"โกลว์ฟิช" พื้นที่ทำเงินของทายาทมิตรผล

พื้นที่ 3 ชั้น ในอาคาร อโศก ทาวเวอร์ คือที่ตั้งของ “โกลว์ฟิช” (Glowfish) สำนักงานเสมือนจริง พื้นที่ทำงานร่วมกัน สำนักงานพร้อมใช้ สำนักงานให้เช่า ตลอดจนห้องประชุม ในราคามิตรภาพ บนทำเลทองของคนกรุงย่านอโศก

บริการโดนใจ ผู้กำลังเริ่มต้นกิจการใหม่ หรือเอสเอ็มอี ที่อยากมีสำนักงานพร้อมใช้ใจกลางเมืองโดยไม่ต้องลงทุนจนหมดตัว เรียกว่าจะมาแบบตัวเปล่ากับแล็ปท็อปหนึ่งตัว ก็สามารถเริ่มต้นทำงานได้ “อย่างมืออาชีพ”

นี่คือไอเดียธุรกิจคนหนุ่มรุ่นใหม่ “กวิน ว่องกุศลกิจ” กรรมการผู้จัดการบริษัท เฮอริเทจ เอสเตทส์ จำกัด ทายาทคนโตของ “อิสระ ว่องกุศลกิจ” ประธานคณะกรรมการหอการค้าไทย และประธานกรรมการกลุ่มมิตรผล เขาคือ ผลิตผลรุ่นที่ 3 ของตระกูล “ว่องกุศลกิจ” หนึ่งตระกูลดังของเมืองไทย เจ้าอาณาจักร “กลุ่มมิตรผล” ธุรกิจผลิตและส่งออกน้ำตาลรายใหญ่ของประเทศ “บมจ.บ้านปู” ธุรกิจถ่านหินและไฟฟ้า และ “ดิ เอราวัณ กรุ๊ป” ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ร่วมทุนกับตระกูลวัธนเวคิน

มีดีกรีปริญญาตรีด้านรัฐศาสตร์ เอกประวัติศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ด้วยเหตุผลเพราะ “ชอบประวัติศาสตร์” ก่อนมากลับลำตอนเรียนปริญญาโท โดยเลือกสาขา “การเงิน” เพื่อกลับมาช่วยธุรกิจครอบครัว

สำหรับ “ธุรกิจใหม่” ซึ่งเริ่มต้นมาได้ประมาณ 5 ปี (พ.ศ.2551) แยกออกจากกิจการของกงสี แต่เป็นการ “ลงหุ้น ลงขัน” ของสมาชิกครอบครัว “อิสระ” ทั้ง พ่อ แม่ พี่ น้อง โดย “กวิน” ซึ่งเป็นพี่ชายคนโต ได้รับสิทธิ์กุมบังเหียน ขณะที่สมาชิกทุกคนมีตำแหน่งเป็นคณะกรรมการบริษัท บนการทำงานอย่างมืออาชีพ ไม่ใช่ธุรกิจครอบครัว

“ธุรกิจนี้เป็นของครอบครัว เงินลงทุนก็เป็นเงินของครอบครัว ถ้าเอาเงินมาใช้ทำอะไรแล้วไม่เวิร์ค ก็โดนเขกหัวเหมือนกันนะ แต่โชคดีที่ตัวนี้สำเร็จขึ้นมา และเป็นตัวใหญ่ด้วย ฉะนั้นมูลค่ามันเลยเยอะ ที่ผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ก็เลยช่วยจูงกันไปได้ แต่ที่ผ่านมาก็โดนเขกหัวมาเยอะครับ (หัวเราะ)”

เขารายงานความสำเร็จของ “โกลว์ฟิช” ที่กำลังทำรายได้อย่างงดงามให้กับ เฮอริเทจ เอสเตทส์ ในวันนี้ เรียกว่าผู้เช่าเต็มพื้นที่ และยังมีขาจรหมุนเวียนมาทำให้พื้นที่เกิด “ดอกผล” อย่างต่อเนื่อง

แต่กว่าจะสำเร็จได้ ก็ใช่ว่าจะไม่เคยเรียนรู้ความผิดพลาด

“หลังเรียนจบผมไปทำงานในบริษัทต่างชาติที่ทำ วาณิชธนกิจ (Investment banking) ซึ่งเป็นบริษัทที่ค่อนข้างเล็ก ทำให้ได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก ทำได้ประมาณ 2 ปี ก็มีเพื่อนชวนไปลงทุนในธุรกิจรีเทล เป็นร้านนำเข้าเสื้อผ้าจากต่างประเทศ ตอนนั้นเขาไม่มีใครช่วยรัน เลยให้ผมไปช่วย ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าจะทำได้นะ แต่พอเข้าไปทำจริงๆ พบว่ามันจุกจิกมาก และเป็นงานที่ไม่ถนัดเลย ทำให้ไม่สามารถช่วยให้อะไรดีขึ้นได้ สุดท้ายผู้ถือหุ้นก็สรุปกันว่า คงไม่ไปต่อ”

