เหล่าเซเลบเผยเคล็ดลงทุน “รถคลาสสิค-นาฬิกา-เพชร”

เหล่าเซเลบเผยเคล็ดลงทุน “รถคลาสสิค-นาฬิกา-เพชร”

“เก็งกำไรเอาส่วนต่าง” อาจไม่ใช่ “วิถีลงทุน” Celebrity ยุคใหม่ “รถคลาสสิค-นาฬิกา-เพชร” แม้อนาคตจะขายได้กำไรเท่ามด แต่“คุณค่าทางจิตใจ” มันใหญ่

ลงทุนในสิ่งที่รัก!! “Passion Investment”

คนมีตังค์!!บางคนเลือกวิธี “ออมเงิน” ด้วยการสะสมของที่มี “คุณค่าทางจิตใจ” แทนการลงทุนผ่านตลาดหุ้น แม้ไม่รู้ว่าวันหนึ่งจะขายได้กำไรมากเท่าโกยผลตอบแทนจากในตลาดหุ้นหรือไม่..

“รถคลาสสิค-นาฬิกา-เพชร” จึงกลายเป็น “วิถีลงทุน” ของเหล่าเซเลบเมืองไทย !!

“เทคนิคลงทุนในสิ่งที่รัก ประการที่หนึ่ง ต้องศึกษาจนสามารถรู้เรื่องนั้นอย่างแท้จริง ประการที่สอง ต้องมีความขี้สงสัย อย่าหลงเชื่อใครง่ายๆ และประการที่สาม คือ ให้สะสมของที่ดีที่สุดเท่าที่เราจะมีกำลังเงินสะสม ข้อนี้ถือเป็น “หัวใจหลัก” เพราะของที่ดีที่สุดเมื่อวันเวลาผ่านไปมูลค่าจะเพิ่มขึ้นอัตโนมัติ โดยเฉพาะของหายากหรือของพิเศษ “ปกรณ์ พรรธนะแพทย์” รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK เกริ่นนำ

“เป๋า” บุญฤทธิ์ จุลละทรัพย์ นายกสมาคมรถคลาสสิคประเทศไทย รับหน้าที่ถ่ายทอด “จุดเริ่มต้น” การสะสมรถยนต์คลาสสิคกลางเวที THE WISDOM Exclusive Night : From Passion to Investment คนแรกว่า มีรถคลาสสิค 4 คัน เป็น “มรดกต่อทอด” จากคุณพ่อ “พลอากาศเอก ทวี จุลละทรัพย์”

หลังท่านเสียชีวิต เราในฐานะลูกชาย ต้องรับหน้าดูแลต่อ พี่น้องคนอื่นเขาไม่ค่อยสนใจเรื่องรถ จริงๆไม่ใช่หน้าที่สะทีเดียว เพราะใจเรา “ชื่นชอบ” รถคลาสสิคอยู่แล้ว เพราะคลุกคลีมาตั้งแต่เด็กน้อย เวลาไปไหนคุณพ่อมักหนีบผมขึ้นรถตลอด..

“Mercedes Benz 190Sl ปี1955” รักมากที่สุดรถคันนี้!! เพราะรถเกิดปีเดียวกับผม เราเติบโตมาด้วยกัน (ยิ้ม) ตอนเด็กๆ ผมนั่งกินข้าวในรถคันนี้ เดินทางไปโน่นไปนี่ ด้วยรถคันนี้ ที่ผ่านมาใช้เวลาซ่อมแซมเขาประมาณ 1 ปีกว่า เรียกว่าเปลี่ยนอะไหล่มาหมดแล้วทุกอย่าง

ส่วนมากจะได้ซากรถคลาสสิคมาสะสมก่อน จากนั้นค่อยนำมาทำสีและบูรณะเครื่องใหม่ยกแผง จากซากรถเก่ามาขึ้นโชว์รูมบอกตรงไม่ใช่เรื่องง่าย ทุกครั้งที่เห็นรถเก่ากลายเป็นรถใหม่รู้สึกภาคภูมิใจ รถคลาสสิคที่มีโอกาสได้ครอบครองแต่ละคัน เขาจะมีบุคลิกไม่เหมือนกัน บางคันมีหน้าตา “ภูมิฐาน” ออกแนวน่าเกรงขาม สไตล์นี้เหมาะกับการเป็นรถของผู้นำ หรือบางคันมีหน้าตา “สปอร์ต เฉี่ยว” แต่ออกแนวผู้ดี

หากนำรถคลาสสิคเหล่านี้มาจอดเรียงกับรถยุคปัจจุบัน เชื่อว่าสายตาคนส่วนใหญ่จะมาอยู่ที่รถคลาสสิค เพราะเป็นรถยนต์ที่หาชมยาก เส้นสายการของการออกแบบค่อนข้างสวยงาม นี่คือ ที่มาของความแตกต่าง และน่าสะสม อย่างน้อยมีเราที่ยังคงเก็บ เพื่อให้รุ่นลูกรุ่นหลานศึกษาต่อ หรือเป็นแนวทางการลงทุนอย่างหนึ่ง อนาคตมูลค่าจะเพิ่มขึ้น “นายกสมาคมรถคลาสสิกประเทศไทย” เชื่อเช่นนั้น

