"PIGSSS GAMES" เกมไทยในน่านน้ำดิจิทัล

การเติบโตของ สมาร์ทโฟน ส่งอานิสงห์ถึงธุรกิจผู้พัฒนาเกมและแอพพลิเคชัน ที่เรียกว่าเป็นยุคหอมหวานสุดๆ ของพวกเข
“PIGSSS GAMES” (พิกส์ เกมส์) คือ บริษัทพัฒนาเกมและ แอพพลิเคชัน สัญชาติไทยแท้ ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 กับชื่อเดิมที่บางคนอาจคุ้นหู “Flying Pig Game Studio”
นี่คือธุรกิจของเด็กไทย ที่ก่อความฝันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย นำทีมโดย สุพจน์ สวัตติวงศ์ , พิศาล เศรษฐวงศ์ และ ตวง เธียรธนู ศิษย์เก่าสาขา วิทยาการคอมพิวเตอร์ (Computer science) จากรั้วเอแบค
พวกเขาเริ่มทำเกมในโทรศัพท์ ยุคที่มือถือบ้านเราเริ่มเป็นจอสีใหม่ๆ มีรางวัลระดับประเทศการันตีฝีมือ “ไม่ธรรมดา” (รองชนะเลิศเวทีไอซีทีอวอร์ด) ขณะที่เกมซึ่งพัฒนาขึ้น เคยติด Top 3 ทำยอดดาวน์โหลดสูงสุดใน App Store ของประเทศไต้หวัน และ Top 15 ใน Mac App Store ของสหรัฐอเมริกา
“สิบกว่าปีก่อนตอนพวกผมเริ่มทำงานใหม่ๆ ตอนนั้นบริษัทเกมเยอะมาก ประมาณปี 2003-2004 เกมบนมือถือบูมมาก เป็นยุคที่ทุกคนนั่งโหลดริงโทน ดาวน์โหลดเกมกัน เรียกว่า เป็นยุคทองของเกมก็ว่าได้ แต่พอมือถือเริ่มอิ่มตัวเพราะทำอะไรไม่ได้มาก ทุกอย่างก็ฝืดลง ช่วงนั้นบริษัทเกมล้มหายตายจากไปเยอะ ส่วนหนึ่งหันไปทำเอ้าท์ซอสให้กับต่างประเทศ”
“สุพจน์ สวัตติวงศ์” หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง PIGSSS GAMES บอกสถานการณ์ตลาดเกมในบ้านเรา ที่ “เติบโต” และ “ตีบตัน” ไปพร้อมกับเทคโนโลยีมือถือในยุคแรก จนถึงวันที่โลกเข้าสู่การพัฒนาที่ก้าวไกล ตลาดสมาร์ทโฟนเข้ามาแทนที่มือถือยุคเก่าเต่าล้านปี ผู้ผลิตเกมเลยได้กลับมา “แฮปปี้” กันอีกครั้ง เขาบอกว่า ตอนนี้ตลาดเกมกลับมาบูม และคาดว่า น่าจะมีบริษัทเกมมากกว่ายุคที่เกมในไทยเคยบูมมากๆ ถึง 2-3 เท่า!
ทว่าท่ามกลางโอกาสหอมหวาน ก็ยังมีอุปสรรคก้อนโตเผชิญหน้าอยู่
“เดี๋ยวนี้เด็กจบใหม่ จะไปเปิดบริษัทเอง ทำให้เราหาแรงงานไม่ได้ ขณะที่น้องๆ ก็จะมาแย่งงานเราด้วย”
เขาบอกสถานการณ์จริง ในโลกยุคใหม่ ที่คนนิวเจนไม่อยากเป็นลูกจ้าง แต่อยากมาเป็นเจ้าของกิจการเอง แม้ประสบการณ์ที่น้อยกว่า หรือการตั้งราคาที่อาจถูกจนเข้าเนื้อ จะลดความน่ากลัวในฐานะ “คู่แข่งขัน” ของพวกเขา แต่ปัญหาที่หนักอกกว่าก็คือ “การขาดแรงงาน” หัวใจสำคัญของการพัฒนาเกม
“เราต้องพยายามรักษาคนเก่าไว้ให้ดีที่สุด เพราะคนใหม่ไม่ได้หาง่ายๆ ขณะที่ต้องขยันหาลูกค้าให้มากขึ้น สร้างคอนเนคชั่นให้มากขึ้น จากเดิมผมจะอยู่ที่ออฟฟิศเป็นหลัก แล้วให้หุ้นส่วนออกมาหางาน ตอนนี้ไม่ได้แล้ว อย่างงานสัมมนาก็ต้องไป เพราะบางครั้งเราอาจรู้จักลูกค้าจากงานสัมมนา ขณะที่ธุรกิจวันนี้ต้องขึ้นกับ คอนเนคชั่น”
