เงินไหลออกตราสารหนี้แล้ว4หมื่นล้าน

เงินไหลออกตราสารหนี้แล้ว4หมื่นล้าน

"สมาคมตลาดตราสารหนี้” เผยตั้งแต่ต้นปีเงินทุนไหลออกแล้ว 4 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นตราสารหนี้ที่ครบอายุ

นางสาวอริยา ติรณะประกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบัน (21 มี.ค. 57) มีเงินทุนไหลออกสุทธิ 40,000 ล้านบาท โดยเป็นยอดขายสุทธิ 7,000 ล้านบาท แบ่งเป็นขายสุทธิตราสารหนี้ระยะยาว 34,000 ล้านบาท และซื้อตราสารหนี้ระยะสั้น 28,000 ล้านบาท ในขณะที่มีตราสารหนี้ครบอายุ 33,000 ล้านบาท และในช่วง 1 - 21 มี.ค. 57 มีเงินไหลออกสุทธิ 14,000 ล้านบาท โดยเป็นยอดขายสุทธิ 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นขายตราสารหนี้ระยะยาว 13,000 ล้านบาท และซื้อตราสารหนี้ระยะสั้น 11,000 ล้านบาท ในขณะที่มีตราสารครบอายุ 12,000 ล้านบาท ทำให้นักลงทุนต่างชาติมียอดถือครองตราสารหนี้ล่าสุดอยู่ที่ 685,283 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนตราสารหนี้ระยะสั้น 15% และตราสารหนี้ระยะยาว 85%

“หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ส่งสัญญาณอาจจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าเดิมนั้น ทำให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตร 10 ปี ของไทยปรับตัวขึ้นมาประมาณ 0.10% ตามทิศทางการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและแรงขายของต่างชาติเพื่อลดความเสี่ยงขายล็อกกำไรเอาไว้ก่อนมาพักในตราสารหนี้ระยะสั้น แต่ในสัปดาห์นี้ก็กลับสู่ภาวะปกติแล้วโดยอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ระยะยาวเคลื่อนไหวแคบ 0.01% บวกลบเท่านั้น ในช่วงรับข่าวเฟดน่าจะเป็นเพียงความตื่นตกใจในระยะสั้นเท่านั้น”

นางสาวอริยา ยังกล่าวอีกว่า ปัจจัยการเมืองที่มีแนวโน้มยืดเยื้ออาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศให้ชะลอตัวซึ่งอาจทำให้ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจจะต้องพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจถ้าจำเป็นถือเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดตราสารหนี้ ต่างกับตลาดหุ้นที่อาจจะกังวลต่อภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวดังกล่าว เพราะในช่วงที่เศรษฐกิจดูไม่ค่อยดีการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ถือว่าปลอดภัยกว่าอีกทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยในประเทศยังเป็นขาลงก็เพิ่มความน่าสนใจให้กับนักลงทุนด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ซัพพลายในตลาดตราสารหนี้ในปีนี้ก็ไม่มากในขณะที่ดีมานด์ของนักลงทุนไม่ได้ลดลงไปด้วยก็มีโอกาสที่จะทำให้อัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้ปรับตัวลงได้อีกเช่นกัน ทั้งนี้จะเห็นว่าแนวโน้มของเงินทุนไหลออกนั้นเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปไม่รวดเร็วส่วนใหญ่จะเป็นเงินลงทุนที่ครบอายุเป็นหลัก ในส่วนของเงินร้อนก็ออกไปหมดแล้วที่ลงทุนอยู่ส่วนใหญ่จะเป็นเงินลงทุนระยะยาวจริงๆ

“ตลาดตราสารหนี้ไทยเองยังน่าสนใจเพราะแม้จะมีปัจจัยการเมืองยืดเยื้อทางมูดี้ส์เองก็ยังมองว่าพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่งสามารถรองรับได้ภาพรวมจึงยังดูดีอยู่ แต่ความน่าสนใจอาจจะน้อยลงไปบ้างเท่านั้นเอง นักลงทุนต่างชาติเขาไม่ได้มองแค่อัตราดอกเบี้ยอย่างเดียว เช่น อินโดนีเซียผลตอบแทน 8% ไทยแค่ 2% แต่พื้นฐานเศรษฐกิจไทยดูดีกว่านักลงทุนก็ยังลงทุน ในส่วนของปัจจัยการเมืองไม่กระทบกับตลาดตราสารหนี้แต่ประการใด”

ทางด้านทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาทของ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A” ด้วยเช่นกัน โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินจากการออกหุ้นกู้ดังกล่าวไปจ่ายคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน อันดับความน่าเชื่อถือดังกล่าวสะท้อนความเป็นผู้นำของบริษัทในตลาดทาวน์เฮ้าส์ระดับราคาปานกลางถึงต่ำ ตลอดจนผลงานที่เป็นที่ยอมรับในตลาดที่อยู่อาศัยระดับกลางถึงล่าง ความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุน และยอดขายรอการส่งมอบจำนวนมากที่ช่วยประกันรายได้ของบริษัทในอนาคตได้ส่วนหนึ่ง