ค่ายเทคโนโลยีรุกทีวีดิจิทัลชิงตลาด'โครงข่าย-กล่อง'

การเปลี่ยนแปลงโทรทัศน์ระบบดิจิทัลในประเทศไทยที่กำลังจะเกิดขึ้นในรอบ 58ปี ของอุตสหกรรมโทรทัศน์ไทย
โดยคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) วางเป้าหมายให้ "ทีวีดิจิทัล" กลุ่มแรกจำนวน 30 ช่อง จากทั้งหมดที่จัดสรรคลื่นความถี่ใหม่ 48 ช่อง เริ่มออนแอร์ครั้งแรกในวันที่ 5 ธ.ค.นี้
กระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคทีวีดิจิทัล ในฝั่งของผู้ให้บริการส่งสัญญาณ คืบหน้าอีกขั้น เมื่อ กสทช.มอบใบอนุญาต โครงข่าย (Multiplex :Mux) ให้ผู้ประกอบการแล้ว 4 รายในวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ประกอบด้วย บมจ.อสมท ,ไทยพีบีเอส ,กรมประชาสัมพันธ์ และกองทัพบกช่อง5 หลังจากนั้นจะเป็นกำหนดการประมูลช่องรายการ ประเภทธุรกิจ 24 ช่อง ในต้นเดือน ต.ค.นี้
ขณะที่ฟากเจ้าของเทคโนโลยีการวางระบบส่งสัญญาณดิจิทัลและอุปกรณ์เครื่องรับ (set top box) ระบบดิจิทัล ต่างตื่นตัว และเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสช่วงชิงตลาดในช่วงการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมบรอดแคสต์ไทยยุคดิจิทัล
เทคทีวีเล็งวางระบบMux
ชูชัย ชาญสง่าเวช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เทคทีวี จำกัด กล่าวว่า บริษัทเป็นบริษัทผู้นำเข้าอุปกรณ์โครงข่ายการกระจายสัญญาณโทรทัศน์ระบบ DVB-T2, อุปกรณ์รับสัญญาณทีวีดิจิทัล เช่น กล่อง Hybrid ,เสาอากาศรับสัญญาณ(Panal Antenna) ในปีที่ผ่านมาบริษัทได้รับการแต่งตั้งจาก บริษัท โรเดอร์ แอนด์ ชวาร์ส จำกัด ประเทศเยอรมณี ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีอุปกรณ์การกระจายสัญญาณโทรทัศน์และวิทยุ ซึ่งมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมบรอดแคสต์มากกว่า 80 ปี เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายเทคโนโลยีของโรเดอร์แอนด์ชวาร์ส แต่เพียงผู้เดียวไทย รองรับโอกาสทางธุรกิจในการเปลี่ยนสู่ทีวีดิจิทัลในปลายปีนี้
สำหรับรูปแบบการทำธุรกิจของเทคทีวี แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนธุรกิจต้นน้ำ การวางระบบส่งสัญญาณและเครื่องส่งทีวีดิจิทัล ให้กับผู้ประกอบการโครงข่าย (Mux) ด้วยเทคโนโลยีของโรเดอร์ แอนด์ ชวาร์ส ซึ่งเป็นโซลูชั่นครบวงจร ที่สถานีทีวีและสตูดิโอชั้นนำในต่างประเทศหลายรายเลือกใช้บริการ โดยพัฒนาเทคโนโลยี Doherty ที่สามารถช่วยประหยัดพลังงานได้ถึง 42% ถือเป็นการช่วยลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการ พร้อมบริการหลังการขายจากทีมวิศวกรที่ผ่านการอบรมจากโรเดอร์แอนด์ชวาร์ส ประเทศเยอรมนี นอกจากนี้อุปกรณ์และระบบได้รับการออกแบบมาให้สามารถรองรับเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ รวมถึงสามารถรองรับการอัพเกรดซอฟต์แวร์ ที่เกี่ยวข้องโดยที่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนอุปกรณ์
หลังจาก กสทช. ได้เปิดให้สถานีฟรีทีวี ได้สิทธิทดลองออกอากาศทีวีดิจิทัลในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้ร่วมมือกับ บมจ. อสมท และสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 ให้เป็นผู้ติดตั้งอุปกรณ์ส่งสัญญาณทีวีดิจิทัล เพื่อทดลองให้บริการในพื้นที่เขตกรุงเทพฯและเชียงใหม่ เชื่อว่าจะเทคโนโลยีของบริษัทจะได้รับความสนใจจากผู้ให้บริการโครงข่าย