กูรูหลายค่ายออกมาฟันธงว่า ตลาดปีหน้าจะท้าทายขึ้น ซึ่งหนึ่งตัวแปรสำคัญก็คือ “สมาร์ทโฟน” ที่จะมีผู้ใช้มากขึ้น จนเรียกได้ว่า เป็น "ยุคทอง" ของโมบายล์ โดย “ทรงยศ คันธมานนท์” ซีอีโอ เรดดี้แพลนเน็ต บอกว่า บ้านเรามีคนใช้มือถือกว่า 90 ล้านเครื่อง ประมาณ 30% เป็นสมาร์ทโฟน ขณะที่ในปีหน้ากลุ่มที่ใช้โทรศัพท์ธรรมดา จะเปลี่ยนมาเป็นสมาร์ทโฟนอีกอย่างน้อย 20% ที่น่าสนใจกว่านั้น คือ ปัจจุบันประมาณ 40% ของคนที่ใช้ออนไลน์ จะใช้จากมือถือ “เพียงอย่างเดียว” และนั่นคืออิทธิพลของสมาร์ทโฟนที่จะส่งผลอย่างมากในปีหน้า
สำหรับ PIGSSS GAMES พวกเขายังปรับตัวสู่โอกาสใหม่ๆ เพื่อไม่ให้ตกขบวน โดยเป็นทั้งผู้ผลิตเกมและแอพพลิเคชัน ทั้งแบบรับเอ้าท์ซอสมาทำ และผลิตเกมของตัวเอง จากพัฒนาเกมที่เล่นสนุก ก็เริ่มเข้ามาสู่เกมเพื่อการศึกษา และเกมที่ใช้เป็นกลยุทธ์การตลาดขององค์กรต่างๆ ซึ่งกำลังเติบโตอย่างมากในปัจจุบัน
“ลูกค้าในไทยมีทั้งเอเยนซี หรือบริษัทที่เขาต้องการโปรโมทตัวเอง ต้องการทำกิจกรรมการตลาดกับลูกค้า อย่าง เอาผลิตภัณฑ์มาแลกเกมบ้าง รวมถึงสื่อการสอนของรัฐบาล เช่น อยากได้งานสามมิติไปสอนเด็ก เราก็ทำให้ได้ จริงๆ แล้วเราสามารถทำได้หลายอย่างมาก ไม่ใช่แค่เกมที่เล่นสนุก แต่ทั้งใช้เป็นกลยุทธ์การตลาดของบริษัท และเกมเพื่อการศึกษาด้วย”
มีความสามารถและประสบการณ์ แต่โจทย์หลักสำคัญของการทำเกมก็คือ “ต้นทุน และเวลา” เนื่องจากเกมมีต้นทุนการผลิตที่สูงและใช้เวลาทำค่อนข้างนาน เขายกตัวอย่าง เกมขนาดใหญ่หนึ่งเกม อาจต้องมีเงินทุนถึง 25-30 ล้านบาท ซึ่งต้นทุนที่แพงที่สุดก็คือ “คน” แม้แต่ ทีมเล็กๆ ของเขา ยังต้องใช้คนถึง 5-10 คนต่อเกม ขณะที่ระยะเวลาในการทำก็กินเวลาหลายเดือน บางเกมก็เกือบปี ขณะที่ช่วงไหนหากลูกค้าไม่ต่อเนื่อง ก็ยังต้องทำเกมของตัวเอง..ไม่อย่างนั้นจะอยู่ไม่รอด!
“การทำเกมเอง เสี่ยงกว่า เพราะเราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า เกมจะขายออกไหม ขายออกแล้วจะได้เงินเท่าไร และยังต้องมีเงินเหลือสำหรับทำการตลาดด้วยนะ เดี๋ยวนี้แค่ค่าโฆษณาออนไลน์ ก็ต้องโยนไปสัก 1-2 ล้านบาทแล้ว ส่วนใหญ่งานเอ้าท์ซอสจะสบายกว่า แต่กำไรจริงๆ ไม่ได้เยอะมาก มาร์จิ้นอาจแค่ 20-30% เท่านั้น” เขาบอก
สำหรับ PIGSSS GAMES พวกเขามีลูกค้าปีละแค่ไม่กี่เจ้า แต่เป็นเจ้าที่สามารถหล่อเลี้ยงธุรกิจให้อยู่ได้ตลอดทั้งปี โดยโพรเจคใหญ่ๆ ที่เนื้อหาค่อนข้างมาก และเป็นเกมที่ต้องเล่นกันยาวๆ ก็อยู่ในระดับราคาที่ประมาณ 5-10 ล้านบาท
เพราะ “ทุน” ยังเป็นอุปสรรคสำคัญ ในการขยับขยายธุรกิจ เป้าหมายที่ท้าทายขึ้นในวันนี้ คือ การเตรียมมองหาผู้ร่วมทุน (Venture Capital) เพื่อให้มีกำลังมาผลิตเกมที่ใหญ่ขึ้น คุณภาพดีขึ้น และดึงดูด “กำลังคน” เข้ามาร่วมงานมากขึ้น
