ฮิลตันขายหุ้นไอพีโอ 2,300 ล้านดอลล์

ฮิลตันขายหุ้นไอพีโอ 2,300 ล้านดอลล์

"ฮิลตัน เวิลด์ไวด์ อิงค์" เครือข่ายโรงแรมชื่อดัง ระดมทุนจากการนำหุ้นออกขายแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรกหรือไอพีโอ มูลค่า 2,340 ล้านดอลลาร์

"ฮิลตัน" เป็นเจ้าของแบรนด์โรงแรมระดับไฮเอนด์อย่าง "คอนราด" และ "วาลดอร์ฟ แอสโทเรีย" ตั้งราคาจำหน่ายหุ้นไว้ที่ 20 ดอลลาร์ต่อหุ้น พร้อมกับกลายเป็นผู้ประกอบการโรงแรมที่ใหญ่สุดในโลกด้วยมูลค่ากิจการ 19,700 ล้านดอลลาร์ และเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กด้วยตัวย่อ "เอชแอลที"

ทั้งนี้ "แบล็คสโตน กรุ๊ป" เข้าซื้อกิจการ "ฮิลตัน" ด้วยมูลค่า 26,700 ล้านดอลลาร์ เมื่อปี 2550 แต่หลังเกิดวิกฤติการเงินขึ้น ทำให้ธุรกิจรายนี้ต้องเผชิญกับสภาพหนี้สินมหาศาลและผลประกอบการตกต่ำลง จนท้ายที่สุด แบล็คสโตนต้องรีไฟแนนซ์หนี้ของฮิลตันประมาณ 13,000 ล้านดอลลาร์ ก่อนทำไอพีโอ พร้อมกับวางแผนใช้เงินจากการเสนอขายหุ้นเพิ่มเติมอีก 1,250 ล้านดอลลาร์ เพื่อจ่ายหนี้เพิ่มเติม

ขณะที่ แบล็คสโตน ลงทุนในฮิลตันเป็นจำนวนทั้งหมด 6,400 ล้านดอลลาร์ และสัดส่วนถือหุ้น 76.2% หลังทำไอพีโอ จะคิดเป็นมูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์ สูงกว่ามูลค่าเงินลงทุน 2.3 เท่า

ทางด้านฮิลตันและผู้ถือหุ้นเดิมขายหุ้นไอพีโอจำนวน 117.6 ล้านหุ้น ถือเป็นปริมาณการกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ที่สูงที่สุดเป็นอันดับสองในปีนี้ รองจากการจำหน่ายหุ้นของบริษัทท่อส่งน้ำมัน "เพลนส์ จีพี โฮลดิงส์"

ไพรซ์ วอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส ธุรกิจที่ปรึกษาระดับโลกประเมินว่า การทำไอพีโอของฮิลตันเกิดขึ้นท่ามกลางการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมโรงแรม โดยราคาค่าบริการห้องพักและอัตราคนเข้าพักน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในปีหน้า

ฮิลตัน ก่อตั้งโดยนายคอนราด ฮิลตัน เมื่อปี 2462 เปิดดำเนินธุรกิจใน 90 ประเทศ ด้วยจำนวนโรงแรม 4,000 แห่ง ที่มีห้องพักให้บริการจำนวน 670,000 ห้อง ปัจจุบันเป็นเจ้าของหรือปล่อยเช่าโรงแรมทั้งสิ้น 157 แห่ง ซึ่งรวมทั้ง "วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย" ในนครนิวยอร์ก และ "ฮิลตัน ฮาวายเอียน วิลเลจ"