม แต่พี่แกเอาฮาว่า พอผมตื่นขึ้นมาผู้ว่ายังอยู่เหมือนเดิม เสียงฮาก็เกิดขึ้น แต่เพื่อนผมที่เพิ่งเดินกลับมาสีหน้ายังมึนงง แต่ที่สุดก็หาวิธีการแก้ข่าวจนได้ ทำไงได้จะว่าคนบนเวทีก็ไม่ได้เพราะสถานการณ์เช่นนั้น ทุกคนอาจจะล้าเพราะเดินเท้ามาหลายวัน สีสันของการพูดคุยมันก็ต้องมีบ้างเป็นธรรมดา แต่มันก็ได้สอนเราว่าบางเรื่องต้องค่อยๆ คิดค่อยๆ กรอง

-ชีวิตคนทำข่าว

การอยู่ศูนย์ข่าวของคนทำข่าว ที่มีสำนักข่าวอยู่ส่วนกลางที่กรุงเทพฯ ผมว่าพวกเรานี่ได้เปรียบหลายอย่าง อาจเหนื่อยหน่อยที่ต้องวิ่งหลายหน้า หมายถึงวิ่งข่าวแบบไม่แบ่งสาย ประเภทนายกฯลงพื้นที่แต่ถ้าทีมพี่ที่กรุงเทพไม่ว่างก็ต้องไป หรือบางทีตอนที่มีแทบลอยด์ เราก็ต้องไปเองเพื่อเอาข่าวมารายงานอยู่แล้ว ตรงนี้ผมถือว่าคนที่ศูนย์ข่าวได้เปรียบเชิงวิชาชีพมาก เพราะสัมผัสข่าวทุกประเภท สังคม การเมือง อาชญากรรม ที่เหลือจะถนัดแบบไหนหรือชอบแบบไหนก็เลือกเอา แล้วแต่รสนิยม ข้อดีอีกข้อของคนอยู่ศูนย์ข่าว อยู่ตรงที่ใกล้ชิดผู้สื่อข่าวพิเศษประจำจังหวัด ซึ่งคนอยู่ศูนย์ก็คล้าย ๆ กันแต่มีเงินเดือนประจำ ทำทุกตำแหน่ง แต่คนที่ประจำจังหวัดที่เราเรียกกันว่าสตริงเกอร์นี่ นะ ทำทุกข่าวที่เป็นเหตุ และที่ส่วนกลางทั้งศูนย์หรือกรุงเทพ ขอมา เพราะฉะนั้นผมถือว่าคนกลุ่มนี้รุ่นครู ไม่เซียนจริงวิ่งข่าวในจังหวัดไม่ได้ หูตาหรือสายข่าวก็ต้องมีเหมือนกัน แม้พวกเขาจะไม่มีเงินเดือนประจำ แต่บางคนนี่รวม ๆ กันหลายสำนัก อาจจะรายได้มากกว่าเราก็ได้ แต่นั่นก็เกิดจากฝีมือล้วน ๆ กล้องเขา น้ำมันเขา เขาลงทุน

พอสักปี 2540 ผมได้โอกาสจากเพื่อนชักชวนให้ไปทำทีวี ที่เรียกได้ว่าฮอทสุดในยุคนั้นคือ ไอทีวี ผมไม่ลังเล อยู่ตั้งแต่กินค่าข่าวรายชิ้น จนได้บรรจุเป็นนักข่าว เป็นผู้ประกาศ และหัวหน้าศูนย์ข่าว อยู่ที่นี่ ผมได้วิชาการทำทีวี ไสตล์คนรุ่นใหม่ทีนี่ เขียนข่าว ต้องสั้นกระชับ จะร่ายยาวทุกรายละเอียดเหมือนหนังสือพิมพ์ไม่ได้ สรุปๆ ได้ประเด็น ข่าวต้องสัมพันธ์กับภาพ วิธีเขียนข่าวต้องแบบปิระมิดหัวกลับ พูดก็พูดเถอะอ้ายเราไม่ได้เรียนมา พี่สอนผมทำก็จำๆ กันมา เพราะนั่นคือสไตล์ ครูก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ เขาสอนมาอยู่ที่ไอทีวี ผมต้องบอกว่าได้เรียนรู้คำว่าการให้โอกาสและการสร้างโอกาสให้กับตัวเองมากๆ ก็ที่นี่

