ฟ้าสาง ณ บางกอกแลนด์

ฟ้าสาง ณ  บางกอกแลนด์

ขาใหญ่ชิงเก็บหุ้น บางกอกแลนด์ เชื่อความรุ่งเรือง Comeback “พอลล์ กาญจนพาสน์” ทายาทคนรอง “เสี่ยช้าง-อนันต์”

เดินหน้าปรับหนี้ คือ งานหลักของ “เสี่ยช้าง-อนันต์ กาญจนพาสน์” ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ก่อน บมจ.บางกอกแลนด์ หรือ BLAND จะโดนวิกฤติต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 เล่นงานจนต้องชะลอแผนเปิดโครงการอสังหาริมทรัพย์ เขาคือ “มหาเศรษฐีหมายเลข 1 ของเมืองไทย"

ปี 2553 เจ้าของอาณาจักรเมืองทองธานี เผยตัวต่อหน้าสาธารณะชนครั้งแรก หลังเก็บตัวเงียบมานาน พร้อมเอ่ยประโยคเด็ดที่ว่า “เราจะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้ง” กำไรสุทธิ 789.55 ล้านบาท ในปี 2554 (สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2554) ถือเป็นตัวการันตีคำพูดของ “เสี่ยช้าง”

ความพยายามขยายอาณาจักร ด้วยการลงทุนใน 4 ธุรกิจหลัก คือ 1.ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารงานของ BLAND บริษัท บางกอกแอร์พอร์ท อินดัสทรี จำกัด และบริษัท สินพรชัย จำกัด 2.ธุรกิจศูนย์การประชุมและโรงแรม ภายใต้การบริหารงานของบริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด และบริษัท อาร์ เอ็ม ไอ จำกัด

3.ธุรกิจบริหารและให้บริการอาคาร ภายใต้การบริหารของบริษัท เมืองทอง เซอร์วิส แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด และบริษัท เมืองทอง บิลดิ้ง เซอร์วิสเซส จำกัด สุดท้ายคือ ธุรกิจค้าปลีก ภายใต้การบริหารงานของบริษัท บางกอกแลนด์ เอเจนซี่ จำกัด ทำให้หุ้น BLAND ถูกตาต้องใจบรรดาเซียนหุ้นตัวพ่อ และนักธุรกิจรายใหญ่

ไม่ว่าจะเป็น “เสี่ยป๋อง-วัชระแก้วสว่าง” “โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ” “เสี่ยยักษ์-วิชัย วชิรพงศ์” “วราณี เสรีวิวัฒนา” ภรรยา “ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา” “พิพัฒ พะเนียงเวทย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ถือหุ้นอันดับ 4 สัดส่วน 4.87 เปอร์เซ็นต์ บมจ.ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ หรือ TF และ “วิทูร สุริยวนากุล” เจ้าของบมจ.สยามโกลบอลเฮ้าส์ หรือ GLOBAL โดยมีสัดส่วนการถือหุ้น 1.07-0.83-0.69-0.65-0.57-0.50 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ (ตัวเลขวันปิดสมุดทะเบียน ณ วันที่ 10 ก.ค.2557)

“หลังเครียร์หนี้เก่าสมัยวิกฤติต้มยำกุ้งจบ วันนี้บริษัทไม่มีหนี้เงินกู้แล้ว จากนี้เราพร้อมเดินหน้าพัฒนาอาณาจักรเมืองทองธานีให้สามารถสร้างรายได้และกำไรมากขึ้น ปัจจุบันเรามีความพร้อมทั้งในเรื่องของเงินทุนและที่ดินต้นทุนต่ำ” “พอลล์ กาญจนพาสน์” ทยาทคนที่ 2 ของ “อนันต์ กาญจนพาสน์” ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ย้ำกับ “กรุงเทพธุรกิจ Biz Week”

เงินทุนจะมาจากแหล่งไหน เขาฉายภาพแทนผู้เป็นพ่อก่อนงานแถลงข่าวเปิดขายหน่วยลงทุนกองทรัสต์เพื่อการลงทุน IMPACT GROWTH REIT) มูลค่าไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท จะเกิดขึ้นเพียงไม่ถึงสัปดาห์ว่า เราจะได้เงินจากการขายหน่วยลงทุนในกองทรัสต์ประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทถือหุ้นในกองทุนดังกล่าวประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์