ใครที่สนใจลงทุนรถคลาสสิค “เป๋า-บุญฤทธิ์” แนะนำว่า ประการที่หนึ่ง คุณต้องดูว่ารถคลาสสิคคันนั้น ในอนาคตจะให้ “กำไร” หรือไม่ ประการที่สอง คุณได้จะกำไรในแง่ของความสุขที่ได้บูรณะรถคลาสสิคคันนั้นมากแค่ไหน ทางที่ดีก่อนลงทุนรถคลาสสิคควรขอคำปรึกษาคนที่มีความรู้ บางครั้งวันนี้ลงทุนเท่านี้ แต่อนาคตราคาอาจไม่ดีอย่างที่คิด ฉะนั้นเมื่อสนใจแล้วต้องเริ่มต้นลงทุนรถที่มีราคาไม่แพงเกินไปก่อน

“ดูแนวโน้มราคารถคลาสสิคมีโอกาสไปต่อได้มีหรือไม่ เรื่องนี้สำคัญต้องใส่ใจ”

ฟาก “จิ๊บ-วสุ แสงสิงแก้ว กรรมการสมาคมรถคลาสสิคแห่งประเทศไทย เล่าประสบการณ์การลงทุนในรถคลาสสิคว่า “แรงบันดาลใจ” ในการสะสมรถคลาสสิคมาจาก “คุณพ่อ” ทุกครั้งที่พูดถึงรถคลาสสิคจะก่อเกิดความสุขทุกครั้ง คุณพ่อหลงรักรถสปอร์ตมากๆ จำความได้ผมตอนอายุ 5-6 ขวบ ท่านจะพานั่งรถเปิดประทุนคันเล็กๆไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ

สมัยเด็กๆ ไม่มีความรู้สึกว่า รถคลาสสิคเป็นของแปลก เพราะเราเห็นจอดเรียงอยู่ที่บ้าน โตขึ้นจึงเกิดเป็นความผูกพัน ทำให้สนใจศึกษามาเรื่อยๆ เมื่ออายุมากขึ้นระดับหนึ่งสิ่งเหล่านั้นส่งอิทธิพลต่อชีวิตเรา เมื่อเริ่มมีงานทำมีเงินเก็บ ผมจะตามหาซื้อรถยนต์ที่เคยเห็นในภาพยนต์ต่างๆ สมัยนั่งดูหนังกับพ่อ ถือเป็นการตามหาความฝันในวัยเด็ก

ท่านทิ้งรถคลาสสิคให้เป็นมรดก 3 คัน ชอบ “Mercedes Benz 190Sl ปี1955” เหมือน “เป๋า-บุญฤทธิ์” จริงๆไม่ค่อยอยากเลียนแบบแกเท่าไร (หัวเราะ) ทำไมถึงชอบมาก ? เพราะเป็นรถรุ่นที่เดียวที่ผมนั่งกับพ่อสมัยเด็กๆ แถมเป็นรถรุ่นและสีเดียวกันกับที่ “เอลวิส เพรสลีย์” “ราชาแห่งร็อกแอนด์โรลล์” ศิลปินในดวงใจเคยใช้ถ่ายภาพยนต์เรื่อง “จี ไอ บลูส์”

“จิ๊บ-วสุ บอกว่า ใครที่เพิ่งเริ่มต้นสะสมรถคลาสสิก คุณควรถามใจตัวเองก่อนว่า เรามีความรักในของสะสมชิ้นนี้จริงๆ หรือเปล่า เมื่อได้คำตอบว่า “รักจริง” คำถามต่อไป คือ เรื่องของเวลา การสะสมรถคลาสสิคอาจต้องใช้เวลานานพอควร เรื่องเหล่านี้คุณต้องคิดให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนจะเริ่มต้นสะสม

ก่อนสะสมรถคลาสสิคสัก 1 คัน ควรเริ่มจากรุ่นที่ดูแลง่ายๆ ไม่ต้องไปเล่นรุ่นที่ซับซ้อนยุ่งยาก ถ้าในระยะยาวจะ “เก็งกำไร” รถคลาสสิก หลักการณ์ไม่แตกต่างกับการลงทุนในตลาดหุ้น หรือพระเครื่อง หากคุณลงทุนถูกรุ่นถูกปี อนาคตจะก่อเกิดเป็นมูลค่าเพิ่มถ้าคิดในแง่ตัวเงิน แต่สิ่งนี้ไม่ใช้ปัจจัยแรกที่ “แฟนพันธุ์แท้” รถคลาสสิคจะคิดถึง!!