ผมเพิ่งรู้ว่าการที่ผมฝึกอ่านหนังสือพิมพ์ออกเสียง เพราะอยากเป็นคนจัดรายการวิทยุหรือทีวีนี่ได้ ประโยชน์ตอนนี้นี่เอง วันที่ไอทีวีเริ่มเปิดตัวและสัญจรไปภาคอีสาน ผมก็ไปช่วยงานข่าวที่ภาคสนาม พี่เขาบอกให้ลองลงเสียงสคริปที่ตัวเองไปทำมา ผมรวดเดียวจบเหมือนที่เคยดูทีวี พี่เขาบอกผ่าน โอยดีใจ ยิ่งกว่านั้นช่วงที่สถานการณ์ชายแดนกัมพูชามีปัญหาเขมรสามฝ่าย อยู่ดี ๆส่วนกลางก็โทรศัพท์มาแจ้งว่าให้ไปรายงานโอบีที่ศรีสะเกษ เราต้องยืนรายงานเองด้วย เข้าสถานีทุกเบรค เอาละวาไม่เคยไปอบรมกับเขาที่กรุงเทพ แล้วพี่ๆ เขาเชื่อใจเราได้ไงวะ เอาวะไม่มีอะไรจะเสีย คืนนั้นทั้งคืนนอนไม่หลับ โทรหาน้าเมฆ น้อยพิทักษ์ สตริงเกอร์สระแก้ว เล่าสถานการณ์ล่าสุดให้ฟังหน่อยจะเอาเป็นข้อมูล ไม่ต้องสงสัยว่าไปศรีสะเกษแล้วไปถามอะไรคนสระแก้ว เพราะคนนี้เขาเซียนข่าวชายแดนไทยกัมพูชา

ทุกวันนี้ก็ยังทำอาชีพนี้ ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นไปถึงศรีสะเกษ ตี5เจอหน้าทีมงาน ผู้กำกับเขาบอกว่าส่วนกลางสั่งให้เต็มที่ 6โมงเช้าเบรกแรกเลยนะ (หัวเราะ) สมชัยทำได้ จะไม่ได้ได้ไงสคริปเขียนมาแต่เมื่อคืน แต่เชื่อมั้ยครับเกมพลิก เพราะจังหวะนั้นที่เราคิดว่าชาวกัมพูชาจะมาจากอัลลองเวง คงทยอยเดินทางมาเป็นสาย ๆภาพสวยว่างั้น สคริปที่คิดไว้ก็ประมาณว่า ภาพที่ท่านผู้ชมเห็นอยู่ข่าวหลังผมนั้น คือชาวกัมพูชาจากอัลลองเวง ที่หนีภัยสงครามมานะครับ....

แต่ปรากฏว่าพอจะเข้าช่วงรายงานสดจริง ๆ 6 โมงยังไม่เห็นใครเลย สคริปสดมาเลย " อีกไม่นานครับ หลายฝ่ายเชื่อว่าชาวกัมพูชาจะพากันทยอยเดินทางมาตามเส้นทางสายนี้ หลังจากเกเดิเหตุการณ์ไม่สงบในเมืองของเขา....1 นาที ผ่าน ไป เหลียวหลังมองแล้วมองอีก พี่ผู้กำกับที่อยู่ในโอบี บอกผ่านหูฟังยังไม่เห็นใครเลยว่ะเล็ก ด้นไปก่อน 2 นาที แทบหน้ามืด พอเริ่มต้นได้ด้นเพราะเวลาไม่ตามแผนนี่ ทำทีวีเจอเรื่อย และแนวนี้ของการรายงานสดจากสนาม เราก็จะเจอแบบนี้บ่อยๆ เพราะด้วยความเป็นข่าวเราไปกำหนดเวลาเหตุการณ์แบบนี้ได้ เต็มที่ได้แค่ประเมินและคาดการณ์ให้ใกล้เคยงที่สุด

-ทำงานที่นิวส์วัน

ปลายปี 2547 เข้ากรุงเทพฯ ร่วมงานกับสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ตั้งแต่ 11 นิวส์วัน จนเป็น เอเอสทีวี เครือผู้จัดการ คุณวสันต์ ภัยหลีกลี้ ให้เข้ามาช่วยสร้างทีมข่าวภูมิภาคให้กับฝั่งทีวี ไม่กี่เดือนก็เจอสึนามิ ลงไปอยู่ใต้เป็นเดือนเหมือนกัน ตอนนั้นถือว่าทำงานสนุกมาก ได้สั่งสมประสบการณ์การทำทีวีเพิ่มขึ้น ได้เรียนรู้และมีส่วนร่วมของการเป็นนักต่อสู้ในอีกรูปแบบหนึ่ง ก็ได้นำมาใช้ประโยชน์ทุกวันนี้

