'ครูแนะแนว' CSRของHR เทสโก้ โลตัส

องค์กรในยุคนี้ต่างต้องการคนเก่ง มีศักยภาพ มีความพร้อมในการทำงาน เป็นโจทย์สำคัญที่เด็กๆ ต้องตระหนักและเตรียมตัวเองให้พร้อม
ในชีวิตของคนเราอาจต้องเผชิญกับ "จุดเปลี่ยน" อยู่หลายต่อหลายครั้ง และปฏิเสธไม่ได้ว่า หนึ่งในนั้นก็คือเมื่อตอนเรียนที่จบจากรั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งในเวลานั้นเองก็มีทั้งผู้ที่รู้ว่าเส้นทางใดที่จะนำเขาไปยังจุดหมายที่ต้องการ แต่ก็มีไม่น้อยที่พบว่าตัวเองกำลังเกิดอาการ "มืดแปดด้าน"
ฉันเยาว์ ฉันเขลา ฉันทึ่ง
ฉันจึง มาหา ความหมาย
ฉันหวัง เก็บอะไร ไปมากมาย
สุดท้ายให้กระดาษฉันแผ่นเดียว
ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัย ท่อนหนึ่งของบทกวีที่เขียนโดย "วิทยากร เชียงกูล" คงพอจะช่วยสะท้อนภาพได้เป็นอย่างดี
แต่ต่างไปตรงที่โลกยุคอินเตอร์เน็ตช่วยทำให้เด็กมีความรอบรู้ มีศักยภาพที่ล้นเหลือ อย่างไรก็ตามแม้จะเก่งเกินตัวแค่ไหน ความเยาว์วัยก็ทำให้พวกเขายังไม่รู้ถึงความต้องการของตัวเอง
หากได้รับการชี้แนะที่เหมาะสม ทำให้พวกเขาค้นพบตัวเองว่า "ถนัด" และมี "ใจรัก" ที่จะทำงานด้านใด สุดท้ายอาจช่วยทำให้พวกเขาสามารถคว้าดาวที่สูงกว่าดวงเดิม..ก็เป็นได้
Tesco Career Academy จึงเกิดเป็นรูปเป็นร่างด้วยเหตุผลดังที่กล่าวมา ทั้งยังวางเป้าหมายเป็นสถาบันที่ช่วยสร้างโอกาสความก้าวหน้าโดยการพัฒนาศักยภาพเยาวชนไทยไปสู่เส้นทางมืออาชีพในระดับ "อินเตอร์"
"อรกานดา อรรถวิภัชน์" ประธานกรรมการบริหารฝ่ายทรัพยากรบุคคล เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า ไม่เพียงเป็นองค์กรชั้นแนวหน้าในประเทศไทยเท่านั้น แต่เทสโก้ โลตัส คือองค์กรระดับโลก จึงมีความพร้อมไม่ว่าจะในเรื่องของโนว์ฮาว หรือเครื่องไม้เครื่องมือที่สามารถนำเข้ามาจากบริษัทแม่ที่ประเทศอังกฤษ ตลอดจนทีมงาน HR ในประเทศไทยที่มีจำนวนถึง 500 คนซึ่งจะทำหน้าที่ขับเคลื่อนโครงการนั้น ก็ยังมีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาศักยภาพบุคลากรเป็นอย่างมาก
โดยกระบวนการที่จะช่วยสร้างความก้าวหน้าและสานฝันของเยาวชนไทยให้เป็นความจริงนั้น เกิดจากการจัดฝึกอบรมเพื่อถ่ายทอดความรู้หลากหลายหัวข้อ ในหลาย ๆรูปแบบ ทั้งในลักษณะของเวิร์คช็อป ทั้งในห้องเรียนและให้ไปเรียนรู้นอกสถานที่ เช่น พาน้องๆ ไปศึกษาการทำงานจริงยังสำนักงานเทสโก้ โลตัส หรือที่ร้านสาขาของเทสโก้ โลตัส รวมถึงในรูปแบบของ "โมบายเวิร์คช็อป"
ล่าสุด เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Tesco Career Academy มีการจัดเวิร์คช็อประยะเวลา 2 วัน เพื่อเตรียมความพร้อมสู่โลกการทำงานจริงให้กับนักศึกษาระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 3-4 จากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ จำนวน 120 คน
ซึ่งนักศึกษากลุ่มดังกล่าวจะได้รับการอบรมและทดลองปฏิบัติจริง ทั้งยังให้ทดลองเข้าสัมภาษณ์งานในแบบ Competency-Based Interview ที่ทำให้เห็นว่าผู้เข้ารับการสัมภาษณ์นั้นมีคุณสมบัติตรงกับตำแหน่งงานหรือไม่ แต่ที่โดดเด่นและไม่วันเกิดขึ้นในชีวิตจริงก็คือ น้องๆ จะได้รับฟีดแบ็คทันทีว่าตัวเขามีจุดแข็ง และจุดอ่อนที่ควรต้องปรับปรุงพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นได้อย่างไร
นำไปสู่ผลลัพธ์ สัมภาษณ์งานก็ต้องได้งาน