นอกจากบริษัทจะนำเงินไปก่อสร้างโครงการในอิมแพ็ค เมืองทองธานีแล้วยังแบ่งเงินออกมา เพื่อนำไปซื้อหุ้นคืน หลังที่ประชุมคณะกรรมการมีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อเป็นการบริหารทางการเงินจำนวน 1,200,000,000 หุ้น คิดเป็น 5.81 เปอร์เซ็นต์ วงเงินซื้อคืนไม่เกิน 3,000 ล้านบาท

ตอนแรกบริษัทมีความคิดว่าจะนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ เช่น ที่ดิน หรือลงทุนในบริษัทจดทะเบียนอื่นๆ แต่ปัจจุบันยังมองไม่เห็นว่าสินทรัพย์ประเภทใดจะสร้างความคุ้มค่าให้บริษัทได้เท่ากับการลงทุนในหุ้นตัวเอง

บริษัทเริ่มดำเนินการซื้อหุ้นคืนครั้งแรกวันที่ 25 ส.ค.2557 จำนวน 82,271,500 หุ้น ราคาต่ำ สุด 2.24 บาท ราคาสูงสุด 2.26 บาท คิดเป็นมูลค่า 184,888,741.95 บาท ซื้อคืนครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 26 ส.ค.2557 จำนวน 3,000,000 หุ้น ราคาต่ำสุด 2.24 บาท สูงสุด 2.24 บาท คิดเป็นมูลค่า 6,720,000 บาท

ซื้อคืนครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 27 ส.ค.2557 จำนวน 8,000,000 หุ้น ราคาต่ำสุด 2.18 บาท สูงสุด 2.22 บาท คิดเป็นมูลค่า 17,640,000 บาท ล่าสุดซื้อคืนเมื่อวันที่ 28 ส.ค.2557 จำนวน 32,156,300 บาท ราคาต่ำสุด 2.14 บาท สูงสุด 2.18 บาท คิดเป็นมูลค่า 68,934,482 บาท ส่งผลให้ตอนนี้บริษัทซื้อหุ้นคืนมาแล้ว 125,427,800 หุ้น คิดเป็นมูลค่ารวมซื้อคืน 278,183,223.95 บาท

“หน้าที่หลักของคุณพ่อ คือ ดูแล BLAND ฉะนั้นเมื่อมีรายได้เข้ามาท่านจึงเห็นว่า ควรนำไปลงทุนแทนการนำเงินไปฝากแบงก์ที่ให้ผลตอบแทนต่ำมาก พ่อบอกว่าหากท่านไม่สามารถทำให้บริษัทมี รายได้มากขึ้นเท่ากับว่าท่านทำหน้าที่ไม่ดี”

“พ่อบ่นเรื่องราคาหุ้น BLAND ตลอดว่า ทำไมราคาไม่ขึ้น แถมยังลดลงอีก” “พอลล์” บอก ด้วยเหตุนี้ทำให้บอร์ดตัดสินใจซื้อหุ้นคืนในช่วงนี้ วันนี้ราคาหุ้น BLAND ถูกมาก ฉะนั้นยังมีอัพไซด์อีกมาก พวกเรารู้ว่ามูลค่าที่แท้จริงของหุ้น BLAND อยู่ตรงไหน ดังนั้นซื้อหุ้นตัวเองผลตอบแทนน่าจะดีกว่าลงทุนอย่างอื่น

วันนี้ราคาหุ้นในกระดานยังห่างจากมูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้น เรามองว่าหุ้นเราควรไปยืนเลขสองหลักได้แล้ว จริงๆไม่ต้องการให้หุ้น BLAND ขึ้นลงหวือหวาในระยะสั้น แต่อยากให้เป็นหุ้นพื้นฐาน เพราะหากคิดจากสินทรัพย์ที่มีอยู่จำนวนมาก แถมไม่มีหนี้ และมีที่ดินแปลงใหญ่ราคาต่ำเยอะ ราคาหุ้น ควรไปต่อ (ยิ้ม)