ทว่าความล้มเหลวในครั้งนั้น ก็ได้ทิ้งบทเรียนสำคัญให้กับเขา

“ผมพบว่าไม่ว่าธุรกิจจะเล็กหรือใหญ่ มันก็ต้องใช้ความมุมานะพอๆ กัน ตอนนั้นสิ่งที่ได้เรียนรู้คือ ในธุรกิจเล็ก สิ่งสำคัญที่สุดคือ การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด คนที่เป็นเอสเอ็มอี จึงต้องเก่งมากๆ ในการที่จะทำอย่างไรถึงจะใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดนี้ ให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด”

วิธีคิดเดียวกัน ถูกนำมาใช้ในธุรกิจใหม่ ซึ่งเขาบอกว่า เลือกอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า เพราะมองว่า “ปลอดภัยที่สุด”

“ผมอาจไม่ได้เป็นคนที่ครีเอทีฟนัก และเคยเจ็บตัวมาก่อน ก็ต้องเลือกธุรกิจที่ปลอดภัยหน่อย”เขาให้เหตุผล

ขณะที่ไม่ว่าคิดทำอะไร ผลสรุปสุดท้ายก็เพื่อทำให้ทุกตารางนิ้วของพื้นที่ “เกิดมูลค่าสูงสุด” ทั้งรีโนเวทตึกเก่า (28 ปี) อย่างอโศกทาวเวอร์ ให้กลายเป็นพื้นที่ทำงานสุดทันสมัย แบ่งสัดส่วนทั้ง สำนักงานเสมือนจริง พื้นที่ทำงานร่วมกัน สำนักงานพร้อมใช้ สำนักงานให้เช่า ตลอดจนห้องประชุม ก่อนหน้านั้นก็เปิดร้านอาหารและเครื่องดื่ม “Kuppadeli” ตรงใต้ตึกก็เพื่อเป็นจุดดึงดูดและเชิดหน้าชูตาตึก ส่วนผลพลอยได้คือ สามารถเพิ่มบริการอาหารและเครื่องดื่มให้กับผู้ที่มาใช้พื้นที่ของพวกเขาด้วย

“สิ่งที่ทำดูเหมือนมีหลายอย่างนะ แต่ทุกอย่างก็แค่ เรามีพื้นที่อยู่ตรงนี้ ฉะนั้นจะทำอย่างไรถึงจะเกิดมูลค่าสูงสุด”

พื้นที่และสำนักงานให้เช่า ไม่ใช่สิ่งใหม่ คู่แข่งก็มีทั้งบริษัทในและต่างประเทศ ฉะนั้นสิ่งที่ต้องทำ คือการสร้างจุดแข็งให้กิจการ ว่ากันตั้งแต่เรื่องความสะดวกสบาย ที่ “โกลว์ฟิช” ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจ เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า และรถไฟใต้ดิน มีสิ่งอำนวยความสะดวก “ที่จำเป็น” ต่อการทำงาน อย่างอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ระบบเครื่องปรับอากาศ ไฟฟ้า โทรศัพท์ อุปกรณ์สำนักงาน ห้องประชุม ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พนักงานทำความสะอาด เหล่านี้เป็นต้น

“มันไม่ได้มีนวัตกรรมอะไรเลย ก็แค่มีช่องว่างในตลาด ขณะที่เซอร์วิสออฟฟิศอื่น ราคาอาจแพง แต่เราทำให้ราคาสู้ได้ โดยตัดบริการบางอย่างออก เช่น พวกเลขาส่วนตัว ตัดสินใจว่าจะไม่มี เพราะถ้ามีมันคือต้นทุน และเราทำได้ไม่ดีด้วย ฉะนั้นบอกเลยว่าเราจะให้พื้นที่ในราคาที่เหมาะสม โดยการดีไซน์พื้นที่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อไม่ต้องไปคิดเขาแพงเกินไป”

ขณะที่ค่าใช้จ่ายคิดราคาไหน ก็ไม่มีการชาร์ตเพิ่ม จนเกิดเป็นพื้นที่ “พร้อมใช้” เพื่อให้เหล่าธุรกิจพันธุ์เล็ก สามารถเริ่มต้นกิจการของตัวเองได้ง่ายๆ โดยมุ่งเน้นที่ลูกค้าในประเทศเป็นหลัก

“เราเน้นกลุ่มคนไทยเป็นหลัก โดยเขาอาจเริ่มธุรกิจเอง หรือมีทีมงานคนสองคน หรือกรณีที่บริษัทใหญ่แล้ว แต่ว่าใช้คนน้อย แต่ค่าตัวพนักงานสูง เพราะแต่ละคนมีมูลค่ามาก ก็ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่เยอะ ฉะนั้นชุมชนที่เข้ามาอยู่ตรงนี้ เป็นชุมชนของคนที่ค่อนข้างมีการศึกษา ซึ่งเขาจะแนะนำกันปากต่อปาก ทำให้เราได้ลูกค้าเพิ่มขึ้นโดยธรรมชาติ”

