"ทีวีดิจิทัล"แห่เปิดตัวช่อง-แผนลงทุน

หลังจบการประมูลทีวีดิจิทัล ประเภทบริการธุรกิจ 24 ช่องในปลายปีที่ผ่านมา โดยมีผู้ชนะประมูล 17 ราย จาก 20 บริษัท ที่จะได้รับใบอนุญาตทีวีดิจิทัล อายุใบอนุญาต 15 ปี ขณะนี้ กสทช. กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมมอบใบอนุญาตให้กับผู้ประกอบการทั้ง 24 ช่อง

พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เปิดเผยว่าหลังจากประกาศหมายเลขลำดับช่องโทรทัศน์ระบบดิจิทัล (ทีวีดิจิทัล) ภาคพื้นดิน 24 ช่องให้ผู้ชนะการประมูลอย่างเป็นทางการวานนี้ (27 ม.ค.) หลังจากนี้จะเป็นขั้นตอนการจ่ายจ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาต งวดแรก ภายใน 30 วัน คือส่วนที่ 1 สัดส่วน 50% ของราคาขั้นต่ำ และส่วนที่ 2 สัดส่วน 10% ของราคาส่วนเกินการประมูล ,ขั้นตอนการเลือกใช้บริการโครงข่าย (Mux) ภายใน 30 วัน และขั้นตอนการขอรับใบอนุญาต ภายใน 45 วัน
ทั้งนี้ คาดว่าการดำเนินงานตามเงื่อนไขดังกล่าวจะเรียบร้อยภายในสิ้นเดือน ก.พ.นี้ จากนั้นในเดือนมี.ค.2557 หลังได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการ จะเป็นขั้นตอนการ “ทดลอง”ออกอากาศ ช่องทีวีดิจิทัล อีกราว 1-2 เดือน คือในเดือน มี.ค.-เม.ย. โดย กสทช. จะกำหนดวันออกอากาศจริงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ซึ่งจะมีการจัดลำดับช่องทีวีดิจิทัล ภาคพื้นดิน ตามหมายเลขช่องที่ผู้ชนะประมูลเป็นผู้เลือก

งดเก็บค่าธรรมเนียม"ออกอากาศ"คู่ขนาน
พ.อ.นที กล่าวอีกว่าในช่วงเริ่มต้นของการส่งสัญญาณทีวีดิจิทัล กรณีที่ช่องฟรีทีวี อนาล็อกเดิม ทั้งประเภทสาธารณะ และช่องบริการธุรกิจ ต้องการออกอากาศคู่ขนานในระบบดิจิทัล (Simulcast) จะต้องมายื่นคำร้องขอออกอากาศคู่ขนานกับ กสทช. เพื่อนำช่องฟรีทีวี อนาล็อก ภายใต้ผังรายการเดิม ไปออกอากาศในระบบดิจิทัล แต่ละประเภทช่อง คือ ช่อง 5 , ช่อง 11 และไทยพีบีเอส ออกอากาศบนคลื่นความถี่สาธารณะ ระบบดิจิทัล ที่ได้รับจัดสรร

ส่วนช่องบริการธุรกิจ คือ ช่อง 3 ,ช่อง 7 และช่อง 9 ออกอากาศในระบบดิจิทัล บนคลื่นความถี่ ช่องบริการธุรกิจ ทีวีดิจิทัล ตามที่ผู้ประกอบกิจการ ทั้ง 3 รายเป็นผู้ชนะการประมูล ทั้งนี้ ในช่วงการออกอากาศคู่ขนานฟรีทีวี อนาล็อกและ ทีวีดิจิทัล กสทช. จะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียม (Fee) การใช้ใบอนุญาต 4% จากรายได้อของฟรีทีวี อนาล็อกเดิม เนื่องจากเป็นการออกอากาศในระบบอนาล็อก ที่ต้องจ่ายค่าสัมปทานกับคู่สัญญาเดิม และไม่คิดเป็นรายได้ที่เกิดจากทีวีดิจิทัล

