แพนเอเซียฟุตแวร์พับแผนลงทุนกัมพูชา

นายสมมาต ขุนเศษฐ กรรมการและผู้อำนวยการทั่วไป บริษัทแพนเอเซีย ฟุตแวร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทแพนเอเซียจำเป็นต้องหยุดผลิตสินค้าสำหรับคำสั่งซื้อแบรนด์ต่างประเทศตั้งแต่สิ้นเดือน ส.ค.นี้เป็นต้นไป โดยสายการผลิตที่จะหยุดมีพนักงงานประมาณ 2,000 คน และบริษัทจะจ่ายเงินชดเชยตามที่กฎหมายกำหนด แต่สายการผลิตสำหรับการผลิตสินค้าจำหน่ายในประเทศยังดำเนินการอยู่ ซึ่งจะผลิตสินค้าป้อนให้กับบริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ส่วนรองเท้ายี่ห้อแพนไม่ได้ผลิตให้มามากกว่า 10 ปี แล้ว เพราะแยกกันบริหารงานกับบริษัทบางกอกรับเบอร์ จำกัด (มหาชน) ที่ปัจจุบันยังคงผลิตรองเท้าแพนอยู่

บริษัทแพนเอเซียต้องการเลิกรับจ้างการผลิตให้กับต่างประเทศเพราะถ้ายังคงผลิตต่อไปธุรกิจคงไปไม่รอดจึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ต้องลดขนาดธุรกิจลง โดยถ้าเทียบต้นทุนการผลิตรองเท้าของไทยกับจีนหรือเวียดนามแล้วพบว่าต้นทุนการผลิตในไทยแข่งขันได้ลำบาก และต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผลประกอบการช่วงที่ผ่านมาขาดทุน ซึ่งต่อไปถ้าจะแข่งขันกับจีนและเวียดนามก็ต้องผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มเพื่อให้แข่งขันได้

ทั้งนี้ บริษัทแพนเอเซียต้องหยุดผลิตสินค้าที่เป็นคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเพราะขาดทุนติดต่อกันมานานหลายปีทำให้ปัจจุบันมีนโยบายลดขนาดธุรกิจลง และบริษัทแพนเอเซียจะปรับจากการเป็นผู้ผลิตสินค้าป้อนลูกค้าเองมาเป็นบริษัทโฮลดิ้ง และให้บริษัทลูกที่เหลืออยู่ 3-4 แห่งเป็นผู้ผลิตสินค้าป้อนคำสั่งซื้อในประเทศ ซึ่งบริษัทลูกที่เหลือดังกล่าวมีพนักงานรวม 1,000 คน และในช่วง 1 ปี ที่ผ่านมา ปิดบริษัทลูกไปมากกว่า 10 แห่ง และหลังจากนี้ก็จะหาทางให้บริษัทลูกที่เหลือมีผลกำไรขึ้นมา โดยเฉพาะการผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มเพื่อให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทแพนเอเซียกำลังวางแผนที่จะเรียกประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อชี้แจงเรื่องการปรับโครงสร้างธุรกิจและตอบคำถามผู้ถือหุ้น ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทแพนเอเซียชี้แจงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมาตลอดตามที่กฎหมายกำหนด แต่คงมีผู้ถือหุ้นที่ต้องการคำชี้แจงจากบริษัทเพิ่มเติม โดยขณะนี้ยังไม่ได้วันประชุมผู้ถือหุ้นที่ชัดเจนแต่อย่างช้าคงไม่เกินการประชุมใหญ่สามัญประจำปีในเดือน เม.ย.2557

นายสมมาต กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้บริษัทแพนเอเซียมีแผนไปลงทุนตั้งโรงงานผลิตรองเท้าในต่างประเทศ เช่น กัมพูชา ซึ่งได้เข้าไปดูสถานที่มาแล้วแต่สถานการณ์ของบริษัทในปัจจุบันทำให้ต้องชะลอแผนการลงทุนในต่างประเทศออกไปก่อน โดยบต้องการมาจัดการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ก่อนและหลังจากนั้นจึงเข้ามาดูอีกครั้งว่าจะพิจารณาอย่างไร