เดลต้าซื้อนิคม12ล้านยูโร ในประเทศเยอรมนี

เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) ซื้อนิคมอุตสาหกรรมในประเทศเยอรมนี พร้อมตั้งโรงงานผลิตวินด์เทอร์ไบน์สอดรับแผนเน้นสินค้ามาร์จินสูง
นายอนุสรณ์ มุทราอิศ กรรมการบริหาร บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ DELTA ผู้ผลิตชั้นนำด้านผลิตภัณฑ์เพาเวอร์ซัพพลายและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติที่ประชุม อนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อนิคมอุตสาหกรรมในประเทศเยอรมนี มูลค่า 12 ล้านยูโร จากเดิมที่เคยเช่าพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมดังกล่าว ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อตั้งโรงงานเพื่อผลิตสินค้าของบริษัทเอง และพื้นที่ที่เหลือจะแบ่งให้ผู้ประกอบการรายอื่นเช่า โดยโรงงานที่จัดตั้งขึ้นนั้น จะใช้เป็นฐานผลิตวินด์เทอร์ไบน์
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างทบทวนแหล่งเงินทุน โดยทางเลือกมีทั้งการใช้กระแสเงินสดของบริษัท ที่มีอยู่ 1 หมื่นล้านบาท และใช้เงินกู้จากสถาบันการเงิน โดยสิ้นไตรมาส 2 ปีนี้ บริษัทมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 0.49 เท่า
เขากล่าวว่า สินค้าใหม่ คือ วินด์เทอร์ไบน์ อัตรากำไร (มาร์จิน) สูงกว่าสินค้าทั่วไป ปัจจุบัน มีออเดอร์แล้ว 10 ตัวขึ้นไป โดยจะติดตั้งตัวแรกในไตรมาส 3 ปีนี้ ที่อินเดีย คาดรับรู้รายได้ในปลายไตรมาส 3 ปีนี้ หรือต้นไตรมาส 4 และที่เหลือรอเซ็นสัญญา และจะนำสินค้าดังกล่าวเจาะตลาดอาเซียนและออสเตรเลียต่อไป ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายขยายสินค้าวินด์เทอร์ไบน์ ไปยังตลาดใหม่ อาทิ ในแอฟริกา ซึ่งจะมีการนำสินค้าอื่นๆ ไปเปิดตลาดด้วย
"ยอดขายสินค้าหลักของบริษัทยังเป็น เทเลคอม พาวเวอร์, โซลาร์เซลล์ แต่ยอมรับว่ายอดขายเริ่มตกลง หลังจากที่เข้าสู่ตลาดได้ระดับหนึ่ง บริษัทจึงหันไปเน้นสินค้าที่มีมาร์จินสูง เพื่อมาทดแทนความสามารถในการทำกำไร"
นายอนุสรณ์ กล่าวเพิ่มว่า ผลประกอบการปีนี้ มั่นใจว่ากำไรสุทธิจะสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง หลังจากงวด 6 เดือนแรกปีนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิ 2,677 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 1,612 ล้านบาท และคาดการณ์ว่า กำไรสุทธิในครึ่งปีหลังจะเติบโตต่อเนื่อง หลังจากที่บริษัทเริ่มขายสินค้ามาร์จินสูง อย่าง วินเทอร์ไบน์ ในไตรมาส 3/2556 เป็นต้นไป รวมถึงการขยายตลาดใหม่ อาทิ แอฟริกาและอาเซียน
ขณะเดียวกัน บริษัทประเมินว่า ยอดขายครึ่งปีหลัง จะดีกว่าครึ่งปีแรก ที่มียอดขาย 19,205 ล้านบาท ยอดขายที่เติบโตขึ้นมาจากการมีสินค้าใหม่เพิ่มขึ้น ด้านงบลงทุนรวมปีนี้ จัดสรรไว้ที่ 500-800 ล้านบาท สำหรับซื้อเครื่องจักรใหม่ ส่วนการเข้าซื้อกิจการเพื่อขยายธุรกิจนั้น ยืนยันว่ายังไม่เห็นเพิ่มในปีนี้ แต่จะมุ่งเน้นการขยายกำลังการผลิตที่ประเทศสโลวะเกียในเฟสต่อไปแทน ทั้งนี้เพื่อเป็นฐานการผลิต และนำเข้าในแถบแอฟริกาและยุโรปได้ง่าย
เขากล่าวเพิ่มอีกว่า ในปี 2557 บริษัทตั้งเป้ากำไรสุทธิสูงกว่าปีนี้ ที่เน้นกลยุทธ์ที่ขยายสินค้าใหม่และตลาดใหม่ ซึ่งมองว่ายังมีช่องทางอีกมาก ส่วนเศรษฐกิจโลกไม่มีผลกระทบต่อการขายสินค้าของบริษัท นอกจากนี้บริษัทให้ความสำคัญต่อรายได้น้อยลง แต่เน้นการทำกำไรมากขึ้น