จากนั้นประมาณ ประมาณต้นปี 51 ก็เข้าร่วมงานกับ มีเดีย ออฟ มีเดียส์ จากการชักชวนของคุณเชิงชาย หว่างอุ่น เพื่อนกันตั้งแต่สมัยไอทีวี มาร่วมสร้างรายการเจาะเกาะติด ประเด็นเด็ด 7 สี เช้านี้ที่หมอชิต ด้วยกัน ที่ทำข่าวแล้วเรารู้สึกว่าเป็นตัวเรามากที่สุดที่ผ่านมา ก็คงเป็นเรื่องเกี่ยวกับบั้งไฟพญานาคและปอบ มันเป็นเรื่องความเชื่อ ที่มีคนมองหลายมุม แต่เราเลือกที่จะเปิดมุมบางมุม ที่ให้เป็นทางเลือกต่อความคิดคน จริงอยู่มันอาจจะเปลี่ยนแปลงวิธีคิดอะไรได้ไม่มาก

แต่มันก็คือข่าวคือหน้าที่เรา ไม่ได้บู๊เอาเป็นเอาตายว่าคุณต้องเชื่อผมทั้งหมด เช่น บั้งไฟพญานาค ความเชื่อเดิมของคนพื้นถิ่น เชื่อว่า เกิดจากพญานาคที่อยู่ใต้โลกมนุษย์ จุดบั้งไฟถวายเป็นพุทธบูชา สักระยะมีนักวิชาการที่บอกว่าได้พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่าลูกไฟที่เห็นเกิดจากการอัดตัวของธาตุต่าง ๆ แล้วเกิดเป็นลูกไฟ ผ่านมาห้วงนึง มีนักวิทยาศาสตร์อีกฝั่งบอกเกิดจากฝีมือมนุษย์ พอเราพยายามจะพิสูจน์และนำเสนอ ก็เกิดเอฟเฟคจากคนที่เขาเชื่อไม่น้อย

อีกเรื่องก็คือปอบ ที่ชาวอีสานโดยส่วนใหญ่ และส่วนใหญ่เกิดในพื้นที่ภาคอีสาน เหนือก็มีบ้างที่เขาเรียกผีกะ ผมเคยตามว่าที่นี่ใครบอกว่าผผโดนปอบเข้า หมู่บ้านไหนทำพิธีไล่ปอบ ตามไปดูมานำเสนอหลายรอบจนมีสาย(ชาวบ้าน) คอยแจ้งให้เราไปดู ทำไปทำมาเราก็มีข้อสงสัยเรื่อยๆ จนไปเจองานวิจัยและได้รู้จักนักวิชาการวัฒนธรรม อย่าง รศ.ดร.นิยม วงษ์พงศ์คำ, อ.ชอบ ดีสวนโคก ท่านบอกดูดี ๆ สิ คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นปอบ ส่วนหนึ่งมันเกิดมาจากความขัดแย้งในชุมชน เราก็บอกเออใช่ เพราะส่วนใหญ่ คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นบอก แล้วถูกเพื่อนบ้านไล่ออกจากหมู่บ้าน ถ้าดูปูมแล้วไม่ธรรมดา บางคนเป็นนายทุนเล็กๆ ปล่อยกู้ให้ชาวบ้าน บางคนก็มีเรื่องขัดแย้ง แต่ถ้าว่าตามความเชื่อเขาก็บอกว่าถือครองเรื่องบางเรื่องเกี่ยวกับไสยศาสตร์แล้วทำไม่ได้ โยงกันไปโยงมาบางพื้นที่หนักข้อ มีกลุ่มคนที่หากินกับความเชื่อนี้แล้วเอาความขัดแย้งมาเป็นตัวตั้ง

