เอกชนโวย'7บริษัทเรือ'ปรับขึ้นค่า'ทีเอชซี'70%

เอกชนโวย'7บริษัทเรือ'ปรับขึ้นค่า'ทีเอชซี'70%

สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือโวย7บริษัทสายการเดินเรือรวมหัวปรับขึ้นค่าภาระหน้าท่า ร้องพาณิชย์ตรวจสอบต้นทุน

นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่าขณะนี้สายการเดินเรือทั่วโลก ต่างรวมกลุ่มกันเพื่อปรับขึ้นค่าขนส่ง ล่าสุด ได้มีสายการเดินเรือรายใหญ่ 7 บริษัท ได้แก่ สายเรือ SITC, Hanjin, Yang Ming, OOCL, Evergreen, China Shipping, และ Wan Hai ได้ประกาศปรับขึ้นค่าภาระหน้าท่า (ทีเอชซี) สำหรับตู้สินค้าส่งออก โดยเรียกเก็บค่าใช้จ่ายตู้คอนเทนเนอร์บรรจุสินค้าทั่วไป ขนาด 20 ฟุต ในอัตรา 4,400 บาท จากอัตรา 2,600 บาท เพิ่มขึ้น 69.23% ตู้ขนาด 40 ฟุต ในอัตรา 6,800 บาท จากเดิม 3,900 บาท เพิ่มขึ้น 74.36% ส่วนสายเรืออื่นๆอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับขึ้นค่าใช้จ่ายอัตราเดียวกัน

ขณะที่มีการปรับขึ้นค่าใช้จ่ายสำหรับตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภูมิขนาด 20 ฟุต ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 4,650-5,250 บาท จากอัตราเดิม 3,200 บาท เพิ่มขึ้น 64.06% และตู้ควบคุมอุณหภูมิขนาด 40 ฟุต มีการปรับขึ้นเป็น 8,100 บาท จากอัตราเดิม 5,000 บาท เพิ่มขึ้น 62% อัตราดังกล่าวจะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2558

หวั่นกระทบส่งออกปีหน้าโตไม่ถึง2.5%

ทั้งนี้การปรับขึ้นค่าใช้จ่ายดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่งสินค้าทางทะเล สำหรับการส่งออกเพิ่มขึ้นถึงปีละ 7,050 ล้านบาท เมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ปรับเพิ่มขึ้นโดยผู้ให้บริการโลจิสติกส์ในปัจจุบัน เช่น ค่า Document Fee ค่า Seal ตู้คอนเทนเนอร์ ค่า Lift on / off Charge ค่า Administration Fee และค่า Reefer Monitoring Fee เป็นต้น จะทำให้ผู้ส่งออกต้องแบกรับค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มสำหรับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศกว่าปีละ 1 หมื่นล้านบาท ส่งผลกระทบรุนแรงต่อการส่งออกในไตรมาส 1 และ 2 ของปีหน้า และอาจจะทำให้การส่งออกในปี 2558 ที่อาจจะขยายตัวไม่ถึง 2.5% ตามที่สรท. ประเมินไว้ เนื่องจากผู้ซื้อคงไม่ยอมรับกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นโดยไม่มีเหตุผลสมควร

“ค่าทีเอชซี เป็นการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อชดเชยต้นทุนที่สูงขึ้น จากราคาน้ำมันในตลาดโลก การปรับขึ้นของค่าบริการท่าเรือ ที่ผ่านมาราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ลดลงมากจากค่าเฉลี่ย 90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ลดลงเหลือ 65 -70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในปัจจุบัน และการท่าเรือแห่งประเทศไทย ก็ไม่ได้เรียกเก็บค่าใช้จ่ายต่างๆเพิ่ม ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่บริษัทเดินเรือจะเก็บค่าทีเอชซี เพิ่ม และควรจะลดค่าทีเอชซีลงด้วยซ้ำ” นายนพพร กล่าว

40สายการเดินเรือเอเชียจ่อปรับทีเอชซี

นอกจากนี้ สายเรือกลุ่ม Intra-Asia Discussion Agreement (IADA) เป็นการรวมกลุ่มอย่างไม่เป็นทางการของสายเรือ ที่ให้บริการในเส้นทางภายในเอเชียกว่า 40 ราย ได้แจ้งข้อมูลว่าสายเรือมีความพยายามปรับขึ้นค่าทีเอชซี ให้เป็น 7,812 บาท สำหรับตู้ขนาด 20 ฟุต และ 12,285 ต่อตู้ขนาด 40 ฟุต เมื่อพิจารณารายละเอียดพบว่า หลายรายการเป็นการผลักภาระค่าใช้จ่ายที่สายเรือควรรับผิดชอบ และรวมอยู่ในค่าระวางการขนส่งมาให้กับผู้ส่งออกเป็นผู้รับภาระแทน ผลจากการปรับเพิ่มค่าทีเอชซี ตามข้อมูลของ IADA จะส่งผลให้ผู้ส่งออกไทยแข่งขันในตลาดโลกได้ยากลำบากขึ้น และนักลงทุนจากต่างชาติจะมีเหตุผลมากขึ้นในการตัดสินใจย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้าน หากภาครัฐไม่มีมาตรการ หรือแนวทางสร้างความชัดเจนของโครงสร้างต้นทุนและควบคุมไม่ให้มีการปรับขึ้นค่าใช้จ่ายดังกล่าว

