จับจังหวะบริหารคน ฟิตเนสเฟิรส์ท

จับจังหวะบริหารคน ฟิตเนสเฟิรส์ท

หากถามว่าธุรกิจไหนมีพนักงานอยู่ใน Generation Y หรือที่เรียกกันติดปากว่า เจนวาย มากที่สุด แน่นอนย่อมมี "ฟิตเนสเฟิรส์ท" ติดโผ

พนักงานขององค์กรแห่งนี้มีอยู่ถึง 97 เปอร์เซ็นต์ที่เป็นเจนวาย และพนักงานส่วนใหญ่ก็คือ ครูฝึก (จำนวน 700 คนจากพนักงานที่มีอยู่ทั้งหมดราว 1 พันคน)


หากแต่อัตราการลาออกหรือในภาษา HR เรียกว่าเทิร์นโอเวอร์ ต่ำกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ในแต่ละเดือน ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ต้องบอกว่า "น่าเหลือเชื่อ" เพราะเป็นที่รู้กันว่าเจนวายมักเป็นพวกคนขี้เบื่อ ไม่เคยทำงานที่ใดเป็นเวลานาน


แต่มีข้อยกเว้นที่ ฟิตเนสเฟิรส์ท


สุกัญญา ไชยหงษา ผู้จัดการฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล บริษัท ฟิตเนสเฟิรส์ท ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า คะแนนสำรวจความผูกพันของพนักงาน หรือ Engagement Survey ของ ฟิตเนสเฟิรส์ทนั้นมากกว่า 79 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูง


เธอบอกว่าเป็นเพราะตลอดระยะเวลาสิบปีที่ฟิตเนสเฟิรส์ทเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ก็ได้มุ่งเน้นในเรื่องการสร้างและพัฒนาคนมาอย่างต่อเนื่อง


เมื่อสร้างมากับมือ ก็ยิ่งทวีความผูกพัน


ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ ฟิตเนสเฟิรส์ท มีแผนขยายสาขาเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี จนในเวลานี้มีอยู่ 23 สาขาและถือเป็นผู้นำตลาดฟิตเนสเมืองไทย ส่งผลให้ Career Path หรือ เส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพของพนักงานเติบโตขึ้นด้วย


"ธุรกิจนี้มีโอกาสในการขยายตัวเยอะมาก มันโตเร็วมาก และขาดคน ทั้งๆ ที่เราเองสามารถเปิดได้ถึง 5 สาขาต่อปี แต่ในความเป็นจริงทำได้เพียงปีละ 3 สาขาเท่านั้น เพราะเราต้องมีคนเพื่อสร้างระบบมาตรฐานเดียวกัน ธุรกิจเราค่อนข้างเฉพาะตัว เลยไม่สามารถหยิบยืมคนในธุรกิจอื่นมาใส่กับเราได้ จำเป็นต้องสร้างเอง แต่เรื่องของคนต้องใช้เวลา และในวันนี้เราก็อยากจะพูดว่า เวลคัมคนข้างนอก"


อย่างไรก็ดี ความสำเร็จในเรื่องของการบริหารคนของฟิตเนสเฟิรส์ทนั้น มาจากกลยุทธ์สามเรื่องหลักๆ ได้แก่


กลยุทธ์แรก โฟกัสเป็นองค์กรสร้างคน โดยจัดโครงการ "Internship Program" วัตถุประสงค์ก็เพื่อพัฒนานักศึกษาด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ให้ก้าวเป็นครูฝึกมืออาชีพ และยังสามารถพัฒนาจนเติบโตเป็นบุคลากรได้ในทุกๆ ตำแหน่งงาน ซึ่งในแต่ละปีจะมีนักศึกษาสมัครเข้ามาฝึกงานกว่า 250 คน


ทั้งนี้ฟิตเนสเฟิรส์ทได้ตั้งข้อแม้ว่า น้องๆ ที่ต้องการจะเข้าโปรแกรมดังกล่าวต้องผ่านการทดสอบ และยังต้องมีความตั้งใจจริงที่จะเป็นครูฝึก


"ปัจจุบันทัศนคติของเด็กเป็นบวกต่ออาชีพครูฝึก นั่นเป็นเพราะมีการบอกกันปากต่อปาก รุ่นพี่ที่เคยเข้ามาฝึกกับเราเขาก็เอาไปบอกต่อกับรุ่นน้อง ว่าครูฝึกเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ สร้างโอกาสที่ดีต่อชีวิต และยังทำให้มีสุขภาพที่ดี มีบอดี้ที่ดี ในเวลานี้จึงมีเด็กสนใจเรียนสาขาวิทยาศาตร์การกีฬากันมากขึ้น"