ปัจจุบันหุ้น BLAND มีนักลงทุนรายใหญ่ถือหุ้นอยู่จำนวนหนึ่ง นั่นแสดงให้เห็นว่า เขาเหล่านั้นมองเราดี ที่ผ่านมาหลายคนแวะเวียนเข้ามาสอบถามและขอข้อมูลกับฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ (IR) ตลอด แต่ไม่เคยมีโอกาสได้คุยกับพ่อหรือพี่ชาย“ปีเตอร์ กาญจนพาสน์” ซึ่งเราไม่เคยรู้จักนักลงทุนเหล่านั้นมาก่อน

เมื่อถามถึงทิศทางธุรกิจในระยะสั้น เขาบอกว่า นอกจากบริษัทจะนำเงินไปซื้อหุ้นคืนแล้ว เงินส่วนที่เหลือจะนำไปพัฒนาเมืองทองธานีตามเจตนารมณ์ของพ่อ เขาย้ำ ไม่ว่าจะเป็นโครงการคอมมู นิตี้มอลล์ ซึ่งเป็นการลงทุนต่อเนื่อง หลังเปิดตัวโครงการ BEE HIVE ไลฟ์สไตล์มอลล์ แห่งแรกบนถนนบอนด์สตรีทกลางเมืองทองธานีไปแล้ว

โครงการคอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่จะอยู่ติดกับอิมแพ็ค เมื่อลูกค้าเดินทางมาก็ต้องใช้บริการก่อนเข้าชมงาน หรือก่อนหลับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร ดูหนัง ช้อปปิ้ง หรือไลฟ์สไตล์อื่นๆ คาดว่าจะมีความชัดเจนต้นปี 2558 นอกจากนี้เรากำลังอยู่ระหว่างขอใบอนุญาตผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ในการก่อสร้างโรงแรมจำนวน 600 ห้อง ใช้เงินลงทุน 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างต้นปี 2558

“เมื่อเรามีเงินทุนและที่ดินแล้วต้องพยายามสร้างรายได้ให้มากขึ้น”

นอกจากนั้นบริษัทยังลงทุนในโครงการ ป๊อปปูล่า วอล์ค (Popular Walk) ตั้งอยู่ระหว่างป๊อปปูล่าคอนโดและธนาคารกสิกรสำนักงานใหญ่ ซึ่งมีประชากรใกล้เคียงกว่า 100,000 คน โครงการนี้ได้ออกแบบให้เป็นอาคารพาณิชย์ชั้นเดียว ใช้งบประมาณลงทุน 300 ล้านบาท ให้บริการพื้นที่ร้านค้าพาณิชย์จำนวน 100 ยูนิต คาดว่าจะมีรายได้จากการให้เช่าปีละ 50 ล้านบาท

สุดท้าย คือ โครงการ เอาท์เล็ท (Outlet) ใช้พื้นที่บริเวณชั้นล่างของอาคารจอดรถในร่ม 3 (Indoor Parking 3) งบประมาณลงทุน 600 ล้านบาท สามารถรองรับที่จอดรถได้ถึง 3,000 คัน โดยตัวอาคารจะสร้างทางเดิน skywalk เชื่อมไปยังอาคารจัดงาน 1-8

“พอลล์” เล่าถึงตั้งเป้าหมายรายได้ของบริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนเม้นท์ จำกัด ที่เขาดูแลอยู่ว่า ต้องเติบโตปีละ 8-10 เปอร์เซ็นต์ วิธีการ คือ บริษัทจะขยับราคาค่าเช่าพื้นที่เฉลี่ย 2-3 เปอร์เซ็นต์ทุกปี ปัจจุบันลูกค้าเริ่มเข้ามาจัดงานใหญ่มากขึ้น แถมจัดหลายวัน ซึ่งมีทั้งลูกค้าใหม่ และเก่า ฉะนั้นตัวเลขนี้ทำได้แน่นอน

“ในอนาคตอยากเห็นอิมแพ็คมีกำไรเยอะๆ”

