“ธนัฐธิชาบุรี”..ธรรมชาติ สรรค์สร้าง “ธรรมชาติ”

รีสอร์ทชื่อยาว เรียกยาก “ธนัฐธิชาบุรี เลค รีสอร์ท แอนด์ สปา” ตั้งตระหง่านอยู่ใน อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี ใครหลายคนจดจำพวกเขาได้ก็ตรง กิจกรรมแอดเวนเจอร์สนุกๆ กับธรรมชาติสวยๆ ที่โอบล้อมอยู่รอบรีสอร์ท

6 ปี ก่อนหน้านี้ ผืนดินกว้างใหญ่กว่า 2,800 ไร่ ยังเป็นที่รกร้างว่างเปล่า ก่อนครอบครัว “ดิลกศักยวิทูร” จะเข้ามาครอบครองกรรมสิทธิ์ และมองถึงโอกาสที่จะฟื้นชีวิตให้กับที่แห่งนี้

“คุณพ่อ (ธเนศ ดิลกศักยวิทูร) ท่านมาซื้อที่นี่ไว้เมื่อ 6 ปีก่อน ตอนนั้นพื้นที่ยังรกร้าง โล้นๆ ไม่มีต้นไม้ ไม่มีอะไรเลย เราเริ่มจากปลูกปาล์ม แต่ก็ยังมีพื้นที่เหลืออยู่เยอะมาก และมีทะเลสาปถึง 9 แห่ง ซึ่งใหญ่มากจริงๆ มองไปเห็นเทือกเขาตะนาวศรี เรียงตัวยาว ด้านหน้าเป็นเขื่อนแม่ประจันต์ มองไปเห็นน้ำในเขื่อน ยิ่งตอนพระอาทิตย์ตกจะสวยมากๆ เลยคิดกันว่าน่าจะทำเป็นรีสอร์ท”

“นัฐเดช ดิลกศักยวิทูร” ทายาทหนุ่มวัย 28 ปี บอกที่มาของรีสอร์ทที่เริ่มจากแค่ “เสียดายของ” กับทิวทัศน์สวยๆ ซึ่งหลบซ่อนอยู่บนผืนดินแห่งนี้

อยู่ในพิกัดที่ดี แต่เพราะบอบช้ำมาจากการทำเหมืองแร่ ผืนดินกว้างจึงต้องการการพลิกฟื้น พวกเขาจึงค่อยๆ ใส่เติมสีเขียว ด้วยการปลูกต้นไม้ไว้จนเต็มพื้นที่ ตั้งแต่ปาล์มน้ำมัน ที่ปลูกมากถึงพันไร่ กลายเป็นพืชเรียกฝน คืนความชุ่มชื้นให้กับผืนดิน ส่วนที่เหลือยังแบ่งมาทำ ไร่องุ่น ปลูกสัปปะรด และแก้วมังกร ค่อยๆ สร้างห้องเรียนธรรมชาติขึ้นบนที่ดินของพวกเขา

“เราต้องการให้ที่นี่เป็นที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์”

คนหนุ่มบอกเป้าหมาย ที่กลายเป็นจุดยืนของรีสอร์ทน้องใหม่

ที่มาของการพัฒนาพื้นที่ เริ่มจากการปลูกต้นไม้ โดยพยายามไม่ใช้สารเคมี เขาบอกว่าที่ดินแถบนี้เสียหายมามากพอแล้ว จากการทำเหมืองแร่ การเข้ามาอยู่ใหม่ จึงต้องพัฒนาเพื่อให้ดีขึ้น ไม่ใช่ซ้ำเติมให้แย่ไปกว่านี้

ขณะที่การสร้างอาคาร ก็ให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมให้มากที่สุด มีจุดยืนคือต้องไม่รบกวนสภาพแวดล้อมและชุมชน ตลอดจนสนับสนุนคนในพื้นที่ให้เข้ามารับงานบริการ เพื่อสร้างงานสร้างรายได้ และความเจริญให้กับที่นี่

เวลาเดียวกันก็พยายามพึ่งพาตัวเองให้มากที่สุด อุปสรรคใหญ่ที่ต้องเผชิญ คือ น้ำประปาเข้าไม่ถึง พวกเขาจึงพัฒนาแหล่งน้ำที่มีอยู่ในธรรมชาติ มาทดสอบคุณภาพ วัดค่าความปลอดภัย และให้กรมชลประทานเข้ามาตรวจสอบ จนปัจจุบันรีสอร์ทสามารถผลิตน้ำที่ใสสะอาดไว้ใช้เองได้แล้ว

ยืนด้วยลำแข้ง เคียงคู่การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม อย่าง มีระบบบ่อบำบัด ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวไปโดยบังเอิญ

“บ่อบำบัดของเรา กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวจุดหนึ่งของรีสอร์ทไปแล้ว เพราะเป็นแหล่งที่อยู่ของนกเป็ดน้ำ ซึ่งอพยพมาจากที่ต่างๆ มาวางไข่ไว้ที่นี่ รวมถึงนกท้องถิ่น อย่าง นกโพระดก นกกระแตแต้แว้ด นกกรงหัวจุก ก็มีให้เห็น นักท่องเที่ยวบางคนพกกล้องติดตัวมาเลย มาเฝ้าดูนก นับเป็นกิจกรรมใหม่ที่เกิดขึ้นโดยความบังเอิญจริงๆ”

