'เอ็มทีเอส'คาดทองร่วง$1,180รับเฟดลดQE

'เอ็มทีเอส'คาดทองร่วง$1,180รับเฟดลดQE

"เอ็มทีเอส โกลด์" มองราคาทองจะลงแตะ 1,180 ดอลลาร์/ออนซ์ในเดือน ธ.ค.นี้ รับเฟดจ่อชะลอ QE คาดปีหน้าอาจร่วงต่ำสุดถึง 1,150-1,100 ดอลลาร์

นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก เปิดเผยว่า คาดราคาทองคำในเดือนธ.ค. 56 มีโอกาสจะทดสอบจุดต่ำสุดเดิมที่ 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยปัจจุบันราคาทองคำอยู่ที่ 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากมีปัจจัยการลดและยกเลิกประเด็น QE ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เข้ามากดัน สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัว ซึ่งจากกรณีดังกล่าวจะทำให้เงินลงทุนออกจากทองคำไปสู่เงินดอลลลาร์สหรัฐ และตลาดหุ้นมากขึ้น โดยมองว่าราคาทองจะยังอยู่ในขาลงไปจนถึงต้นปีหน้า โดยมองว่าจุดต่ำสุดของราคาทองคำในปีหน้าจะอยู่ที่ 1,150-1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับต้นทุนหน้าเหมือง   

ทั้งนี้มองว่าหากราคาทองเข้าสู่จุดต่ำสุดระดับดังกล่าวแล้วจะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว โดยราคาทองคำได้เข้าสู่ช่วงพักฐานมาเป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว ซึ่งโดยปกติช่วงราคาทองคำจะมีการพักฐานประมาณ 2-3 ปี ก่อนจะปรับตัวขึ้นไปสู่จุดเดิม  

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนให้เน้นเล่นสั้น ใช้ความรวดเร็วในการซื้อขายและควรปรับกลยุทธ์ให้ขายก่อนแล้วซื้อทีหลัง เนื่องจากราคาทองค่อนข้างผันผวน   

"ทองยังอยู่ในช่วงขาลง กลยุทธ์ก็คือให้เข้าเร็ว ออกเร็วภายใน 7 วัน และใช้กลยุทธ์ขายก่อน ซื้อทีหลัง เพราะทองไม่เหมือนหุ้นที่ถือยาวได้ และมีตัวเลือกมาก โดยมองว่าปัจจัยการลด QE จะเป็นตัวกดดันหนักให้ราคาลงได้อีกช่วงธ.ค.นี้ อาจทดสอบ 1,180 ดอลลาร์ หรือถ้าคิดเป็นเงินไทยก็จะอยู่ที่ 17,000-18,000 บาทต่อ 1 บาททองคำ นอกเหนือจากประเด็น QE แล้วยังมีประเด็นเรื่องการเมืองอีก ซึ่งหากยังไม่มีความชัดเจนและยืดเยื้ออาจจะทำให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวและทำให้ราคาทองลดลงได้อีก" นพ.กฤชรัตน์ กล่าว