แล้วก็เข้าไปปั่นสถานการณ์บ้านนี้มีคนตายบ่อย ต้องไล่ปอบ ต้องเสียเงิน ต้องลงขันจ้างหมอธรรมมาทำพิธี ซึ่งในทางวิจัยชุมชนนี่ นักวิชาการเขาบอกว่าแค่ค่าครูไม่กี่บาทก็ต้องช่วยชาวบ้าน ไม่มีการเรียกร้องเป็นทางการขนาดนี้หรอก แล้วด้วยความเชื่อและความต่างที่เกิดขึ้นจนเป็นวิถีนี่ เชื่อมั้ยว่า ในพื้นที่ภาคอีสาน มีอย่างน้อย 2 ชุมชนใหญ่ ในพื้นที่จังหวัดสกลนครและศรีสะเกษ ถูกขนานนามว่าเป็นหมู่บ้านผีปอบ เพราะมีคนที่เคยถูกขับ หรือถูกกล่าวหาจากชุมชนที่เคยอาศัยอยู่ว่าเป็นปอบ แล้วก็พากันอพยพตัวเองออกมาตั้งถิ่นฐานใหม่ โอยเรื่องนี้ซับซ้อนหลายมุม เล่าแล้วยาว

-แล้วตอนนี้ทำไร

ตอนนี้ว่างงานประจำครับ ก็มีโอกาสได้ทำภาพยนตร์กับเพื่อนๆ เรื่อง ฮักเขาใหญ่ มหากาพย์ภาพยนตร์ ที่อยากให้คนทั้งโลกดู ผมเป็นนักประพันธ์มือหนึ่ง ไม่ใช่เก่งนะ คือขึ้นโครงขึ้นเรื่อง แล้วทีมงานเอาไปพัฒนาเป็นบทภาพยนตร์ต่อนั่นมืองสอง (หัวเราะ) มุ่งหวังอยากให้คนไทยอนุรักษ์หวงแหนผืนป่าทั่วประเทศ เพราะจากที่เราทำข่าวมา เห็นว่าโลกนี้ไม่ว่าจะอยู่ในภาคส่วนใด สิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญ และมันก็ใกล้ตัวเรามากที่สุด หนังเรื่องนี้เชื่อผมสิ ดูแล้วสนุกแน่นอน ได้ผู้กำกับมือทองระดับอาจารย์มากำกับ รศ.ดร.นิยม วงษ์พงศ์คำ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ อ.ปรีชา สาคร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ชั้นนำของทางภาคอีสาน เป็นพี่น้องที่คุ้นเคยกัน เพราะเราใช้ทุนทำน้อย คิดใหญ่ ใจถึง เงินถึงแต่ไม่มาก

อาจจะฟังเหมือนหนังสารคดี แต่จริงๆ ไม่ใช่นะครับ เพราะเราพยายามหาตัวผูกเรื่อง เชื่อมโยง คนเขียนบทก็เขียนดีดีกว่าผมเขียนบทประพันธ์อีก นักแสดงก็หน้าใหม่ แต่ใจถึง ไม่มีเลิฟซีนนะ แต่เดินป่าทั้งเรื่องเดินจริงกลิ้งจริง นับถือน้ำใจทีมงานมาก

หนังเรื่องนี้ เราหยิบประเด็นเขาใหญ่ส่อวิกฤติมรดกโลก แล้วก็นำเรื่องราวของนกเงือก ที่นักวิจัยระบุว่าเป็นตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า และมีวิถีผัวเดียวเมียเดียว มาเชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ มาเจอกับนักอนุรักษ์วิชาการ ผสานกับความเป็นนักต่อสู้หาข้อมูลหาความจริงไปยืนยันกับยูเนสโก้ เพื่อให้เขาเชื่อว่าเขาใหญ่มันยังสมบูรณ์สวยงาม เพีอยงพอที่จะเป็นมรดกโลก แต่เราไม่ได้ปฏิเสธว่ามันมีขบวนการตัดไม้ทำลายป่า มีคนเข้าไปบุกรุก ทำลาย แต่เราจะทำให้เขาให้ว่ามันสมบูรณ์เพียงพอ เห็นมั้ย มันมีเรื่องราวของความรัก เรื่องราวของการต่อสู้ เรื่องราวของการะชิญชวนให้คนหันมาพิทักษ์หวงแหน ใ้ชเขาใหญ่เป็นตัวชูโรง แต่เจตนาจริง ๆ อยากให้ทุกพื้นที่ที่เหลืออยู่ของบ้านเราที่คนหันมาสนใจเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่เขามีแต่อาจจะไม่พอ เราคนไทยต้องช่วยกัน

ผมอยากให้หนังเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติด้วยซ้ำ อยากให้รัฐบาลลองพิจารณาดูถึงความตั้งใจและเจตนาดีครั้งนี้ของพวกเรา เอ่อไม่ได้เรียกร้องอะไรนะครับ เพราะลงทุนสร้างไปแล้ว เหลือคนดู เหลือเงินคืนแค่นั้นเอง หลัก ๆ คือการร