ความบังเอิญที่เกิดขึ้นจาก “ธรรมชาติ” ผู้สร้างสรรค์ธรรมชาติใหม่ให้เกิดขึ้น นี่คือ ของขวัญล้ำค่าที่พวกเขาได้รับ
รีสอร์ทสีเขียวอาจสร้างมูลค่าให้กับโลก แต่ในเชิงธุรกิจพวกเขาก็ต้องวิธีให้อยู่รอดด้วย แม้จะมีจุดขายในความเป็นธรรมชาติ แต่จุดอ่อนสำคัญ คือ สถานที่ไม่ติดทะเล และห่างไกลจากแหล่งท่องเที่ยว ต่างจากที่เที่ยวอื่นๆ ในจังหวัดเพชรบุรี ที่พร้อมเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้า

ที่มาของการเนรมิตรที่นี่ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวครบวงจร โดยใช้จุดแข็งของการมีพื้นที่ซึ่งกว้างใหญ่ไพศาล มาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดดึงดูด โดยไม่ได้มีเพียงที่พักและอาหารอร่อย ทว่ายังจัดเต็มกับกิจกรรมแอดเวนเจอร์เต็มรูปแบบ บริการนวดสปา ท่องเที่ยวธรรมชาติ ขณะที่อากาศบริสุทธิ์ ไม่มีมลภาวะ และแสนเงียบสงบ ยังเหมาะแก่การใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ของผู้สนใจอีกด้วย

รีสอร์ทคนไทย บริหารแบบครอบครัว เน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทยเป็นหลัก โดยเฉพาะที่มาท่องเที่ยวแบบระยะสั้น 1-2 วัน เพราะอยู่ใกล้กรุงเทพ ไม่ว่าจะกลุ่มอบรมสัมมนา หรือจะมาแบบครอบครัว เพื่อนฝูง คู่รัก ตลอดจนเหล่ากัลยาณมิตรนักปฏิบัติธรรมทั้งหลาย ที่นี่ก็พร้อมเป็นตัวเลือกให้เสมอ โดยรองรับลูกค้าได้เต็มที่ 250 ราย และอนาคตจะขยายเป็น 300 ราย ในราคาห้องพักตั้งแต่ 2,100 -3.200 บาท

“ลูกค้ากลุ่มหนึ่ง มาร่วมทำกิจกรรมเชิงอนุรักษ์กับเรา อย่าง ฝ่ายซีเอสอาร์องค์กร มาปลูกป่าในพื้นที่ของเรา ปลูกเสร็จเราก็ดูแลให้ และปักป้ายระบุว่าใครเป็นคนปลูก จุดแข็งคือที่นี่ยังมีพื้นที่ให้ปลูกป่าอีกเยอะมาก”

เขาบอกหนึ่งกิจกรรมยอดฮิต ที่วิน-วิน กันทุกฝ่าย คือ รีสอร์ทได้สีเขียว ขณะที่องค์กรก็ได้สำนึกรักษ์โลก ความสามัคคีและความสุขของเหล่าพนักงาน และนั่นคือผลพลอยได้จากกิจกรรมเชิงอนุรักษ์ที่พวกเขาสรรค์สร้างขึ้น

“การลงทุนที่นี่ไม่มีอะไรมาก แค่ดูแลให้ดี อนุรักษ์ให้สวยงาม ไม่รบกวน ไม่ทำลาย แค่นั้น..แล้วธรรมชาติก็จะเติบโตไปของมันเอง” เขาบอก

นี่เป็นธุรกิจแรกของครอบครัว “ดิลกศักยวิทูร” หลังจากที่ผู้เป็นพ่อ ซึ่งทำงานเป็นที่ปรึกษามืออาชีพ และลูกๆ ที่เพิ่งสำเร็จการศึกษา ตัดสินใจมาร่วมกันสร้างธุรกิจด้วยสองมือ

ที่มาของการตั้งชื่อโรงแรม แสนเรียกยาก ว่า “ธนัฐธิชาบุรีฯ” ซึ่งเขาบอกว่า เป็นการรวมกันของชื่อสมาชิกในครอบครัว คือ คุณพ่อ “ธเนศ” คุณแม่ “ชลธิชา” และลูกๆ ที่ล้วนมีชื่อขึ้นต้นว่า “นัฐ” หลอมรวมเป็น “ธนัฐธิชาบุรี เลค รีสอร์ท แอนด์ สปา” พร้อมเป็นทางเลือกใหม่ให้กับขาเที่ยวหัวใจสีเขียวในวันนี้

และยังมีเป้าหมายต่อไป ในการขยายธุรกิจทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับกิจการเดิม เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัวของพวกเขาต่อไป

สัญลักษณ์เล็กๆ ที่ปรากฎในนามบัตรของผู้บริหารหนุ่ม คือรูปต้นไม้และบ้าน เขาบอกว่า โลโก้นี้สะท้อนถึง ความอบอุ่นเหมือนบ้าน และความเป็นธรรมชาติ ทว่าลึกไปกว่านั้น คือรูปต้นไม้ที่เขียนเหมือนตัวอักษร “ต้า” ในภาษาจีนที่แปลว่า “ใหญ่” ส่วนบ้านก็เหมือนรูปลูกศรชี้ขึ้น ให้ความหมายว่า กิจการที่ยิ่งใหญ่และเจริญก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป

รีสอร์ทสีเขียว ที่แฝงความหมายดีๆ ไว้มากมาย รอให้ผู้คนได้ไปเยี่ยมเยือนและเก็บเกี่ยวความสุขไปจากพวกเขา