เขายอมรับว่า ที่ผ่านมามีหลายบริษัทสนใจที่จะซื้อกิจการเล็กๆ ของพวกเขา โดยเฉพาะต่างชาติ ที่อยากเข้ามาลงทุนทำเกมในเมืองไทย ด้วยแรงงานที่ฝีมือดี และค่าแรงที่ถูกกว่าบ้านเขา ขณะรัฐบาลก็มีนโยบายให้การสนับสนุน ทว่าประเด็นสำคัญ คือ พวกเขาไม่รู้ว่าจะประเมินมูลค่าความคิดสร้างสรรค์ และทรัพย์สินทางปัญญาของตัวเองอย่างไร ง่ายๆ คือ ไม่รู้ควรตั้งราคาเท่าไรถึงจะเหมาะสม สำคัญกว่านั้นคือ ถ้าปล่อยให้ “PIGSSS GAMES” เป็นธุรกิจจ๋าเกินไป ก็คงไม่ใช่ทางของพวกเขา
“หลายครั้งที่ปฏิเสธไป ก็เพราะความบ้าของเราด้วยแหล่ะ ต้องเข้าใจก่อนว่า นักธุรกิจคือนักธุรกิจ เขาต้องสนใจธุรกิจที่ทำกำไรให้มากที่สุดอยู่แล้ว แต่เราเป็นคนที่ทำเกมจริงๆ ถ้าเน้นกำไรมากๆ กลายเป็นว่า เกมที่ออกมาจะกลายเป็นธุรกิจฝั่งเดียว ก็คงไม่ตอบสนอง Pission เรา”
เขาบอกมุมคิดในการทำธุรกิจเกม ที่ไม่ได้มีแค่เงินเป็นเป้าหมายสูงสุด แต่ต้อง “มีความสนุก” และ “ความสุข” ในการทำงานร่วมอยู่ด้วย
ในวันนี้ธุรกิจเกมและแอพพลิเคชัน กำลังหอมหวาน เด็กจบใหม่หลายคนจึงเลือกระโดดมาตั้งบริษัทของตัวเอง ทว่า รุ่นพี่ที่อยู่มาก่อน และกำลังเผชิญกับวิกฤติขาดคน บอกเราว่า ทำธุรกิจสตาร์ทอัพไม่ได้ง่าย ถ้าไอเดียไม่โดนจริง จะอยู่ยาก เลยอยากแนะนำให้เก็บประสบการณ์เป็นลูกจ้าง ก่อนกระโดดเข้ามาทำธุรกิจ
“ให้เรียนรู้ให้ได้ก่อนว่ากรอบเป็นอย่างไร แล้วค่อยคิดกระโดดออกนอกกรอบ”
แต่หากใครยืนยันที่อยากแจ้งเกิดในเวทีสตาร์ทอัพ เขาบอกว่า ต้องเริ่มจาก ไอเดียที่เจ๋งจริง และ อย่าไปคิดว่า ไอเดียตัวเองเจ๋งที่สุดในโลก อย่าพูดว่าเกมที่ทำ เป็นเกมใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในโลก เพราะคำพูดนี้อาจกลับมา "สังหาร" เราทีหลังได้
“เด็กสมัยนี้มีความมั่นใจสูงมาก ซึ่งสูงอย่างนี้เวลาตกลงมาเจ็บนะ บางคนถึงขนาดเลิกทำไปเลยก็มี ทุกวันนี้ถ้ามีข่าวบริษัทไหนล้มหายตายจากไป ถึงแม้จะเป็นบริษัทที่เกิดใหม่ก็เถอะ แต่ไม่มีใครในวงการรู้สึกดีหรอก อยู่เป็นเพื่อนกันไปนานๆ ดีกว่า”
เขาบอกความรู้สึกในฐานะหนึ่งผู้เล่นในสนาม ที่ยังมองว่า แม้คนผลิตเกมบ้านเราจะมีเยอะมาก แต่ก็ไม่ใช่คู่แข่งกัน เพราะเกมแต่ละเกมล้วนมีคาแรคเตอร์ของตัวเอง และคนจะเล่นหรือไม่เล่น ก็ขึ้นอยู่กับคนซื้อ ไม่ได้ขึ้นกับผู้ผลิตเกม
และนั่นคือเหตุผลที่ตลาดนี้ยังพร้อมเปิดรับคนที่พร้อม ขอเพียงแต่เป็นผู้เล่นที่เข้มแข็ง และรับมือกับความเปลี่ยนแปลงให้ได้ เพราะยังมีโอกาสอีกมากในยุคที่ไทยกำลังเข้าสู่ “เศรษฐกิจดิจิทัล”
.........................
Key to success
โอกาสธุรกิจ PIGSSS GAMES
๐ สมาร์ทโฟนเติบโต เทคโนโลยีมือถือก้าวหน้า
๐ รัฐบาลกำลังโปรโมท Digital Economy
๐ ธุรกิจดี พร้อมมี VC มาร่วมทุนด้วย
๐ รับผลิตงานให้ลูกค้า และทำเกมเองได้
๐ มีโอกาสทั้งเกมการศึกษาและการตลาดลูกค้าองค์กร
๐ อุปสรรคท้าทาย คนหายาก แข่งขันดุ ต้นทุนทำเกมสูง ใช้เวลานาน