ทั้งนี้ การเปิดโอกาสให้ ฟรีทีวี อนาล็อก ออกอากาศคู่ขนานระบบทีวีดิจิทัล เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ชมในระบบดิจิทัล สามารถรับชมช่องฟรีทีวี อนาล็อกไปพร้อมกัน โดยไม่เสียสิทธิการรับชม ซึ่งจะสร้างแรงจูงใจให้ผู้ชมไทย เปลี่ยนแพลตฟอร์มการรับชมมายังทีวีดิจิทัล อย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีช่องทีวี ให้รับชมมากขึ้น ทั้งช่องเดิมและช่องใหม่

อย่างไรก็ตามหลังจากโครงข่าย เริ่มส่งสัญญาณทีวีดิจิทัล ในเดือน เม.ย.นี้ โดยกำหนดเป้าหมายครอบคลุม 11 จังหวัด ภายใน มิ.ย.นี้ หลังจากโครงข่ายเริ่มส่งสัญญาณแล้ว กสทช. และคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อฯ จึงจะพิจารณากำหนดมูลค่า “คูปอง” ส่วนลด เพื่อแจกให้กับครัวเรือน ตามพื้นที่การส่งสัญญาณของโครงข่าย เพื่อให้ครัวเรือนต่างๆ นำไป เป็นส่วนลด ซื้อกล่องรับสัญญาณ (set top box) และจอโทรทัศน์ระบบดิจิทัล บิวท์อิน จูนเนอร์
กสทช.แจกหมายเลข 24 ช่อง

โดยวานนี้ (27 ม.ค.) คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ประกาศ “หมายเลข” ลำดับโทรทัศน์ระบบดิจิทัล (ทีวีดิจิทัล) ภาคพื้นดิน ประเภทบริการธุรกิจ 24 ช่อง ประกอบด้วย ช่องเด็ก 3 ช่อง ลำดับ 13-14 ประกอบด้วย ช่อง13 บีอีซี ,ช่อง 14 อสมท และ ช่อง 15 ทีวีพูล

ประเภทช่องข่าว 7 ช่อง ลำดับ 16-22 ประกอบด้วย ช่อง 16 ทีเอ็นเอ็น , ช่อง17 ทีวีพูล , ช่อง 18 เดลินิวส์ทีวี , ช่อง 19 สปริงนิวส์ , ช่อง20 บริษัท3 เอ. มาร์เก็ตติ้ง (Bright TV) , ช่อง21 วอยซ์ทีวี ,ช่อง22 เนชั่นทีวี

ประเภทช่องวาไรตี้ เอสดี 7 ช่อง ลำดับ 23-29 ประกอบด้วย ช่อง23 เวิร์คพอยท์ทีวี , ช่อง24 ทรู , ช่อง 25 จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ,ช่อง26 เครือเนชั่น (ช่อง NOW) , ช่อง27 อาร์เอส (ช่อง8) , ช่อง28 บีอีซี ,ช่อง29 โมโน
ประเภทช่องวาไรตี้ เอชดี 7 ช่อง ลำดับ 30-36 ประกอบด้วย ช่อง 30 อสมท ,ช่อง 31 จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (ช่อง ONE) ,ช่อง 32 ไทยรัฐทีวี , ช่อง 33 บีอีซี (ช่อง3) , ช่อง34 อมรินทร์ทีวี , ช่อง35 บีบีทีวี (ช่อง7) ช่อง 36 บางกอก มีเดียฯ (พีพีทีวี)

ผู้ชนะประมูลแห่ลงทุน-ปรับผัง
สำหรับกลุ่มผู้ชนะประมูลช่องทีวีดิจิทัล ทั้ง 24 ช่อง ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มฟรีทีวีเดิม , สื่อสิ่งพิมพ์ ,คอนเทนท์ โปรวายเดอร์ และช่องทีวีดาวเทียม ต่างเตรียมความพร้อมด้านการผลิตรายการ เพื่อทดลองออกอากาศ ช่องทีวีดิจิทัล ในราวเดือน มี.ค.นี้

นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าแกรมมี่ เป็นผู้ชนะประมูลทีวีดิจิทัล 2 ช่อง คือช่องวาไรตี้ เอชดี และเอสดี ในปีแรกได้เตรียมงบลงทุนผลิตคอนเทนท์ ทั้ง 2 ช่องประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยช่องเอชดี จะนำทีวีดาวเทียม ช่อง ONE มาออกอากาศบนแพลตฟอร์มทีวีดิจิทัล พร้อมทั้งเพิ่มผังรายการข่าว ตามเงื่อนไขของ กสทช. ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมทีมข่าวและร่วมมือกับทีมผู้ผลิตข่าวอื่นๆ

สำหรับช่องวาไรตี้ เอสดี อยู่ระหว่างการพัฒนาช่องขึ้นมาใหม่ ซึ่งแกรมมี่มีความพร้อมด้านทีมบุคลากรและทีมผลิตรายการ เนื่องจากอยู่ในกิจการโทรทัศน์มา 30 ปี ปัจจุบันดำเนินธุรกิจทีวีดาวเทียม 8 ช่อง พร้อมกันที่จะเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ เข้ามาร่วมเสนอไอเดียและผลิตรายการทางช่องทีวีดิจิทัลกับแกรมมี่

นายวัชร วัชรพล ประธานกรรมการ บริษัท ทริปเปิลวี บรอดคาสท์ จำกัด ผู้บริหารช่อง “ไทยรัฐทีวี” เปิดเผยว่ากำหนดออกอากาศช่องไทยรัฐทีวี บนแพลตฟอร์มทีวีดิจิทัล อย่างเป็นทางการในวันที่ 24 เม.ย.นี้ โดยก่อนหน้านั้นจะทดลองออกอากาศ ตามที่ กสทช.กำหนด โดยช่องไทยรัฐทีวี วางสัดส่วนรายการข่าวและสาระ 40-50% และรายการวาไรตี้ 50-60% ขณะนี้มีการเจรจากับคอนเทนท์ โปรวายเดอร์ หลายรายเพื่อเข้ามาร่วมนำเสนอรายการทางช่องไทยรัฐทีวี ไม่ว่าจะเป็น ทีมสาระแน , กันตนา ,เจเอสแอล ,ทีวีธันเดอร์ ,โพลีพลัส เป็นต้น ทั้งนี้ คาดว่าจะใช้งบลงทุนผลิตด้านการผลิตรายการปีแรก 700-800 ล้านบาท คาดคุ้มทุนใน 6 ปี

นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทบางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ PPTV HD เปิดเผยว่า บริษัทบางกอกมีเดียฯ เป็นหนึ่งธุรกิจของ นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ซึ่งเป็นผู้ชนะประมูลช่องทีวีดิจิทัล เอชดี ทั้งนี้ ได้เตรียมนำช่องพีพีทีวี ซึ่งออกอากาศทางทีวีดาวเทียม มาออกอากาศในแพลตฟอร์มทีวีดิจิทัล ราวเดือน เม.ย.นี้ พร้อมปรับผังรายการใหม่ โดยยุบรวมช่อง “อิน แชนแนล” มาร่วมผลิตรายการทางช่องพีพีทีวี

อย่างไรก็ตามการออกอากาศในช่วงแรกจะเน้นซื้อคอนเทนท์ ลิขสิทธิ์รายการดังจากต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น สารคดี เรียลลิตี้โชว์ เกมโชว์ และรายการวาไรตี้ มาออกอากาศ จากนั้นในช่วง 6 เดือนหลังจะร่วมมือกับคอนเทนท์ โปรวายเดอร์ เพิ่มสัดส่วนการผลิตรายการในประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าการลงทุนทีวีดิจิทัลปีแรก จะใช้เงินลงทุน ประมาณ 2,000 ล้านบาท ทั้งด้านผลิตรายการและค่าใบอนุญาต