เคาะ7สถานีรถไฟเร็วสูงกทม.-พิษณุโลก

สนข.เผยผลศึกษารถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-พิษณุโลก วงเงินลงทุนกว่า 2.1 แสนล้านบาท วาง 7 สถานี ผ่าน 8 จังหวัด อ้างใช้งบฯ 15 ปีจึงจะสร้างเสร็จ
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ รองผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า ที่ปรึกษาโครงการ ศึกษาและออกแบบรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ได้จัดงานรับฟังความคิดเห็นผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นครั้งที่ 3 โดยพบว่าโครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพ ฯ - เชียงใหม่ ระยะทาง 669 กม. มูลค่าลงทุนอยู่ที่ 426,898.56 ล้านบาท ล่าสุดได้ข้อสรุปแนวเส้นทางระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-พิษณุโลก โดยเริ่มต้นจากกรุงเทพ ฯ ไปสิ้นสุดที่พิษณุโลก ระยะทาง 386 กม. วงเงินลงทุน 212,893 ล้านบาท
สำหรับแนวเส้นทางจะใช้เขตทางรถไฟเดิมเป็นหลัก โดยช่วงกรุงเทพ ฯ - พระนครศรีอยุธยา จะทำเป็นโครงสร้างยกระดับประมาณ 61 กม. มีอุโมงค์ 1 จุด ผ่านตัวเมืองลพบุรี นอกนั้นเป็นระดับพื้น วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 300 กม.ต่อชั่วโมง โดยมีความเร็วเฉลี่ยประมาณ 210 กม.ต่อชั่วโมง ตลอดแนวเส้นทางผ่าน 8 จังหวัด มี 7 สถานี ประกอบด้วย สถานีบางซื่อ ดอนเมือง อยุธยา ลพบุรี นครสวรรค์ พิจิตร และพิษณุโลก เบื้องต้นจะต้องเวนคืนประมาณ 1,617 ไร่
ทั้งนี้ ผลการศึกษาด้านเศรษฐกิจของรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพ ฯ - พิษณุโลก พบว่ามีอัตราส่วนผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ อยู่ที่ 13.2% มูลค่าการลงทุน 212,893.31 ล้านบาท และช่วงพิษณุโลก-เชียงใหม่ ระยะทาง 283 กม. ซึ่งจะดำเนินการในระยะต่อไป มีอัตราส่วนผลตอบแทนทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 12.56% มูลค่าการลงทุน 214,005.25 ล้านบาท โดยกำหนดค่าโดยสารเบื้องต้นเฉลี่ย 2 บาทต่อกม. เมื่อเดินทางจากกรุงเทพ ฯ - พระนครศรีอยุธยา มีค่าโดยสารเที่ยวละ 163 บาท ใช้เวลาเดินทางเพียง 18 นาที คาดว่าผลศึกษาทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.2557
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโครงการรถไฟความเร็วสูงอยู่ในพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของประเทศ จึงยังไม่สามารถขอออกพ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดินได้ จะต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพ.ร.บ.กู้เงินก่อน หากไม่ขัดต่อกฎหมายจึงจะเดินหน้าต่อ แต่ในส่วนของการศึกษาสามารถดำเนินการได้
ทั้งนี้หากต้องใช้เงินงบประมาณประจำปีมาดำเนินโครงการนั้น คาดว่าจะต้องใช้เงินงบประมาณถึง 15 ปี จึงจะพัฒนาโครงการได้ทั้งหมด หรือใช้เวลาพัฒนาโครงการเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว อีกทั้งอาจจะต้องใช้เงินงบประมาณเพิ่มขึ้นตามมูลค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นด้วย
"เร็วนี้ๆกระทรวงคมนาคมจะประชุมร่วมกับกระทรวงการคลัง เรื่องการขอใช้พื้นที่ก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นพื้นที่ ของราชพัสดุ และกองทัพอากาศ ซึ่งสถานีส่วนใหญ่จะพัฒนาจากสถานีเดิมของการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) ซึ่งขณะนี้มี 2 สถานีที่ยังไม่ลงตัวคือ สถานีจังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดสระบุรี"นายชัยวัฒน์ กล่าว
ส่วนเรื่องผลกระทบจากการพัฒนาโครงการที่อาจเกิดขึ้นกับแหล่งประวัติศาสตร์และโบราณคดีสำคัญที่ประชาชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีข้อกังวล เช่น สถานีรถไฟบางปะอิน วัดพนัญเชิง วัดเกาะแก้ว วัดกล้วยนั้น โครงการ ได้กำหนดให้มีการก่อสร้างด้วยการใช้เสาเข็มเจาะแทนเสาเข็มตอกเพื่อลดแรงสั่นสะเทือน และหากพบหลักฐานทางโบราณคดีใด ๆ ในพื้นที่ก่อสร้างจะแจ้งสำนักศิลปากรในพื้นที่ให้ดำเนินการตรวจสอบทันที พร้อมตั้งงบประมาณพิเศษเพื่อดูแลรักษาโบราณสถานหากได้รับความเสียหาย และปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างที่อาจกีดขวางทางระบายน้ำได้ออกแบบเป็นโครงสร้างทางรถไฟยกระดับตั้งแต่กรุงเทพฯ-อยุธยา (สถานีบ้านม้า)
ด้านนายนัทธี บ่อสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยู่ระหว่างการจัดทำผังเมืองเพื่อรองรับรถไฟความเร็วสูงในพื้นที่สถานีรถไฟเดิมคือบริเวณริมแม่น้ำ ซึ่งขณะนี้มีประชาชนเช่าที่ของร.ฟ.ท.อยู่จำนวนมาก ดังนั้นสนข.และร.ฟ.ท.คงจะต้องลงไปชี้แจงรายละเอียดการพัฒนาโครงการให้ประชาชนทราบก่อน เพื่อจะได้เตรียมตัวย้ายออกจากพื้นที่







