วอเตอร์เกตฯต่อจิ๊กซอว์ชอปปิงประตูน้ำ

วอเตอร์เกตฯต่อจิ๊กซอว์ชอปปิงประตูน้ำชู "เอาท์เล็ตกลางเมือง"เจาะนักท่องเที่ยว
ย่านการค้าประตูน้ำเต็มไปด้วยผู้ประกอบการมากหน้าหลายตาหลายแขนงธุรกิจช่วงชิงกำลังซื้อทั้งชาวไทยและต่างชาติแม้จะชะลอตัวลงไปบ้างตามสภาพการณ์เศรษฐกิจและปัญหาการเมืองแต่ธุรกิจยังต้องเดินหน้า!! พร้อมสร้าง "จุดขาย" ที่แตกต่างเพื่อแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พัฒนา พร้อมพัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเวอร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด ผู้บริหารโครงการวอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน (Watergate Pavillion:WP) ศูนย์กลางค้าปลีก-ค้าส่งครบวงจร กล่าวว่า ย่านประตูน้ำไม่ใช่แหล่งค้าปลีก-ค้าส่งเท่านั้น แต่เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทาง หรือ "แหล่งชอปปิง" ของ "นักท่องเที่ยว"
สอดรับเป้าหมายระยะยาวของ วอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน มุ่งเสริมศักยภาพพื้นที่การค้าย่านประตูน้ำก้าวรับโอกาสจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 ผลักดันย่านประตูน้ำเป็นศูนย์รวมแฟชั่นแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ศูนย์การค้าวอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน มูลค่าลงทุนกว่า 5,500 ล้านบาท เปิดบริการเฟสแรก พื้นที่ใช้สอยกว่า 6 หมื่นตร.ม. เป็นพื้นที่ขายกว่า 1 หมื่น ตร.ม. รวม 1,000 ร้านค้า ขนาดพื้นที่เฉลี่ย 12 ตร.ม.ต่อห้อง มีแม่เหล็กอินเตอร์แบรนด์แฟชั่นและร้านอาหารบริการด่วน (ฟาสต์ฟู้ด) อาทิ เคเอฟซี เอ็มเค ยาโยอิ และเจเฟอร์สเต๊ก ฯลฯ
ขยายฐานนักท่องเที่ยว
ไทยมีความได้เปรียบในความเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เป็นจุดตั้งต้นของการ "ต่อยอด" และสร้าง "จุดแข็ง" ทางธุรกิจที่แตกต่างจากคู่แข่ง ขณะที่ "ปัจจัยลบ" ทั้งภาวะตลาดชะลอตัว การแข่งขันรุนแรง ทำให้ วอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน ต้องปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่เพื่อให้สอดรับภาวะตลาดที่เปลี่ยนไป โดยมุ่งขยายฐานลูกค้าเจาะ "กลุ่มนักท่องเที่ยว" มากขึ้น จากลูกค้าหลักพ่อค้า-แม่ค้า ในและต่างประเทศ
ปัจจุบัน ย่านประตูน้ำได้รับความนิยมมากขึ้นในกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะ สิงคโปร์ มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นกลุ่มเดินทางระยะใกล้ ตัดสินใจได้ง่ายว่าจะบินมาชอปปิงในไทยเมื่อไหร่ แต่ก็เป็นกลุ่มที่ตัดสินใจยกเลิกไฟลต์เดินทางมาได้ง่ายๆ เช่นกันเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ
"ย่านประตูน้ำ นับเป็นอีกแหล่งชอปปิงที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจ เป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่จะต้องแวะมา เมื่อได้มาเที่ยวเมืองไทย โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากประเทศในแถบตะวันออก ชาวจีน และรัสเซีย"
