ตลาดคอนโดกทม.ยังเติบโตต่อเนื่อง

นางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ที่ปรึกษาด้านการตลาด และการขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียม ปี 58 นี้ ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก หรือเติบโตได้ปีละ 10-15% ในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า จากปัจจัยบวกคือ เศรษฐกิจที่เติบโต การเมืองที่นิ่ง บนพื้นฐานว่าผู้ประกอบการไม่พัฒนาโครงการใหม่ๆ เข้ามาในตลาดเกินปีละ 60,000 ยูนิต จากปี 57 ที่มี 47,500 ยูนิต เพิ่มขึ้น 14 % ส่งผลให้มีสินค้าในตลาดขณะนี้ถึง 388,000 ยูนิต

แต่ขณะเดียวกัน มีแนวโน้มว่า ราคาคอนโดฯ ก็ขยับสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นโดยปี 57 ราคาเฉลี่ยตารางเมตรละ 95,400 บาท เพิ่มขึ้น 4.5% จากที่ดินหายากและมีราคาแพง ทำให้ผู้ประกอบการต้องลดขนาดยูนิตให้เล็กลง เพื่อให้ผู้บริโภคระดับกลางซื้อได้ แต่ในส่วนของคอนโดฯ หรูนั้น มีโอกาสเติบโตสูงมาก และราคาขึ้นไปถึงตารางเมตรละ 300,000 บาทได้ จากที่ผ่านมาราคาเฉลี่ยตารางเมตรละ 142,70 -150,000บาท โดยเฉพาะในทำเลย่านศาลาแดง สุขุมวิท 39, สุขุมวิท 49-ทองหล่อ ส่วนคอนโดฯชานเมือง ราคาเฉลี่ยตารางเมตรละ 80,500 บาท ส่วนพื้นที่รอบนอกกทม. ตารางเมตรละ 63,500 บาท เพิ่มขึ้น 9%

“ปัจจุบัน ที่ดินดี ๆ ในเมืองนั้นหายากขึ้น ต้นทุนที่สูงขึ้น เป็นการจำกัดการสร้างสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดไปในตัว โดยเฉพาะในทำเลใจกลางกรุงเทพฯ คือ ศาลาแดง, หลังสวน-เพลินจิต และย่านสุขุมวิท 49 - ทองหล่อ สำหรับทำเลย่านขอบเมืองที่จะเป็นที่น่าดึงดูดได้แก่ พหลโยธินตอนต้น ๆ ท่าพระ-เพชรเกษม และรามอินทรา”

ทั้งนี้ มองว่าปีนี้ตลาดที่พักอาศัยระดับหรู หรือลักซ์ชัวรี่ และซูปเปอร์ลักซ์ชัวรี่ในกทม.นั้นจะมีการแข่งขันสูงขึ้น และน่าจับตามองในปีนี้ โดยคาดว่าปีนี้จะมีกว่า 10 โครงการเท่านั้นที่เกิดขึ้น ทั้งคอนโดฯ และบ้าน ขณะที่กลุ่มลูกค้ามีจำกัด ดังนั้นผู้ประกอบการต้องพัฒนาสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง พัฒนาสินค้าที่แตกต่าง ไม่เหมือนใคร (ยูนิค) ทั้งยังต้องเน้นเรื่องความเป็นส่วนตัว และบนทำเลททองเท่านั้น