ทั้งนี้ ปัญหาดังกล่าวสรท.จะเสนอเรื่องให้คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน ภายในเดือนนี้ เพื่อนำปัญหาไปหารือกับทางคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) และคณะกรรมาธิการการพาณิชย์ ในสนช. ต่อไป

ร้องพาณิชย์เบรกปรับค่าทีเอชซี

สำหรับแนวทางการแก้ปัญหา สรท. ได้วางแนวทางไว้ 3 ระยะ โดยระยะเร่งด่วน จะขอให้กรมการค้าภายในเรียก ผู้บริหารระดับสูงของสายเรือ และตัวแทนสายเรือเข้าชี้แจงเหตุผลและต้นทุนที่แท้จริง และขอให้มีการประกาศยกเลิกการปรับอัตราใหม่ ภายในวันที่ 30 ธ.ค.นี้ ให้สายเรือและตัวแทนเรือทุกสายเรียกเก็บค่าทีเอชซี ตามอัตราที่ประกาศโดยการท่าเรือแห่งประเทศไทยที่ 2,600 บาท สำหรับตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุต และ 3,900 บาทตู้ขนาด 40 ฟุต ต้องเร่งหาข้อยุติการเรียกเก็บค่าใช้จ่าย Lift on Charge ภายในวันที่ 30 ธ.ค.นี้ จะต้องพิจารณาต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับค่าน้ำมันและปรับลดให้เหมาะสม

ส่วนระยะปานกลาง จะเร่งรัดจัดทำโครงสร้างต้นทุนการขนส่งสินค้าทางทะเลระหว่างประเทศ เพื่อให้ทราบถึงต้นทุนและผู้ที่จัดเก็บแท้จริง และเร่งรัดโครงการดัชนีค่าระวาง ตลอดจนการสร้างแนวทางและกลไกในการหารือร่วมกันเพื่อกำหนดค่าระวางและค่าบริการที่เกี่ยวเนื่องให้เป็นที่ยอมรับทุกฝ่าย

สำหรับระยะยาว ควรแก้กฎหมายป้องกันการค้ากำไรเกินควรและกฎหมายการแข่งขันทางการค้าให้สามารถนำมาบังคับใช้ได้จริง ต้องกำหนดให้ค่าบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการขนส่งสินค้าทางทะเลระหว่างประเทศในส่วนที่เป็นต้นทุนภายในประเทศเป็นบริการควบคุม โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 รวมทั้งกำหนดอัตราค่าใช้จ่ายที่สามารถเรียกเก็บตามสัญญาสัมปทานท่าเรือ

ชี้ไทยกม.แข่งขันการค้าไม่ชัดจุดอ่อน

นายไพบูลย์ พลสุวรรณา ที่ปรึกษา สรท. กล่าวว่า ที่ผ่านมาแม้ว่าบริษัทสายเดินเรือทั่วโลกจะรวมกลุ่มที่จะขึ้นค่าทีเอชซี ในยุโรป และสหรัฐได้ เพราะผู้ประกอบการในภูมิภาคเหล่านี้มีการรวมกลุ่มที่เข้มแข็ง และยังมีกฎหมายการแข่งขันทางการค้าที่เข้มงวด ต่างจากภูมิภาคเอเชีย ที่ยังไม่มีกฎหมายการแข่งขันทางการค้าที่ชัดเจน ทำให้เป็นจุดอ่อนที่สายเรือ ฉวยโอกาสขึ้นราคาได้ หากไทยไม่สามารถต้านทานและปล่อยให้สายเรือปรับขึ้นค่าทีเอชซี ได้ในวันที่ 1 ม.ค.2558 ทำให้ผู้ส่งออก มีต้นทุนค่าขนส่งเพิ่มขึ้น 10% เป็นการซ้ำเติมผู้ส่งออกไปยังตลาดยุโรป ที่ถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษี (จีเอสพี) ในปี 2558

เตรียมถกบัวแก้วหารือเวทีอาเซียน+6

นายวัลลภ วิตนากร รองประธาน สรท. กล่าวว่าหลังจากนี้จะนำเรื่องดังกล่าวหารือกับกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อนำประเด็นการขึ้นค่า ทีเอชซี อย่างไม่เป็นธรรมขึ้นไปหารือในเวทีอาเซียน + 6 เนื่องจากสายเรือรายใหญ่เป็นของประเทศในภูมิภาคนี้ เช่น ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลีใต้ จีน และญี่ปุ่น เพื่อให้ผู้นำชาติเหล่านี้ลงไปช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น รวมทั้งประชุมร่วมกันของสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือระดับโลกในเดือน มี.ค. 2558 ที่อินโดนีเซีย ซึ่งจะนำประเด็นดังกล่าวหารือ