“สุพิชญา จำปา” วัยรุ่นเงินล้าน !!

“สุพิชญา จำปา” วัยรุ่นเงินล้าน !!

สาวน้อยหน้าใส “นิ-สุพิชญา จำปา” เริ่มต้นธุรกิจในวัยเพียง 15 ปี ด้วยเงินลงทุน“ศูนย์บาท”4 ปีผ่านไปเธอมีรายได้เข้ากระเป๋าสูงถึง 50 ล้านบาท !!

เพิ่งอายุครบ 20 ปี ไปหมาดๆ สำหรับ “นิ-สุพิชญา จำปา” แต่ในวันนี้เธอมีตำแหน่งเป็นถึง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ละมุน จำกัด เจ้าของแบรนด์เครื่องสำอาง “ละมุน” (Lamoon) แบรนด์ที่ปลุกปั้นมาด้วยสองมือ และกำลังทำเงินอย่างงามงด

ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีก่อน เด็กมัธยมจากลพบุรี วัยเพียง 15 ปี “นิ” สุพิชญา เธอก็เป็นเหมือนเด็กวัยรุ่นคนอื่น ที่อยากได้โน่น ได้นี่ไปตามประสา แต่ด้วยความที่เกิดมาในครอบครัวธรรมดาๆ มีคุณแม่เป็นข้าราชการ ขณะที่ผู้นำครอบครัวอย่างพ่อก็เสียชีวิตไปแล้ว ของที่อยากได้ จึงมักถูกยื่นข้อเสนอจากครอบครัวว่าให้เก็บเงินกันคนละครึ่ง

นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอคิดหารายได้จากการทำงาน

แต่เด็กวัยเพียง 15 ปี มีค่าขนมในแต่ละสัปดาห์น้อยนิด จะไปเริ่มหาเงินจากที่ไหน เธอเลยมองเรื่องใกล้ตัว กับสื่อ Social Network ที่ใช้อยู่ทุกวี่วันอย่าง “Facebook” ช่องทางที่จะสื่อสารกับคนหมู่มากได้ ที่สำคัญคือ “ฟรี” ไม่มีค่าใช้จ่าย จากนั้นก็มองหาของที่จะขายผ่านช่องทางนี้ จนมาสะดุดที่ “เครื่องสำอาง” ด้วยนิสัยรักสวยรักงามเป็นทุนเดิม สินค้าตัวไหนใช้แล้วดี หรือที่ติดตลาดแล้ว ก็ลองนำมาเสนอขาย

เมื่อไม่มีเงินทุน ก็ใช้ระบบ “พรีออเดอร์” คือ จ่ายเงินก่อน แล้วไปสั่งของทีหลัง ทำให้สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ด้วยเงินทุนที่ “ศูนย์บาท”

ด้วยความจริงใจของคนขาย และประสิทธิภาพของสินค้าที่โดนใจลูกค้า ทำให้เกิดกระแส “ใช้ดีแล้วบอกต่อ” จนสมาชิกหน้าเพจเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ผ่านมา 4 ปี มีลูกค้าอยู่กว่า 3 หมื่นราย ที่สำคัญเธอสามารถทำรายได้จากช่องทางนี้ได้ถึง 50 ล้านบาท!!

กลายเป็นเศรษฐีหน้าใหม่ในวัยไม่ถึง 20 ปี

ด้วยประสบการณ์ที่เพิ่มมากขึ้น และมีเงินทุนเพิ่มขึ้นตามมา ขณะที่พอของเริ่มขายดี ผู้ผลิตต้นทางก็ขอปรับราคาทำให้แม่ค้าคนกลางเริ่มอยู่ยากขึ้น เวลาเดียวกับที่คู่แข่งในตลาดก็เพิ่มทวีขึ้นตามมา จนเธอต้องตัดพ้อว่า

“แม่ค้า มีมากกว่าลูกค้าด้วยซ้ำ” จึงต้องขยับความฝันขึ้นมาอีกสเต็ป ด้วยการสร้างแบรนด์ของตัวเองกับเขาเสียที

“ต้องยอมรับว่าการตลาดอาจยังไม่ถนัด การจะทำผลิตภัณฑ์อะไรออกมา เลยดูจากแค่ของที่เราชอบ ใช้แล้วได้ผล ที่สำคัญ ออกมาแล้วต้องดีกว่าเจ้าอื่น คือต้องให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า แล้วยอดขายก็คงจะตามมาเอง”

