"ร้านกล้อง"แตกไลน์ขาย"มือถือ"กระจายความเสี่ยงธุรกิจ

"ร้านกล้อง"แตกไลน์ขาย"มือถือ"กระจายความเสี่ยงธุรกิจ

พฤติกรรมการใช้กล้องมือถือ "สมาร์ทโฟน" เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจ-กำลังซื้อชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง

ทำให้ผู้ประกอบการร้านจำหน่ายกล้องถ่ายภาพต้องปรับธุรกิจขยายไลน์สินค้าเกี่ยวเนื่องเพื่อรักษาฐานลูกค้า ประคองยอดขาย

ชิตชัย เธียรกาญจนวงศ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บิ๊กคาเมร่า จำกัด ผู้จำหน่ายกล้องถ่ายและอุปกรณ์ถ่ายภาพครบวงจร ภายใต้แบรนด์ “บิ๊กคาเมร่า” กล่าวว่า ที่ผ่านมาผู้บริโภคหันไปใช้กล้องสมาร์ทโฟนแทนกล้องถ่ายภาพมากขึ้น ทำให้ตลาดรวมกล้องถ่ายภาพ "หดตัว" โดยเฉพาะกลุ่มกล้องคอมแพ็คระดับราคา 3,000-5,000 บาท ที่มียอดขายลดลงอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้สิ้นปีนี้ตลาดกล้องถ่ายภาพติดลบ 10-20% มีมูลค่าราว 6,500 ล้านบาท เทียบมูลค่าปีที่ผ่านมา 7,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาฐานลูกค้าและการตลาด บิ๊กคาเมร่าได้ขยายไลน์ธุรกิจไปสู่การขายโทรศัพท์มือถือ ภายใต้ชื่อร้าน “บิ๊ก โมบาย บาย บิ๊กคาเมร่า” เพราะมองเห็นถึงโอกาสของตลาดโทรศัพท์มือถือยังมีการเติบโตต่อเนื่อง

ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 8 สาขา และยังมีแผนที่จะขยายสาขาต่อเนื่อง ภายใต้งบการลงทุนรวมสินค้า 30 ล้านบาท เบื้องต้นตั้งเป้าหมายขยายร้านบิ๊ก โฟน เพิ่มอีก 12 สาขาในปีนี้ สิ้นปีนี้จะมีสาขารวมทั้งสิ้น 20 สาขา เป็นกรุงเทพฯ 2 สาขา และต่างจังหวัด 18 สาขา

ปิดสาขาไม่ทำรายได้

"ที่ผ่านมาได้ปิดสาขาที่ไม่ทำรายได้ เน้นเปิดสาขาเพิ่มในทำเลที่มีมองว่ามีศักยภาพ เพื่อชดเชยรายได้สาขาที่ปิดไปก่อนหน้านี้"

นอกจากนี้ มุ่งขยายสาขาในพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น สอดรับการขยายตัวของผู้ประกอบการศูนย์การค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ต ในพื้นที่ต่างจังหวัด ทั้งบิ๊กซี เทสโก้ โลตัส กลุ่มเซ็นทรัล และโรบินสัน รองรับกำลังซื้อผู้บริโภคในต่างจังหวัด

บริษัท ตั้งเป้าหมายยอดขายร้าน บิ๊ก โมบาย บาย บิ๊กคาเมร่า เป็นสัดส่วนประมาณ 5% เมื่อเทียบกับรายได้ของบิ๊กคาเมร่า ปีนี้ คาดมียอดขายรวมกว่า 3,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ซื้อลิขสิทธิ์จาก บริษัท เดนนิส พลับบลิชิ่ง จากประเทศอังกฤษ จัดทำหนังสือ “แม็คบุ๊ค” หรือหนังสือคู่มือการถ่ายภาพ จำนวน 4 เล่ม ประกอบด้วย พรอตเทรด, แลนด์สเคป, โคสอัพ และ 50 โฟโต้ โปรเจ็ค โดยมียอดจัดพิมพ์รวมทั้ง 4 เล่ม ราว 1.5 หมื่นเล่ม เพิ่มช่องทางสร้างรายได้

“การเปิดตัวหนังสือเพราะต้องการให้ลูกค้าเกิดแรงบันดาลใจในการถ่ายภาพ เพราะที่ผ่านมาพบว่าลูกค้าที่ซื้อกล้องใช้ฟังก์ชันการใช้งานของกล้องจริงๆ ไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือไม่เกิน 10% ของฟังก์ชันการใช้งานที่มีอยู่”

นักท่องเที่ยวหดกระทบธุรกิจถ่ายภาพ

สมชาย ครองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท “โฟโต้ ฮัท กรุ๊ป” (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเมืองและเศรษฐกิจ "ผันผวน" ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติลดลงอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลกระทบต่อภาพรวมธุรกิจด้านการถ่ายภาพ ประกอบกับตลาดกล้องในปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ส่วนหนึ่งมาจากผู้บริโภคหันมาใช้กล้องในโทรศัพท์สมาร์ทโฟนมากขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมตลาดกล้องช่วงที่ผ่านมาลดลงถึง 40%

"ธุรกิจยังต้องทำการตลาดเพื่อประคองตัวให้สามารถอยู่รอดได้ในสภาวการณ์เช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มวาไรตี้ของสินค้า การจัดรายการส่งเสริมการขาย ที่ผ่านมาบริษัทขยายธุรกิจขายโทรศัพท์ โดยจัดสรรพื้นที่ภายในร้านสัดส่วน 30% วางจำหน่ายสินค้าดังกล่าว ปัจจุบันมีทั้งหมด 20 จุดขาย"

นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะขยายสาขาต่อเนื่องวางเป้าหมายเปิดให้ครบ 150 จุดภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่สาขาขนาดเล็กที่ยอดขายกล้องไม่ดี หรือไม่สามารถสร้างยอดขายได้ พร้อมจะปรับเป็นร้านขายโทรศัพท์มือถือทันที

อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากสภาวะเศรษฐกิจ การเมือง รวมถึงค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ตั้งแต่ปลายปี 2556 โฟโต้ ฮัท ปิดสาขาไปแล้ว 10 แห่ง พร้อมหันเปิดทดแทนในทำเลที่มีศักยภาพ อาทิ เซ็นทรัล เชียงใหม่ หาดใหญ่ โรบินสัน สุรินทร์ และขอนแก่น ทยอยเปิดบริการแล้ว 5 สาขา ในช่วงปลายปี 2556 ถึงต้นปี 2557