ชูจุดขาย 'เจาะกลุ่มเฉพาะ'
ทั้งนี้ วอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน ชูจุดขายในความเป็นแวร์เฮาส์ของกลุ่มสินค้าหลากหลาย ทั้งในกลุ่มค้าปลีก-ค้าส่ง และอื่นๆ ล่าสุดมีคู่ค้ารายใหม่นำสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่น "อินเตอร์แบรนด์" เปิดจำหน่ายในรูปแบบ "เอาท์เล็ตกลางเมือง" เป็นแม่เหล็กในการดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ร้านค้าภายในศูนย์เน้นสินค้าที่หลากหลายและเจาะ "กลุ่มเฉพาะ" เช่น เสื้อผ้าคอสเพลย์สำหรับเด็ก ชุดหางเครื่อง ชุดลีลาศ ชุดคาบาเร่ต์ แม้กระทั่ง "ชุดแต่งงาน" จำหน่ายในแบบค้าส่ง เทียบแหล่งค้าส่งอื่นๆ เน้นจำหน่ายสินค้าแฟชั่นชาย-หญิงทั่วไป
"เราได้นำอินเตอร์แบรนด์เข้ามาอยู่ในศูนย์ คือ ซารา (Zara) ในรูปแบบเอาท์เล็ตเป็นการนำร่อง ในอนาคต มีแผนนำอินเตอร์แบรนด์อื่นๆ เข้ามาเปิดให้บริการเพิ่ม เป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์เติมเต็มและสร้างความแตกต่างไปพร้อมๆ กัน"
ปรับตัวทันคู่แข่ง-โลกแฟชั่น
พัฒนา ฉายภาพการเปลี่ยนแปลงของตลาดค้าส่งไทยว่า จากเดิมลูกค้าออเดอร์งานเสื้อผ้าสีหรือลายแบบเดียวกัน และสั่งซ้ำทุกๆ 1-2 เดือน ทำให้ผู้ประกอบการสามารถควบคุมหรือ "ล็อกต้นทุน" และออเดอร์กับโรงงานได้ เมื่อโลกแฟชั่นหมุนเวียนเร็วขึ้น ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น ทำให้การสั่งสินค้าจากลูกค้าเปลี่ยนแปลงไป ทั้งระยะเวลาในการสั่ง รายละเอียดต่างๆ เช่น การคละสี ไซส์ ดีไซน์ ฯลฯ ล้วนมีผลต่อกระบวนการผลิต ต้นทุน การจัดส่งสินค้า รวมถึงการกำหนดราคาสินค้าเปลี่ยนแปลงไป
"เมื่อแฟชั่นเปลี่ยนเร็ว ผู้ประกอบการก็ไม่กล้าสต็อกสินค้าไว้มาก การสั่งสินค้าในราคาถูกและบริหารควบคุมต้นทุนทำได้ยาก ผนวกกับสภาพเศรษฐกิจไม่ค่อยดี ส่งผลต่อการทำกำไรน้อยลง ผู้ประกอบการจึงต้องประคับประคองต้นทุน หากปรับตัวได้สอดรับสถานการณ์ถือว่าดีไป เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น ฟื้นตัวได้เร็ว คนที่เตรียมพร้อมและแข็งแรงจะลุกขึ้นเดินได้ก่อน"
ทั้งนี้ ย่านการค้าประตูน้ำมีโอกาสเติบโตสูงกว่าย่านอื่นๆ จากพัฒนาการทางธุรกิจไม่ต่างจากค้าปลีกสมัยใหม่ ทั้งทำเลเข้าถึงง่ายเทียบตลาดค้าส่งดั้งเดิมค่อนข้างคับแคบ
รอจังหวะขยายเฟส2
โดยภาพรวมของโครงการวอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน เหลือพื้นที่เช่าประมาณ 10-20% ขณะที่แผนขยายเฟส 2 พื้นที่ประมาณ 2 หมื่นตร.ม. ต้องรอจังหวะที่เหมาะสม คาดเริ่มก่อสร้างในปลายปีนี้หากสถานการณ์การเมืองคลี่คลาย
"เรามีจุดเด่นที่มีโฉนดให้ลูกค้า นับเป็นการถือครองทรัพย์สินในมือเป็นหลักประกันในอนาคตได้ระดับหนึ่ง"
พัฒนา กล่าวด้วยว่า บริษัทมีแลนด์แบงก์รองรับการลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะศูนย์ค้าปลีกค้าส่งหรือโรงแรม เน้นรองรับ "โอกาส" และความต้องการของตลาดในทำเลนั้นๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ แม้กระทั่งประเทศเพื่อนบ้าน!!