โกลว์ฟิช มีสำนักงานให้เช่า 34 ห้อง ขณะที่มีห้องประชุมขนาดใหญ่ 1 ห้อง เล็กอีก 3 ห้อง ซึ่งมีจัดกิจกรรมทุกอาทิตย์ ส่วนพื้นที่ทำงานร่วมกัน (Office sharing) ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Co-working space ในต่างประเทศ ก็พร้อมต้อนรับลูกค้าทั้งขาจรและขาประจำ กับพื้นที่นั่งสบายๆ 40 ที่นั่ง และพร้อมเปลี่ยนเป็นสถานที่จัดกิจกรรม จัดเวิร์คช็อป สำหรับผู้สนใจได้อีกด้วย

“ผมตั้งใจที่จะให้ในแต่ละเดือนมีกิจกรรม โดยร่วมกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ ใครมีโปรแกรมดีๆ มาจัดที่เรานะ แล้วผมจะชวนคนที่เป็นลูกค้าของเรา ให้มานั่งฟังฟรี เพื่อให้ทุกคนได้ประโยชน์ แล้วเขาจะทำความรู้จักกันเอง จนเกิดเป็นชุมชนขึ้นมาโดยธรรมชาติ”

ธุรกิจบริหารพื้นที่ให้ทำเงิน ต้อนรับลูกค้าที่เป็นทั้งกลุ่มสตาร์ทอัพ ธุรกิจไอที ซอฟแวร์ บริษัทที่ปรึกษา จัดหางาน บริษัททัวร์ คนทำงานฟรีแลนซ์ บริษัทต่างประเทศที่เข้ามาทำธุรกิจในไทย กระทั่งนักศึกษา ก็มาใช้บริการไม่ขาดสาย โดยคนทำย้ำกับเราสั้นๆ ว่า..

“ยังเป็นธุรกิจที่ดี และมีกำไร” และยังมีแผนที่จะขยายบริการไปยังพื้นที่ใหม่ในปีหน้าด้วย

แม้เป็นผู้บริหารเลือดใหม่ แต่กวินก็มีสายเลือดนักธุรกิจอยู่เต็มขั้น เขาบอกว่า คุณพ่อ (อิสระ ว่องกุศลกิจ) สอนอะไรหลายๆ อย่าง เรียกว่าเป็นการเรียนรู้แบบค่อยๆ ซึมซับ แต่ก็มีบ่อยครั้งที่แอบ “ไม่เห็นด้วย” และเป็นการไม่เห็นด้วย “เชิงสร้างสรรค์” เพราะสไตล์การทำงานของ พ่อ-ลูก นั้น ต่างกัน “สุดขั้ว”

“ข้อดีคือ คุณพ่อท่านปล่อยให้ผมมีสไตล์ในการทำงานของตัวเอง เพราะคนเราไม่เหมือนกัน สิ่งที่มันเวิร์คสำหรับเขาอาจไม่เวิร์คสำหรับผมก็ได้ คุณพ่อท่านเป็นคนละเอียดในบางอย่าง แต่ผมก็มีวิธีบริหารของผม สไตล์มันคนละขั้วเลย ฉะนั้นอาจดูจากเขา 70% ส่วนอีก 30% ก็ต้องประยุกต์ในแบบของเรา แต่ก็นับว่าโชคดีนะที่ท่านมีพื้นที่ให้เรียนรู้ และยอมให้ล้มเหลวได้”

เขาบอกการยอมเปิดทางของคนรุ่นหนึ่ง ให้ทายาทได้พิสูจน์ตัวเอง และได้ทำในสิ่งที่ถนัด จนคนหนุ่มอย่างเขา มีบทเรียนในชีวิต ที่ตกผลึกจากการทำงานและประสบการณ์โดยตรงของตัวเอง ไม่ใช่เรียนรู้ผ่านตำราเล่มไหน

“ผมพบว่า แม้คนเรามีสไตล์การทำงานที่ต่างกันและไม่ว่าคุณจะฉลาดแค่ไหน แต่การจะประสบความสำเร็จได้ ก็ต้องทำงานหนักเหมือนกันทั้งนั้น บางคนอาจมีประสิทธิภาพกว่าอีกคนหนึ่ง แต่สุดท้ายทุกคนก็ต้องพยายาม มุมานะและทำงานหนัก”

เขาสรุปบทเรียนที่ได้เรียนรู้ตลอดการทำงาน และย้ำเพียงว่า ยังไม่มีประสบการณ์มากพอที่สามารถไปแนะนำใครได้ แต่ก็พร้อมพิสูจน์และทำให้ดีที่สุด ในบทบาทหน้าที่ของตัวเองในวันนี้

.................................................
Key to success
"Glowfish"โอกาสธุรกิจสำนักงานให้เช่า
๐ ธุรกิจปลอดภัย ทำกำไร และมีช่องให้โต
๐ สามารถบริหารพื้นที่ให้สร้างมูลค่าสูงสุดได้
๐ ตัดบริการไม่จำเป็น แล้วทำราคาให้แข่งขันได้
๐ ช่วยเอสเอ็มอี เป็นมืออาชีพ มีออฟฟิศใจกลางกรุง
๐ อยู่ในทำเลดี ราคาเหมาะสม พื้นที่พร้อมใช้
๐ มีโอกาสขยายธุรกิจไปยังพื้นที่ใหม่