“สะสมรถคลาสสิค เพื่อเก็งกำไร หลายคนคิดเช่นนั้น แต่สำหรับคนที่หลงใหลรถคลาสสิคร้อยเปอร์เซ็นต์ อาจคิดเรื่องนี้เพียงเล็กน้อย เพราะมูลค่าของเงินทอง ขายแล้วได้กำไรเท่าไร อาจไม่สามารถเทียบเท่าคุณค่าทางจิตใจ”

“ดร.ภาคภูมิ เดชสกุลฤทธิ์ ทายาท “เจษฎา เดชสกุลฤทธิ์” ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ “เจษฎาเทคนิคมิวเซียม” (พิพิธภัณฑ์รถโบราณ) เล่าว่า เกิดความรักรถยนต์ทุกชนิดมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่ได้แตกต่างจากท่านอื่นๆ เมื่อก่อนมีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ โดยเฉพาะในแถบยุโรป สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยลืมคือ การเข้าชมพิพิธภัณฑ์ยานยนต์ของแต่ละเมือง จนวันหนึ่งเกิดความคิดที่ว่า เมืองไทยน่าจะมีพิพิธภัณฑ์แบบนี้บ้าง

“Messerschmitt KR200” ไมโครคาร์ สัญชาติเยอรมัน คือ รถโบราณคันแรกที่รักมากสุด ประมูลมาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในปี 2540 จากนั้นจึงเริ่มต้นสะสมมาเรื่อยๆ ผ่านมา 10 ปี มีรถยนต์แล้ว “หลายร้อยคัน” ครอบครัวเราจึงตัดสินใจเปิดพิพิธภัณฑ์รถโบราณในปี 2549

“ไม่สามารถระบุได้ว่า ชอบคันไหนที่สุด เพราะปลื้มทุกคัน แต่ถ้าต้องเลือกขอจิ้มรถที่สามารถบ่งบอกถึงประวัติศาสตร์”

“ยูกิ ศรีกาญจนา” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพนดูลัม จำกัด บอกว่า “นาฬิกา” คือ ของสะสมที่รักมาก “รักที่สุด" ต้องยกให้ยี่ห้อ A.Lange & Sohne ซึ่งผลิตในประเทศเยอรมัน ดีไซน์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แถมยังมี Craftsmanship ที่มีความประณีตพิถีพิถัน โดยเฉพาะรุ่น Lange 1 ถือเป็นรุ่น Iconic ของแบรนด์นี้ เรียกว่าครองใจนักสะสมทั่วโลกก็ว่าได้

แต่ส่วนตัวเลือกสะสมรุ่น Little Lange 1 ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษสำหรับผู้หญิงที่มีดีไซน์เรียบหรู ปัจจุบันรุ่นนี้เลิกผลิตไปแล้ว!! ตอนนี้นักสะสมตามหากันให้วุ่น ป่านนี้มูลค่าคงสูงขึ้นมากแล้ว ชอบอะไรในรุ่นนี้? ต้องบอกว่ารุ่นนี้เป็น investment ที่คุ้มค่ามากๆ ในอนาคตสามารถเป็นมรดกที่ทรงคุณค่า..

หากใครต้องการสะสม “นาฬิกา” สิ่งแรกที่ควรกระทำ คือ ต้องศึกษาหาความรู้ก่อน่จากหนังสือ-นิตยสารที่เกี่ยวข้องกับนาฬิกา หรือค้นหาทางอินเตอร์เน็ตว่า ตอนนี้นักเล่นนาฬิกาเขานิยมเล่นรุ่นไหน การลงทุนทุกอย่างข้อมูลต้องแน่น..
ปิดท้ายด้วย “สุริยน ศรีอรทัยกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิวตี้ เจมส์ จำกัด เล่าว่า ส่วนตัวชอบ “เพชร” มากที่สุด หากใครต้องการสะสม “เพชร” ควรเริ่มซื้อช่วงวัยทำงานอายุ 20 ปีต้นๆ ขนาดไซด์เล็ก 20 สตางค์ 50 สตางค์ หรือ 1 กะรัตไซด์ บอกเลยกำลังดี มือใหม่ควรเก็บไปเรื่อยๆ อนาคตราคามีแต่เพิ่มขึ้นไม่เคยลดลง

ก่อนสะสมต้องศึกษาก่อนว่า เราชอบเพชรแบบไหน ทรงกลม หรือทรงเหลี่ยม จงถามใจตัวเองสะก่อน สะสม “เพชร” ถือเป็นการลงทุนที่ดีทางหนึ่ง ราคามีแต่เพิ่ม (เขาย้ำ) เปรียบเหมือนเก็งกำไรที่ดินที่ราคามีแต่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ

“วันนี้ยังจำสภาพตึกแถวบนถนนเจริญกรุงที่เปิดเป็นร้านค้าเพชรดั่งเดิมที่ชื่อว่า "อิ ซิน ชอง" ของครอบครัวได้ดี แม้จะผ่านมานานกว่า 50 ปี แต่ธุรกิจครอบครัวยังคงขยายต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง” เขา ถือโอกาสโปรโมทร้านเพชร