สอบเพิ่ม5กลุ่มพันขายข้าวจีทูจีจีน'เก๊'

ป.ป.ช.แจงผลไต่สวนสัญญาขายข้าวจีทูจีจีน พบไม่มีหลักฐานเพียงพอขายจีทูจี เส้นทางการเงินมีผู้เกี่ยวข้องทั้งการเมือง-เจ้าหน้าที่รัฐ เอกชน จีน
การไต่สวนคดีโครงการขยายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ระหว่างรัฐบาลกับผู้แทนหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนของข้าวในโครงการรับจำนำ ซึ่งร้องโดยนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ หลังจากได้อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ไปเมื่อปลายปี 2555 โดยยื่นเรื่องขอคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบความไม่โปร่งใสโครงการรับจำนำข้าวและโครงการระบายข้าวของรัฐบาล พร้อมเอกสารหลักฐานจำนวนหนึ่ง
วานนี้ (3 ธ.ค.) นายวิชา มหาคุณ กรรมการและโฆษก ป.ป.ช. แถลงถึงความคืบหน้าในการไต่สวนนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวว่า ข้อเท็จจริงการจากการไต่สวนได้ความว่าการเจรจาที่อ้างว่าเป็นการซื้อขายแบบจีทูจี ระหว่างรัฐบาลกับผู้แทนหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน 2 หน่วยงานปรากฏว่า พยานหลักฐานยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้เห็นได้ว่า เป็นการซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ และพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐ และบุคคลอื่นมีส่วนร่วมกระทำความผิดในการโครงการดังกล่าว ซึ่งยังไม่ได้เป็นผู้ถูกกล่าวหามาแต่เดิม
ปปช.ไต่สวนเพิ่ม5กลุ่มพันขายข้าว
ทั้งนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ขยายการไต่สวนไปยังบุคคลเพิ่มเติมอีก 5 กลุ่ม คือ 1.ผู้แทนเจรจาฝ่ายไทย ได้แก่ นายมนัส สร้อยพลอย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ, นายทิฆัมพร นาทวรทัต เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักบริหารการค้าข้าว, นายอัครพงศ์ ทีปวัชระ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง เลขานุการกรมการค้าต่างประเทศ
2.นายภูมิ สาระผล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว 3.ผู้แทนเจรจาฝ่ายสาธารณรัฐประชาชนจีน แบ่งตามหน่วยงาน คือ GUANGDONG STATIONERY & SPORTING GOODS IMP. & EXP. CORP. และ HAINAN GRAIN & OIL INDUSTRIAL TRADING COMPANYและตัวแทนของหน่วยงานทั้งสอง
4.กลุ่มบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากผู้แทนฝ่ายจีน ได้แก่ นายรัฐนิธ โสจิระกุล นายสมคิด เอื้อนสุภา และนายลิตร พอใจ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด 5.บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงจากการไต่สวนเกี่ยวกับสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้อง พบว่าเงินที่ชำระค่าซื้อขายข้าวกับหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนนั้น ส่วนใหญ่เกี่ยวพันกับบริษัทสยามอินดิก้า จำกัด ประกอบกับบริษัทนี้เคยเป็นนายจ้างในอดีตของนายสมคิด เอื้อนสุภา และ นายลิตร พอใจ
พบหลักฐานขายจีทูจีแค่ 3.7 แสนตัน
นายวิชา กล่าวว่า คณะอนุกรรมการไต่สวน ตรวจพบว่าการกำหนดให้เป็นการซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคา ทำให้เกิดความเสียหายจากการขายในราคาตํ่ากว่าราคาตลาด นับตั้งแต่เดือนส.ค. 2554 ถึงเดือนมิ.ย. 2556 มีปริมาณส่งมอบข้าวไปยังจีนทุกรายเพียง 375,000 ตัน จากปริมาณที่ต้องส่งมอบตามสัญญาถึงจำนวน 4,800,000 ตัน ซึ่งกรมศุลกากรได้ยืนยันว่าในห้วงเวลาดังกล่าวไม่มีข้าวส่งออกโดยผ่านพิธีการศุลกากรแต่อย่างใด
ทั้งนี้ มีการอ้างว่าไม่ใช่เป็นการส่งออก แต่เป็นการซื้อหน้าคลังสินค้า คณะอนุกรรมการไต่สวนจะเร่งดำเนินการไต่สวนเพื่อพิจารณาว่ามีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดอีกหรือไม่ และจะได้พิจารณาดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ถูกกล่าวดังกล่าวต่อไปโดยเร็ว