กลยุทธ์ที่สอง มุ่งเน้นให้การฝึกอบรมและพัฒนา ทั้งที่เป็นประโยชน์โดยตรงกับงานปัจจุบัน ตลอดจนอาชีพในอนาคตของพนักงาน


ในเรื่องของการฝึกอบรมและพัฒนา จะถูกจัดลงไปในระบบการทำงานของพนักงานทุกระดับอย่างเป็นระบบ ฟิตเนสเฟิรส์ทจะมีการสื่อสารถึงความก้าวหน้าในเส้นทางอาชีพ ผลตอบแทนที่โปร่งใส มีการตั้งเป้าหมายที่สอดคล้อง


กลยุทธ์ที่สาม มีค่านิยมขององค์กรที่แข็งแกร่งเป็นกรอบปฏิบัติสำหรับพนักงาน และที่ฟิตเนสเฟิรส์ทมีคำว่า "RECIPE"
R - Respect and Integrity หมายถึง การเคารพคนอื่น การอ่อนน้อม ซื่อสัตย์
E- Everyone Counting หมายถึงเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับทุกๆ คน สุกัญญาบอกว่าเป็นอะไรที่มากกว่าทีมเวิร์ค เพราะไม่ใช่เพียงแค่พนักงาน แต่ยังรวมถึงลูกค้าอีกด้วย
C - Community เช่นเดียวกันต้องมีทั้งภายในและภายนอกองค์กร
I - Innovation คำว่านี้แปลเป็นภาษาไทยก็คือ นวัตกรรม เป็นเรื่องของความสร้างสรรค์ ความสุดยอด อย่างไรก็ดี สุกัญญาบอกว่าฟิตเนสเฟิรส์ทไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องสร้างอะไรที่ แปลกใหม่หรือประหลาด แต่ที่อยากทำก็คือต้องการสร้างความเป็นผู้นำทางด้านพัฒนาความรู้ให้กับพนักงาน ซึ่งฟีดแบ็คก็คือกุญแจความสำเร็จในเรื่องนี้ ซึ่งหมายถึงการเปิดโอกาสให้พนักงานได้ร่วมได้แสดงความคิด เห็น
P - Performance ต้องยอมรับว่าธุรกิจก็คือการแข่งขัน และเป้าหมายก็คือชัยชนะ เพื่อบรรลุเป้าหมาย พนักงานฟิตเนสเฟิรส์ทก็ต้องมีความขยัน มุ่งมั่นสร้างผลงาน และสร้างความ ภาคภูมิใจให้กับตัวของพวกเขาเอง
E -Energy at the heart สุกัญญาบอกว่าเรื่องนี้ก็คือ Passion นั่นเอง


"ถามว่าหน้าตาพนักงานของเราเป็นอย่างไร ต้องบอกว่าหน้าของพวกเขา มันและสนุก มันแปลว่าการแสดงออกนั้นมีความมุ่งมั่น ทำงานอย่างสนุก มีพลัง"


ซึ่งทุกวันนี้ค่านิยม RECIPE เป็นหลักการสำคัญในทุกๆ กระบวนการบริหารคนของฟิตเนสเฟิรส์ท ตั้งแต่กระบวนการหาคนที่ใช่ การออกแบบฝึกอบรมพัฒนาคน การให้รางวัล การเลื่อนตำแหน่ง ฯลฯ

---------------
ฟิตเนสสัญชาติอังกฤษ

ฟิตเนสเฟิรส์ท ก่อตั้งที่ประเทศอังกฤษ ในปี 1992 ปัจจุบันเปิดบริการศูนย์ออกกำลังกานเพื่อสุขภาพใน 17 ประเทศทั่วโลกทั้งยุโรป เอเชียและออสเตรเลีย มีคลับทั้งสิ้นมากกว่า 330 แห่ง มี สมาชิกกว่า 1 ล้านคนทั่วโลก ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ฟิตเนสเฟิรส์ท มีสาขาอยู่ในประเทศจีน ฮ่องกง มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และประเทศไทย สำหรับประเทศไทยนั้นฟิตเนสแห่งนี้เปิดดำเนินการมากว่า 10 ปี มีสมาชิกกว่า 6 หมื่นคนทั่วประเทศ ปัจจุบันมีสาขาอยู่ในกรุงเทพและต่างจังหวัด 23 แห่ง