สำหรับสัดส่วนรายได้ของ BLAND ในปี 2557 (งบสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2557) ประกอบด้วย ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 1,363 ล้านบาท ธุรกิจศูนย์การแสดงการประชุมฯ 2,660 ล้านบาท ธุรกิจการบริหารและให้บริการอาคาร 133 ล้านบาท และธุรกิจค้าปลีก 133 ล้านบาท เมื่อเทียบกับผลประกอบการปี 2556 ที่มีรายได้ 846-2,554-143-225 ล้านบาท ตามลำดับ

ลูกชายคนรองของเสี่ยช้าง บอกว่า ตั้งแต่พ่อเรียกมาช่วยทำงานจนถึงปัจจุบัน ผ่านมาแล้ว 15 ปี ถือว่าตอนนี้ชีวิตมีความสุขมาก แตกต่างจากวันแรกของการทำงานที่คิดว่า อยากกลับไปอยู่ประเทศฮ่องกงตามเดิม เพราะตอนโน้นผมไม่มีเพื่อน แถมพูดภาษไทยไม่เป็น จะคุยกับลูกน้องแต่ละครั้งยังไม่รู้เรื่อง รวมทั้งไม่เข้าใจธุรกิจของพ่อด้วย

“ถ้าวันนี้พ่อไล่กลับฮ่องกงผมไม่กลับแล้ว” (หัวเราะ)

หุ้นดีต้องถือยาว

“วิทูร สุริยวนากุล” เจ้าของ “สยามโกลบอลเฮ้าส์” หรือ GLOBAL บอกว่า การเข้ามาถือหุ้น BLAND ถือเป็นการลงทุนส่วนตัว ไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆกับผู้ถือหุ้นใหญ่ เราลงทุนหุ้นตัวนี้มานานปี กว่าแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเข้ามา ผมซื้อตั้งแต่ราคายืนระดับบาทกว่าๆ ตั้งใจจะถือลงทุนระยะยาว ไม่ได้หวังเข้ามาเก็งกำไร

BLAND เป็นหุ้นที่มีอนาคต เพราะว่าบริษัทกำลังจะออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ อิมแพ็คโกรท ซึ่งจะทำให้เขามีเงินทุนมาขยายธุรกิจ ฉะนั้นเราจึงมองว่า ธุรกิจกำลังจะดีขึ้น และในอนาคตก็น่าจะมีการพัฒนาโครงการอื่นๆต่อไป

“ผมหันมาเริ่มลงทุนในบริษัทที่มีการขยายธุรกิจมากขึ้น เพราะเชื่อว่าอนาคตจะทำให้บริษัทเติบโต และหุ้น BLAND ก็กำลังจะมีเงินทุนจากการขายกองทุนมาพัฒนาโครงการต่างๆ ซึ่งก็จะทำให้ผลประกอบการเติบโต” เขาย้ำความสวย

“เสี่ยป๋อง-วัชระ แก้วสว่าง” เจ้าของพอร์ตหลักพันล้าน” บอกว่า เข้ามาถือหุ้น BLAND ได้ประมาณ 4-5 เดือนแล้ว ต้นทุน 1 บาทปลายๆ ปัจจุบันราคาเฉลี่ย 2.16 บาท ส่วนมองว่าหุ้น BLAND เป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง แต่ราคาหุ้นยังซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชี ที่ผ่านมาราคาหุ้นลดลงมาเยอะ แต่ดูจากสัญญาณทางเทคนิคแล้วราคาน่าจะไปต่อ เพราะพื้นฐานเขาดีมีสินทรัพย์เยอะมาก โดยเฉพาะที่ดินต้นทุนต่ำ

“ตั้งใจจะถือลงทุนไปเรื่อยๆ หากพื้นฐานบริษัทไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”

ส่วนตัวเชื่อว่าบริษัทน่าจะมีการพัฒนาโครงการในอนาคตอีกเยอะมาก ปัจจุบันบริษัทไม่มีหนี้แล้ว และเขาจะนำเงินจากการขายกองทุนมาพัฒนาที่ดินเปล่าที่มีอยู่จำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันการมีที่ดินมากของบริษัท ถือเป็นข้อเสียอย่างหนึ่ง มีที่ดินต้องนำมาพัฒนาในเกิดประโยชน์มันถึงจะถูก