อรกานดากล่าวว่า เวิร์คช็อปในครั้งนี้ให้ความรู้กับน้องๆ นักศึกษาในหลายแง่มุม และเป็นประโยชน์ต่อการเตรียมความพร้อมสู่โลกการทำงานจริงทั้งสิ้น ทั้งยังเป็นความรู้ที่ไม่มีภายในห้องเรียน เช่น การให้ทดสอบในเชิงจิตวิทยาเพื่อค้นหาตัวตนของตัวเอง หรือ การบริหารความสัมพันธ์กับคนภายในองค์กร ซึ่งไม่มีแค่เพื่อนๆ ร่วมงานเท่านั้น แต่ยังมีเจ้านายที่มีอำนาจสั่งรวมถึงประเมินผลงาน
นอกจากนี้ผู้บริหารกลุ่มสายงาน 6-7 สายงานของเทสโก้ โลตัส เช่นไอที ซัพพลายเชน ไฟแนนซ์ การตลาด ฯลฯ ก็ได้ยกขบวนกันมาช่วยอธิบายพร้อมเปิดโอกาสให้น้องๆ ได้ซักถามเพื่อให้รู้และเข้าใจถึงบทบาทหน้าที่ของแต่ละสายงาน พร้อมเผยถึงเคล็ดลับความสำเร็จให้ฟัง
และที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ เรื่องของ "บุคลิกภาพ" ซึ่งงานนี้มีกูรูชื่อดังอย่างพี่ม้า อรนภา กฤษฎี มาช่วยชี้แนะเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมเพื่อให้น้องๆ ดูดีในทุกๆ โอกาสอีกด้วย
ถามว่าวัดผลความสำเร็จอย่างไร เธอตอบว่าเมื่อเวิร์คช็อปสิ้นสุดมีการถามความคิดเห็นของน้องๆ ที่เข้าโครงการ ซึ่งล้วนแต่กล่าวคำว่า "ขอบคุณ" เพราะเป็นอะไรที่ดีเกินความคาดหวัง
"น้อง ๆบอกว่าเขาได้รับแรงบันดาลใจหลายสิ่งหลายอย่าง และเขาก็เข้าใจในเรื่องที่เขาไม่เคยเข้าใจมาก่อน เช่น มีน้องที่เรียนปีสี่บางคนเริ่มไปสมัครงาน และทั้งๆ ที่เขาเรียนได้เกรดดีมากแต่กลับไม่ถูกเรียกให้ไปทำงาน เมื่อเข้าเวิร์คช็อปทำให้เขารู้ว่าเป็นเพราะอะไร เพราะเขาได้รับฟีดแบ็คเห็นถึงจุดอ่อนของเขา"
Tesco Career Academy ถือเป็นซีเอสอาร์ด้านการศึกษา เฟสที่สามของเทสโก้ โลตัส ซึ่งในเฟสแรกนั้นเริ่มต้นด้วยโครงการ "เทสโก้ จูเนียร์" เป็นการศึกษารูปแบบทวิภาคีที่บริษัทร่วมมือกับสถาบันอาชีวะศึกษาทั่วประเทศพัฒนาหลักสูตรค้าปลีก ซึ่งประกอบด้วยการเรียนทั้งในห้องเรียน และการเรียนรู้จากการทำงานจริง
เฟสที่สองก็คือ การให้น้องๆ เข้ามาทำงานพาร์ทไทม์ เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เพราะนอกจากน้องๆ จะได้รับเงินค่าจ้างเป็นค่าใช้จ่ายช่วยแบ่งเบาผู้ปกครองแล้ว ในการทำงานจะมีพนักงานเทสโก้ โลตัส เป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำซึ่งเป็นการพัฒนาทักษะความสามารถให้ดียิ่งขึ้น
สำหรับเฟสที่สี่ เป็นการเรียนการสอนผ่านช่องทาง "ออนไลน์" ซึ่งอรกานดาบอกว่าถือเป็นเรื่องใหม่ โดยเป็นการให้คำแนะนำอาชีพในโลกธุรกิจต่างๆ และการทดสอบความถนัดให้กับน้องๆ ผ่านทางออนไลน์ ทั้งนี้ เพราะมองว่าเป็นแนวทางที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของเยาวชนในยุคนี้ได้เป็นอย่างดี และกำลังจะเปิดตัวประมาณกลางปีนี้ ซึ่งออนไลน์จะเป็นช่องทางที่เทสโก้ โลตัสเปิดให้ความรู้ทั้งพนักงานในองค์กรและคนภายนอกหรือน้องๆ ด้วย
" หลัก ๆคิดว่าเราจะเปิดทั้งหมด 4 เฟส และมีเป้าหมายจะทำอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่นเวิร์คช็อป Tesco Career Academy ในปีหน้าเราวางแผนจะทำอีกแน่นอน ซึ่งทุกๆ ครั้งที่เรามีโอกาสได้ทำงานร่วมกับเด็กๆ เยาวชนเรามองเห็นถึงโอกาสเสมอ จากข้อเสนอแนะและความคิดสร้างสรรค์ที่พวกเขานำเสนอเข้ามา"
สุดท้ายเธอมองว่า องค์กรในยุคนี้ต่างมุ่งเน้นที่จะเลือกรับแต่คนเก่ง มีศักยภาพ มีความพร้อมในการทำงานทั้งสิ้น จึงเป็นโจทย์สำคัญที่เด็กๆ หรือเยาวชนในยุคสมัยนี้ควรต้องตระหนักและเตรียมความพร้อมเป็นอย่างดี
ทั้งได้แนะว่านอกจากต้องรู้ถึงความสนใจ รู้ถึงความถนัด และเพื่อให้ได้งานที่เหมาะสมต้องเตรียมความพร้อมอย่างไรแล้ว น้องๆ จำเป็นต้องเรียนรู้ และหาประสบการณ์นอกกรอบและออกจากขอบเขตเดิม เพื่อทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จมีความก้าวหน้าในสายอาชีพในระยะยาว