องค์ความรู้ที่มาจากประสบการณ์ล้วนๆ บวกกับการจ้างทีมวิจัยมาช่วยพัฒนาสินค้า โดยโยนโจทย์สรรพคุณผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ คือ ต้องเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ปลอดภัย อ่อนโยนสมชื่อ “ละมุน” บวกส่วนผสมที่เต็มแม็ก ชนิดหลอดเดียวอยู่ ไม่ต้องใช้หลายๆ หลอด “คุ้มค่า” ได้ทั้งบำรุงผิว ป้องกันสิว หรือแม้แต่ขับล้างสารพิษ (Detoxiation) เพราะมองถึงตัวเองสมัยยังเป็นวัยรุ่น ที่เงินน้อยนิด แต่ก็ยังอยากได้ของดี ราคาไม่แพงใช้

นั่นคือที่มาของ 3 พระเอก อย่าง โฟมล้างหน้า ครีมจำกัดสิว และครีมบำรุงผิวขาว ภายใต้แบรนด์ “ละมุน” ในความหมายของความนุ่มนวล อ่อนโยน สำหรับผิวพรรณของสาวๆ วัยเริ่มเป็นสิวขึ้นไป ในราคาตั้งแต่ 350-450 บาท ซึ่งเพิ่งเปิดตัวสู่ตลาดได้ประมาณเดือนเศษๆ หลังใช้เวลาผลิตสูตรอยู่ประมาณหนึ่งปี ก่อนก่อตั้ง บริษัท ละมุน จำกัด ขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท พร้อมเตรียมงบการตลาดในปีนี้ไว้จัดเต็มถึง 10 ล้านบาท!

แน่นอนว่า ทั้งหมดไม่ได้กู้แบงก์ ไม่ได้รบกวนคนในครอบครัว แต่เป็นเงินทุนที่เธอได้จากการขายของล้วนๆ

เป็นแบรนด์น้องใหม่ แต่อยู่ในสนามมานาน และรู้ใจลูกค้าเอามากๆ ทำให้สินค้าล็อตแรกที่เปิดตัว ใช้เวลาเพียง 7 วัน ทำรายได้ถึง 10 ล้านบาท! ถึงสิ้นปีนี้ผู้บริหารวัยละอ่อนตั้งเป้าว่า จะมีรายได้อยู่ที่ 50 ล้านบาท !

“ได้รับการตอบรับดีมาก เพราะลูกค้าติดผลิตภัณฑ์ของเราและเชื่อมั่นในตัวคนขาย จากที่ค้าขายกันมานาน เขาซื้อของจากเราสมัยที่ยังเป็นหลอดขาวๆ ด้วยซ้ำ ฉะนั้นเขาเชื่อใจ เราใช้อะไรเขาก็ใช้ตาม อยากรู้อยากปรึกษา พอใช้ดีก็บอกต่อ ซึ่งการใช้ช่องทางเฟชบุ้คต้องอาศัยการบอกต่อ และค่อยๆ สั่งสม ไม่ใช่วันเดียวแล้วจะประสบความสำเร็จ”

การเติบโตของยอดขาย ซึ่งเธอบอกว่า “ผลิตมาเท่าไรก็ขายเกลี้ยง” ทำให้มองเลยไปถึงการมีโรงงานผลิตของตัวเอง โดยปัจจุบันใช้บริการรับจ้างผลิตอยู่ 2 โรงงาน กำลังการผลิตอยู่ที่ ประมาณ 2-5 หมื่นชิ้นต่อสัปดาห์ ซึ่งเธอบอกว่า กำลังการผลิตที่ต้องการ คือ 2 แสนชิ้นต่อเดือน และถ้าสร้างโรงงานได้ ก็น่าจะเพิ่มกำลังการผลิตได้ถึง 1 แสนชิ้น ต่อสัปดาห์ โดยตั้งงบที่จะใช้ทำโรงงานประมาณ 20 ล้านบาท ขณะที่ตั้งเป้าเติบโตประมาณ 20% ต่อปี ผ่านการขยายช่องทางจำหน่ายนอกจากเฟชบุ้ค ไปสู่คอนวีเนียนสโตร์ และโมเดิร์นเทรดชั้นนำ ขยายตัวแทนจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ พร้อมทยอยออกผลิตภัณฑ์ใหม่มาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง

ทำธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อย เธอยอมรับว่า “อุปสรรคเพียบ” เจอมาแล้วทั้งการถูกโจมตี ถูกเอาเปรียบ เพราะคิดว่า “เด็ก” หลอกง่าย เอาเปรียบง่าย

