เครื่องบินตก ทุบธุรกิจเอเชียน่า

สายการบินรายใหญ่อันดับ 2 ของเกาหลีใต้ "เอเชียน่า แอร์ไลน์ส" ใช้เวลานานหลายปี ในความพยายามที่จะสร้างชื่อเสียงด้านความปลอดภัย และคุณภาพ
แต่เหตุเครื่องบินตกที่ซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ อาจทำลายภาพลักษณ์ดังกล่าวของสายการบิน
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน มองว่า ความเสียหายที่จะมีต่อธุรกิจของสายการบิน อาจอยู่ในวงจำกัด แม้จะมีการพุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาดของนักบิน เป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุเมื่อวันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ที่ผ่านมา สายการบินหลักของเกาหลีใตจ้ 2 ราย คือ เอเชียนา และโคเรียน แอร์ สายการบินแห่งชาติเกาหลีใต้ ดำเนินความพยายามอย่างหนักหน่วงในการปรับปรุงเรื่องความปลอดภัย มีการดึงผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเข้ามา หลังในช่วงทศวรรษท้ายๆ ของศตวรรษที่ 20 มีผู้เชี่ยวชาญการบินรายหนึ่ง ออกปากว่า เป็นช่วงเวลาอันเลวร้ายของการบินเกาหลีใต้
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้เด็กวัยรุ่นชาวจีน 2 คนเสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บอีก 182 คน จากการที่เครื่องบินตกกระแทกพื้นก่อนถึงรันเวย์นั้น ถือเป็นอุบัติเหตุเครื่องบินโดยสารตกครั้งแรกของเอเชียน่านับแต่ปี 2536 เป็นต้นมา ขณะที่โคเรียน แอร์ มีอุบัติเหตุเครื่องบินตก และมีผู้เสียชีววิตครั้งล่าสุดเมื่อปี 2540
ราคาหุ้นของเอเชียน่า ดิ่งลงอย่างหนักในการซื้อขายเมื่อวานนี้ โดยมูลค่าหุ้นหายไป 5.76% ปิดซื้อขายที่หุ้นละ 4,825 วอน จากการที่นักลงทุนกำลังแยกแยะผลกระทบที่อาจเกิดจากอุบัติเหตุครั้งนี้
นักวิเคราะห์จากเอชเอ็มซี อินเวสต์เมนท์ ซิเคียวริตีส์ "นายกัง ดอง จิน" แสดงความเห็นว่า ไม่สามารถปฏิเสธความเป็นไปได้ในเรื่องที่ว่า อุบัติเหตุเครื่องบินตกข้างต้น จะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของบริษัท และทำให้ความต้องการใช้บริการของสายการบินลดลง
นอกจากนี้ ความเป็นไปได้ที่สายการบินจะต้องจ่ายเงินประกันจำนวนมหาศาลให้กับผู้โดยสาร และสำหรับเครื่องบิน ก็อาจจะทำให้ต้องจ่ายเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นในอนาคต รวมถึงมีภาระการเงินเพิ่มมากขึ้นด้วย
นักวิเคราะห์จากเคดีบี แดวู ซิเคียวริตีส์ "นายเจย์ ริว" ระบุว่า แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยถึงสาเหตุของอุบัติเหตุ แต่การเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ครั้งแรกในรอบ 20 ปีของบริษัท จะทำให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจทั้งในระยะกลาง และระยะยาวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เจ้าหน้าที่สอบสวนสหรัฐ ระบุว่า เครื่องบินโบอิ้ง 777 ลำที่เกิดเหตุ ใช้ความเร็วต่ำกว่าที่กำหนดไว้ในการลงจอด และได้มีการร้องขอให้นักบินยกเลิกการลงจอดเพียงไม่กี่วินาทีก่อนที่ส่วนหางของเครื่องบินจะกระแทกพื้น
ขณะเอเชียน่า เผยว่า นักบินที่ควบคุมเครื่องบินรับนี้ "นายลี กัง กุ๊ก" อยู่ระหว่างการฝึกบินเครื่อง 777 ลำนี้ โดยมีชั่วโมงบินเครื่องรุ่นนี้เพียงท 43 ชั่วโมงเท่านั้น แม้จะมีชั่วโมงบินโดยรวมมากกว่า 9,000 ชั่วโมงบินก็ตาม
ขณะที่นายทอม บัลลันไทน์ หัวหน้าข่าว นิตยสารการบิน โอเรียนท์ อะวิเอชั่น ออกมากล่าวชมเชยลูกเรือของเอเชียน่า ในเรื่องที่ดำเนินการอพยพได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นเรื่องเดียวกับที่บรรดาผู้โดยสารพากันพูดถึง ซึ่งบางคนถึงขั้นยกย่องลูกเรือเหล่านี้ให้เป็นวีรบุรษของพวกเขา ในการช่วยให้รอดชีวิตออกมาจากตัวเครื่องที่เต็มไปด้วยควันหนาทึบ
นายบัลลันไทน์ คาดการณ์ว่า ความเสียหายทางด้านชื่อเสียงของบริษัทจะอยู่ไม่นานนัก หากมีการจัดการกับเรื่องนี้อย่างถูกต้อง เปิดเผย และซื่อสัตย์




