ธปท.หนุนแบงก์ใช้ชิปATMกันถูกแฮ็ก

ธปท.หนุนแบงก์หันมาใช้ "ไมโครชิป"บนบัตรเอทีเอ็ม-เดบิต ป้องกันโดนแฮ็ก ขณะที่ตู้ATMปัจจุบันรองรับระบบชิปแล้ว 3 หมื่นตู้ คาดสิ้นปี"58 ครบหมด
นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายระบบการชำระเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้มีนโยบายให้ธนาคารพาณิชย์ดำเนินการเปลี่ยนรูปแบบบัตรและตู้เอทีเอ็มจากระบบแถบแม่เหล็กเป็นระบบไมโครชิป ภายในเดือนธ.ค.58 เพื่อป้องกันปัญหาการโจรกรรมข้อมูลบัตร (สกิมมิ่ง) โดยปัจจุบันตู้เอทีเอ็มมีอยู่ 50,000 ตู้ และเปลี่ยนระบบเป็นไมโครชิปแล้ว 30,000 ตู้ ส่วนที่เหลือจะทยอยเปลี่ยนระบบจนครบ แต่คงต้องให้เวลากับธนาคารพาณิชย์ในการเปลี่ยนบัตรเอทีเอ็มให้กับประชาชน ซึ่งช่วงเวลาที่เหลือนี้ก็จะใช้ระบบคู่ขนานไปก่อน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาธนาคารพาณิชย์ได้ติดเครื่องป้องกันการคัดลอกบัตรที่ตู้เอทีเอ็ม และเพิ่งเกิดเรื่องเมื่อเดือนพ.ย. ทีผ่านมา เนื่องจากบัตรเอทีเอ็มและบัตรเดบิตในปัจจุบันยังคงใช้แถบแม่เหล็กอยู่ ทำใหัการคัดลอกข้อมูลทำไดัไม่ยากนัก แม้ธนาคารพาณิชย์จะมีมาตรการป้องกันความเสี่ยงที่ตู้และระบบก็ตาม เช่น การใช้บัตรถอนเงินในจุดเสี่ยง หรือประเทศที่มีความเสี่ยงก็สามารถอายัดบัตรได้ทันที ทำให้ธปท.มีนโยบายให้บัตรเดบิตและบัตรเอทีเอ็มตัองเปลี่ยนเป็นไมโครชิปจะทำให้การคัดลอกไม่สามารถทำได้
"ปัจจุบันมีหลายประเทศเช่น ยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น ได้เปลี่ยนรูปแบบบัตรเอทีเอ็ม และบัตรเดบิตมาใช้ไมโครชิป ถือเป็นการป้องกันการคัดลอกข้อมูลได้มีประสิทธิภาพ ขณะที่ ธนาคารพาณิชย์ไทยเริ่มมีการตื่นตัว แลเห็นว่าธนาคารกรุงเทพได้นำร่องเปลี่ยนบัตรเดบิต และเอทีเอ็ม มาเป็นบัตรไมโครชิปแล้ว"นายจาตุรงค์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนบัตร ธนาคารพาณิชย์น่าจะดำเนินการให้ได้ เพราะค่าบัตรที่แปลงเป็นไมโครชิปมีมูลค่าไม่มากเมื่อแลกกับความปลอดภัย แม้จะมีต้นทุนเพิ่มขึ้น แต่ที่ธปท.คาดหวังว่าธนาคารลงทุนด้วยเทคโนโลยี โดยเฉพาะการป้องกันและคงจะไม่คิดเรื่องผลตอบแทนว่าคุ้มหรือไม่คุ้ม เพราะกระทบกับประชาชนทั่วไป หากไม่ใช่ความผิดของลูกค้าก็ต้องชดเชยให้ โดยที่ผ่านมาเหตุการณ์ดังกล่าว ก็ชดเชยให้ภายใน 1-2 วัน รวมทั้ง ให้ความรู้กับประชาชนในการป้องกันตัวเอง เพื่อให้รับทราบความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น รวมถึงประชาชนเองต้องระมัดระวังในการใช้บัตร เช่น การเปลี่ยนรหัสบ่อยๆ ไม่ใส่ข้อมูลส่วนตัวลงในอินเทอร์เน็ต เป็นต้น เพราะหากร่วมมือกันก็จะทำให้ปัญหาไม่เกิดขึ้นอีก