"สาเหตุที่ยังไม่สามารถสรุปแจ้งข้อกล่าวหาวันนี้ เพราะว่ามีผู้อำนวยการท่านหนึ่งที่ดูแลองค์การคลังสินค้า (อคส.) ไม่ยอมมอบเอกสารหลักฐานที่เก็บไว้ ให้กับทางป.ป.ช.ซึ่งเป็นหลักฐานที่สำคัญ เราเห็นว่ามีความจำเป็นที่ต้องเร่งดำเนินการ ขณะที่ที่บ้านเมืองกำลังลุกเป็นไฟอาจทำให้เอกสารเหล่านี้ถูกเผาไป อันตรายมาก ดังนั้น ป.ป.ช.จะเร่งประสานขอเอกสารพร้อมกับขอความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินการด้วย ถ้าองค์การคลังสินค้าให้ความร่วมมือกับ ป.ป.ช.สามารถไต่สวนเรื่องนี้ได้เร็ว" นายวิชา กล่าว
บีบ อคส.ส่งหลักฐานหวั่นถูกทำลาย
นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการและรองโฆษกคณะกรรมการป.ป.ช. กล่าวว่าเอกสารที่ป.ป.ช.ต้องการมีความจำเป็นมาก เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานเกี่ยวกับการขนส่งข้าวของจังหวัดต่างๆ ที่ผ่านมา ป.ป.ช.ได้พยายามขอเอกสารจากหัวหน้าคลังสินค้ากลางในต่างจังหวัด แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ คณะกรรมการจึงมีความเห็นว่า ให้ไปขอความร่วมมืออีกครั้ง หากมีความจำเป็นสามารถใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 25 เพื่อให้ได้มาซึ่งเอกสาร
"ถ้าได้เอกสารตรงนี้สามารถขมวดทุกประเด็น นำไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหาได้ กรณีนี้ถือว่าเป็นมหากาพย์เพราะมีผู้ใหญ่และผู้น้อย ภาครัฐและเอกชนจำนวนมากที่เกี่ยวข้อง "นายประสาท กล่าว
พบหลักฐานจ่ายเช็คเงินสดจริง
ส่วนเส้นทางการเงินการซื้อขายของบริษัท สยามอินดิก้า นายวิชา กล่าวว่ากรณีนี้ต้องรวบรวมหลักฐานที่เป็นเช็คเงินสดอีกเป็นจำนวนมาก จึงต้องใช้เวลาพอสมควร เบื้องต้นชัดเจนแล้วว่ามีการจ่ายเช็คเงินสดให้กับกรมการค้าต่างประเทศ (คต.)
"มีทั้งการจ่ายเงินจากสยามอินดิก้า รวมทั้งบริษัทต่างๆ ที่ตั้งขึ้นมาที่เกี่ยวกับการค้าข้าว กรณีของโควตาสลากก็มี ยังพบว่ามีการเอาข้าวไปโดยไม่ต้องมีใบมอบอำนาจ ทั้งที่ควรต้องมีใบมอบอำนาจและใบส่งสินค้า เรื่องนี้จะต้องมีการตรวจสอบเกี่ยวข้องกันอย่างไร" นายวิชา กล่าว
นายวิชา กล่าวถึงบริษัทของจีนว่าก่อนหน้านี้ได้มีหนังสือแจ้งมาว่า ป.ป.ช.ไม่มีข้อมูล การดำเนินการไต่สวนเรื่องนี้จะกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เรื่องนี้คงไม่เกี่ยวกับ ป.ป.ช. เรามีหน้าที่ไต่สวนการทุจริต
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ป.ป.ช. อยู่ระหว่างการพิจารณาตรวจสอบโครงการข้าวถุง ซึ่งเป็นคำร้องโดยวุฒิสภา
เต้นขอข้อมูลปปช.หลังโดนข้อกล่าวหา
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ที่มีชื่อเกี่ยวข้องยังไม่ทราบรายละเอียดข้อกล่าวหาที่ ป.ป.ช. ระบุถึงความไม่โปร่งใสการระบายข้าวแบบจีทูจี จะเร่งประสานขอรายละเอียด เพื่อหาข้อมูลชี้แจงต่อไป ขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดที่ถูกกล่าวหา
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เคยเผยแพร่เอกสาร ขั้นตอนการเจรจาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ เมื่อครั้งที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27-28 พ.ย.ที่ผ่านมา สาระสำคัญระบุว่าครม.มีมติให้ความเห็นชอบแนวทางการเจรจาซื้อขายข้าวแบบจีทูจีน เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2554 จากนั้นให้อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเป็นผู้ดำเนินการเจรจาการซื้อขายข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลและข้าวในสต็อกของรัฐบาลกับผู้แทนหน่วยงานของรัฐบาลหรือได้รับมอบหมายจากรัฐบาลของทุกประเทศ รวมทั้งรัฐวิสาหกิจ เป็นการเจรจาซื้อขายข้าวแบบจีทูจี เป็นไปตามยุทธศาสตร์การระบายข้าวในสต็อกของรัฐบาล ที่ได้รับความเห็นชอบจากประธาน กขช.




