'แอลจี'เล็งขยายร้านค้าปลีกในตลาดเกิดใหม่

'แอลจี'เล็งขยายร้านค้าปลีกในตลาดเกิดใหม่

แอลจีเล็งขยายจำนวนร้านค้าปลีกในตลาดเกิดใหม่ หวังเพิ่มส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟน และเพิ่มความแข็งแกร่งในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าโลก

นายคิม คี วาน รองประธานบริหาร บริษัท แอลจี อิเลคทรอนิกส์ อิงค์ ยักษ์ใหญ่ด้านอิเล็กทรอนิกส์จากเกาหลีใต้ ระบุว่า มีแผนที่จะเพิ่มจำนวน ร้านค้าปลีกในต่างประเทศในปีนี้ จากที่ปัจจุบันมีกว่า 3,000 แห่ง โดยจะเข้าไปเปิดร้านใหม่ในอินเดีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา โดยมีแนวโน้มว่าร้านค้าแบรนด์แอลจี จะขยายตัวมากถึง 20% ในปีนี้

ร้านค้าเหล่านี้จะเปิดให้บริการ และขายสินค้าของแอลจี ซึ่งรวมถึงสมาร์ทโฟน อุปกรณ์โทรทัศน์ และเครื่องใช้ภายในบ้าน อย่างไรก็ตาม นายคิมปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดถึงมูลค่าการลงทุนเพื่อการขยายร้านค้าครั้งนี้

การขยายร้านค้าปลีกของแอลจีเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจำนงวนมากขึ้น กำลังเร่งเปิดช่องทางค้าปลีก เพื่อให้มีความสามารถทางการแข่งขันต่อคู่แข่ง อย่าง แอ๊ปเปิ้ล อิงค์ และซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ โค คู่แข่งร่วมชาติของแอลจี ที่เมื่อเร็วๆ นี้ เพิ่งประกาศเปิดช่องทางจำหน่ายสินค้าในเบสต์ บาย โค ผู้ค้าปลีกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภค ของสหรัฐ ซึ่งจะเริ่มด้วยการวางจำหน่ายแกแล็กซี่เอส 4 ในไตรมาส 2 ของปีนี้ พร้อมกับอุปกรณ์มือถือ กล้องถ่ายรูป และอุปกรณ์ประกอบต่างๆ

ขณะเดียวกัน กูเกิล อิงค์ ซึ่งจับมือเป็นพันธมิตรด้านฮาร์ดแวร์กับบริษัทเอเชียหลายราย ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาแผนธุรกิจ เพื่อเปิดร้านค้าปลีกในสหรัฐ

ทั้งนี้ แอลจี กำลังพยายามที่จะกลับมาครองใจผู้บริโภคอีกครั้ง ด้วยการเปิดสมาร์ทโฟนตระกูลออพติมัส โดยในอดีตแอลจีเคยเป็นหนึ่งในผู้ผลิตมือถือรายใหญ่ที่สุดของโลกจนถึงปี 2552 แต่เริ่มสูญเสียส่วนแบ่งตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากสมาร์ทโฟนผงาดขึ้นมาครองอุตสาหกรรมมือถือเมื่อปี 2553 ซึ่งในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว แอลจีมีส่วนแบ่งในตลาดมือถือโลกร่วงลงมาเหลือแค่ 3.2% จากระดับ 10.1% ในปี 2552

ปัจจุบัน แอลจีเป็นบริษัทมือถือรายใหญ่อันดับ 5 ของโลก รองจาก ซัมซุง โนเกีย คอร์ป แอ๊ปเปิ้ล และแซดทีอี คอร์ป ของจีน อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่ปีที่แล้ว ธุรกิจโทรศัพท์มือถือของบริษัทฟื้นตัสวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง มีส่วนต่างผลกำไรจากการดำเนินงาน 2% ช่วงไตรมาสสุดท้าย และตลอดทั้งปี 2555 ที่ 0.6%