“ที่ผ่านมาติดต่อโรงงานเยอะมาก ก็มีทั้งที่ตอบรับและปฏิเสธ ที่ปฏิเสธเพราะเขาไม่เชื่อใจ ไม่มั่นใจ ตอนแรกที่เขาขอเอกสารโน่นนี่ ด้วยความที่เด็ก เราไม่เข้าใจ เพราะไม่มีใครมาช่วย เดินหน้าเองคนเดียว บางทีใส่ชุดนักเรียนไปคุยก็มี ยิ่งพอบอกอายุทุกคนก็จะตกใจ ก็ต้องพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าเราตั้งใจจริงแค่ไหน”

แต่อายุน้อยก็ไม่ได้มีแต่ข้อเสีย เธอบอกว่าข้อดีคือ เริ่มต้นได้เสมอ สามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้ตลอด และเวลาเข้าหาผู้ใหญ่ ก็มักจะได้รับความเอ็นดู ช่วยแนะนำในหลายๆ เรื่อง

สำหรับคนวัยมัน ที่ไม่อยากปล่อยชีวิตไปวันๆ อยากเป็นเศรษฐีอายุน้อย สุพิชญาบอกว่า ต้องมีความกล้า กล้าที่จะคิด ที่สำคัญไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ และไม่ว่าจะปัญหาอะไรก็ใหญ่กว่าตัวเราทั้งนั้น

“คู่แข่งไม่เคยมองว่าเราเด็กกว่า หรือ แก่กว่า แต่เขาจะมองแค่ว่า ถ้าเด็ก ก็คือ อ่อนแอกว่า เพราะฉะนั้นถ้าอยากประสบความสำเร็จ หนึ่งเลย คือ ต้องอดทน อดทนและซื่อสัตย์ เชื่อว่าตัวเองเป็นคนที่มีความอดทนสูงมากๆ ถึงมีวันนี้ได้”

หลายครั้งที่ต้องรับมือกับกระแสต่างๆ ที่อาจมาบั่นทอนจิตใจเอามากๆ เธอบอกว่า ไม่ต้องแคร์ ให้แคร์เฉพาะคนที่รักและหวังดีกับเราเท่านั้น เพราะเป็นธรรมดาที่เมื่อทำสินค้าออกมาดี จะมีคู่แข่งมาโจมตี แต่ “คุณภาพสินค้า” จะเป็นตัวยืนยัน การันตี และคลี่คลายปัญหาทุกอย่างได้เอง

เด็กสาวในวัย 20 ปี กำลังศึกษาอยู่ในคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เธอมีโอกาสเป็นวิทยากร ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนนักศึกษาด้วยกัน เพื่อที่จะเห็นลู่ทางมุ่งสู่ความสำเร็จได้เหมือนกับเธอในวันนี้

สำหรับ “สุพิชญา” ชีวิตคือการเรียนรู้ และยังต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต แต่จะมุ่งมั่นต่อไป และหาทางทำให้ธุรกิจยั่งยืน เมื่อมั่นใจแล้วว่า เส้นทางผู้ประกอบการ คือหนทางที่จะตอบสนองความฝันในชีวิตได้

“วัยรุ่นก็อยากเป็นในหลายๆ อย่าง แต่ความเป็นนักธุรกิจอาจไม่มีใครมองถึงตรงจุดนี้ แต่เมื่อมายืนอยู่ตรงนี้ ก็รู้ว่าหลายๆ อย่างที่เคยใฝ่ฝันมา นี่คือหนทางที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้ ก็ต้องมุ่งมั่นต่อไปให้ถึงที่สุด”

แม้อายุน้อยแต่ความคิดแหลมคมอย่างนักธุรกิจ ที่สำคัญคือเลือกขยายธุรกิจจากทุนของตัวเอง และแบ่งทุนกันไว้สำหรับการเติบโตในอนาคต นี่คือ คมคิดของนักธุรกิจพันธุ์ใหม่ ที่ “หัวใจ” ใหญ่กว่า “อายุ”

.....................................

Key to success

เส้นทางวัยรุ่นเงินล้าน

๐ หาโอกาสจาก Social Network

๐ เริ่มจากซื้อมาขายไป สั่งสมทุน และประสบการณ์

๐ สร้างแบรนด์ตัวเอง และระบบที่ควบคุมได้

๐ เป็นเด็กต้องพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนมั่นใจ

๐ มีน้ำอดน้ำทนและซื่อสัตย์

๐ ทำธุรกิจให้ยั่งยืน ด้วยการพัฒนา และโตจากทุนที่มีไม่เกินตัว