"ในกลุ่มธุรกิจโครงข่าย คาดว่าแต่ละรายจะใช้งบลงทุนราว 1พันล้านบาท ปัจจุบันเทคทีวีได้เสนอโซลูชั่นครบวงจรในการวางระบบรวมทั้งอุปกรณ์ส่งสัญญาณกับผู้ประกอบการทั้ง 4 รายที่ได้รับไลเซ่นได้พิจารณาแล้ว" ชูชัย กล่าว
กลุ่มธุรกิจต้นน้ำทีวีดิจิทัล ภายใต้ความร่วมมือด้านอุปกรณ์และเทคโนโลยีของโรเดอร์แอนด์ชวาร์ส บริษัทมีเป้าหมายขับเคลื่อนธุรกิจให้เป็น "ผู้นำ" ในการให้บริการอุปกรณ์โครงข่ายการกระจายสัญญาณทีวีดิจิทัลและวิทยุระบบดิจิทัล รวมถึงเครื่องส่งโทรทัศน์ Network Management อุปกรณ์ผลิตรายการสำหรับสตูดิโอ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องอื่นๆอีกมากมาย
ขณะที่ ธุรกิจปลายน้ำ พร้อมทำตลาดในอุปกรณ์รับสัญญาณทีวีดิจิทัล ระบบ DVB-T2 ที่มีเป้าหมายเป็นครัวเรือนไทยทั่วประเทศ 22 ล้านครัวเรือน โดยจะทำตลาดใน 3 อุปกรณ์ คือ กล่องรับสัญญาณ T2 แบรนด์ "เทคทีวี" , อุปกรณ์ dogle รับสัญญาณภายในบ้าน ,อุปกรณ์รับสัญญาณในรถยนต์ และเสาอากาศรับสัญญาณทีวีดิจิทัล นอกบ้าน โดยกล่อง T2 ราคาอยู่ที่ 1,000 บาท รับเฉพาะช่องรายการทีวีดิจิทัล และกล่องไฮบริด รับสัญญาณอินเทอร์เน็ต ราคา 2,000 บาท
'แพลนเน็ตคอม'ลุยกล่องไฮบริด
เช่นเดียวกับ ประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ กรรมการผู้อำนวยการและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) ผู้นำเทคโนโลยีด้านโทรคมนาคมและโทรทัศน์ระบบดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่าบริษัทมีความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบระบบการสื่อสารโซลูชั่นครบวงจร และมีความพร้อมในการออกแบบโครงข่ายส่งสัญญาณโทรทัศน์ระบบดิจิทัลให้กับผู้ให้บริการโครงข่าย ทั้ง 4 ราย ซึ่งเฉพาะธุรกิจโครงข่ายคาดใช้งบลงทุนรวม 5,000 ล้านบาท สำหรับการวางระบบและติดตั้งอุปกรณ์ส่งสัญญาณในสถานีหลักทั่วประเทศ 39 สถานี รวมทั้งสถานีเสริมทั่วประเทศ
ส่วน"กล่องรับสัญญาณ" จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ แพลนเน็ตคอม (PlanetComm) รุ่นแรกเป็นกล่องรุ่น DVB-T2 รับสัญญาณเฉพาะช่องรายการทีวีดิจิทัล 48 ช่อง ตั้งราคาขายปลีกที่กล่องละ 1,500 บาท สำหรับตลาดแมส คาดเริ่มจำหน่ายในราวเดือน ก.ย.นี้ หลังจากได้รับใบอนุญาตรับรองมาตรฐาน และใบอนุญาตจัดจำหน่ายจาก กสทช. แล้ว
ภายใต้แผนการทำตลาดกล่องทีวีดิจิทัล เตรียมพัฒนากล่องรุ่นไฮบริดต่อเนื่อง สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบเทคโนโลยีนวัตกรรมการรับชมใหม่ๆ ทั้ง รุ่น HBB TV หรือ ไฮบริด บรอดแคสต์ บรอดแบนด์ ทีวี รับสัญญาณทีวีดิจิทัลและอินเทอร์เน็ต ราคากล่องละ 2,500 บาท และกล่องรุ่นคอมโบ รับสัญญาณทีวีทุกแพลตฟอร์มทั้งทีวีดิจิทัล ทีวีดาวเทียม อินเทอร์เน็ต รวมทั้งการรับชมในรูปแบบ OTT (over the top) โดยทั้ง2 รุ่นไฮบริดดังกล่าวจะเริ่มจำหน่ายในต้นปีหน้า
ในกลุ่มธุรกิจกล่องทีวีดิจิทัล ถือเป็นตลาดขนาดใหญ่ ที่มีกลุ่มลูกค้า 22 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ และมีโอกาสเสนอกล่องรุ่นใหม่ ด้วยเทคโนโลยีอินเตอร์แอ็คทีฟ เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยแพลนเน็ตคอม วางเป้าหมายครองส่วนแบ่งตลาดกล่องไว้ที่ 5% ในยุคเปลี่ยนสู่ทีวีดิจิทัลนับจากปีนี้เป็นต้นไป




