นักธุรกิจเนปาลติดโผมหาเศรษฐีฟอร์บส์

"บิโนด เชาดารี"ผงาดมหาเศรษฐีคนแรกของเนปาล หลังติดโผเศรษฐีพันล้านฟอร์บส์
นายบิโนด วัย 57 ปี เป็นผู้บริหารบริษัทเชาดารีกรุ๊ป ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว บริษัทของเขามีธุรกิจหลากหลาย ครอบคลุมหลายประเทศ รวมถึงบริษัทซินโนเวชันในสิงคโปร์ ซึ่งมีธุรกิจโรงแรม อสังหาริมทรัพย์ การเงิน และซีเมนต์
ธุรกิจที่เป็นที่รู้จักดีของนายบิโนด คือบะหมี่ไวไว ซึ่งเปิดตัวในเนปาลเมื่อกลางทศวรรษ 80 จนกระทั่งการผลิตขยายเข้าไปในอินเดียเมื่อปี 2548 และปัจจุบันบะหมี่ยี่ห้อนี้มีวางขายใน 30 ประเทศของเอเชีย
ล่าสุด นายบิโนด ซึ่งมีลูกชาย 3 คน กลายเป็นชาวเนปาลคนแรกที่ติดโผมหาเศรษฐีของนิตยสารระดับโลกอย่างฟอร์บส์
นายบิโนดกล่าวว่าเศรษฐกิจในปัจจุบันเป็นเรื่องของแนวคิด ซึ่งหากพูดถึงประเด็น "แนวคิด" ก็เป็นเรื่องที่ไม่มีการผูกขาด
ข้อมูลของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียระบุว่ารายได้เฉลี่ยต่อปีในเนปาล ไม่ถึง 600 ดอลลาร์ ขณะที่ในการสำรวจหลายครั้ง เนปาลมักติดอันดับต้นๆ ของประเทศยากจนที่สุดในโลก และแม้เพื่อนบ้านยักษ์ใหญ่อย่างจีนกับอินเดียมีความคืบหน้าอย่างมากในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนเนปาลไม่ได้ก้าวไปไหน
ฐานะของนายบิโนดมั่งคั่งขึ้นมาก ส่วนใหญ่เป็นผลจากการที่เขาไปลงทุนในต่างประเทศ แม้เนปาลมีกฎหมายห้ามประชาชนไปลงทุนต่างแดน แต่ลูกๆ ของเขาก็ได้เข้าไปลงทุนในสิงคโปร์ สหรัฐ และล่าสุดคือดูไบ
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเส้นทางสู่ความเป็นมหาเศรษฐีของนายบิโนดก็เหมือนนักธุรกิจทั่วไปในประเทศกำลังพัฒนา นั่นคือการออกไปต่างประเทศเพื่อหาเงินทุนและการเติบโต
ปู่ของนายบิโนดเป็นพ่อค้าผ้าที่อพยพมาจากรัฐราชสถานของอินเดียเมื่อทศวรรษ 30 และเข้าไปตั้งรกรากที่กรุงกาฎมาณฑุ จากนั้นก็เริ่มจัดหาสิ่งของต่างๆ ให้แก่ราชวงศ์เนปาล จนกระทั่งมาถึงรุ่นพ่อของเขาที่เริ่มดำเนินธุรกิจส่งออกไปยังสหรัฐกับยุโรป และนำเข้าสินค้าจากเกาหลีกับญี่ปุ่น
นายบิโนดไม่ได้สำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยและช่วยครอบครัวทำธุรกิจเมื่ออายุ 18 ปี จากนั้นกิจการของครอบครัวก็ขยายเข้าไปยังสิงคโปร์เมื่อต้นทศวรรษ 90 และเติบโตต่อเนื่องช่วงสงครามกลางเมืองของเนปาลเมื่อปี 2539-49 ตัวนายบิโนดเองเคยเป็นสมาชิกสภาอยู่ช่วงหนึ่ง ล่าสุดเขากล่าวว่ากำลังมองหาบทบาทใหม่ที่จะสามารถรับใช้และพัฒนาประเทศได้ โดยนายบิโนดเชื่อว่าไม่เพียงรัฐบาลและผู้บริจาคต่างชาติเท่านั้น แต่ภาคเอกชนก็ต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญหากเนปาลต้องการยกตัวเองขึ้นจากความยากจน







