'ไทยเบฟ'กินรวบขุมข่ายโลจิสติกส์

จับตาธุรกิจ "ไทยเบฟ" เดินหน้าโลจิสติกส์
บิ๊กคอร์เปอเรทที่ขับเคลื่อนธุรกิจในวันนี้ นอกจากมีเงินทุนมหาศาล บุคลากรเต็มเปี่ยมด้วยความรู้ความสามารถ สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญหนีไม่พ้นการบริหารจัดการต้นทุนให้ต่ำ โดยเฉพาะต้นทุนโลจิสติกส์ หลายกิจการ "แพ้-ชนะ"กันตรงนี้
ราคาพลังงานที่อยู่ในภาวะ“ขาขึ้น” ยังเพิ่มแรงกดดันต่อภาคการขนส่งและกระจายสินค้าไม่น้อย "อาณาจักรแสนล้าน" บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ในธุรกิจเครื่องดื่ม ก็คิดไม่ต่างกัน กระดูกสันหลังธุรกิจอยู่ที่การ"กุมเกม"เส้นทางการค้าทั้งในและต่างประเทศให้ครอบคลุมเอเซียให้มากที่สุด
ที่ดิน "นับแสนไร่" ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศของเจ้าสัว ถูกพัฒนาพื้นที่บางส่วนให้เอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจในเครือ โดยเฉพาะระบบโลจิสติกส์ ที่จะเพียบพร้อมไปด้วยศูนย์กระจายสินค้า ระบบ Pallet เทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆที่จะเสริมเขี้ยวเล็บให้การขนส่งและกระจายสินค้าเข้าถึงเอเย่นต์ ร้านค้าค้าปลีกต่างๆของไทยเบฟฯ ที่มีจุดแข็งมายาวนาน
ย้อนกลับไปเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมาไทยเบฟฯได้ลงทุนและพัฒนาระบบโลจิสติกส์ต่อเนื่อง ในนามบริษัทไทยเบฟเวอเรจ โลจิสติกส์ (TBL) “วัลลภา ไตรโสรัส” ทายาทคนที่ 2 ของเจริญ ได้ประกาศงัดแลนด์แบงก์ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 1,000 ไร่ แปลงเป็นนิคมอุตสากรรมและคลังสินค้า เพื่อรองรับระบบการขนส่งและกระจายสินค้าสำหรับธุรกิจเครื่องดื่มของไทยเบฟฯ และบริษัทเบอร์ลี่ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีเจซี ผู้จัดจำหน่ายสินค้าคอนซูมเมอร์โปรดักส์ให้กับเครือ
หรือแม้แต่การประกาศของทายาทคนสำคัญอย่าง “ฐาปน สิริวัฒนภักดี” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ไทยเบฟฯ ที่เปิดแผนลงทุน 2,500 ล้านบาท สร้างคลังกระจายสินค้าให้ครบทุกภูมิภาคทั่วไทย เป็นประตูสู่การค้าขายทั้งภาคเหนือ ใต้ อีสานตะวันออก และตะวันตก
และในงาน ThaiBev EXPO 2012 ได้ประกาศกร้าวขึ้นแท่นเป็นผู้นำในธุรกิจโลจิสติกส์ภายในปี 2557 พร้อมโชว์ศักยภาพความเหนือชั้นของบริษัทไทยเบฟเวอเรจ โลจิสติกส์ (TBL) ที่มีหัวขบวนอย่าง “วันชัย ศารทูลทัต” อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม นั่งเก้าอี้ประธานกรรมการ
ไทยเบฟฯมีเครือข่ายกระจายสินค้ากินรวบร้านค้า 280,000 ร้านค้า และเสริมทัพด้วย บมจ. “เสริมสุข” ยักษ์ใหญ่ผู้ช่ำชองในการกระจายสินค้าเกือบ 60 ปี มีเครือข่ายร้านค้าในมือกว่า 200,000 ร้านค้า จุดแข็งนี้จะผลักดันให้เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ของไทยเบฟฯเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น
ปัจจุบันไทยเบฟฯยังมีศูนย์กระจายสินค้า3 แห่ง ศูนย์ขนส่ง 23 แห่ง และคลังสาขาจังหวัดอีก 86 แห่ง ด้านความสามารถในการส่งสินค้าไม่ต่ำกว่า 1,700 ล้านลิตร และสร้างรายได้ขั้นต่ำ 2,500 ล้านบาท และเพื่อให้สอดคล้องการบุกตลาดอาเซียนบริษัทจึงวางระบบการเชื่อมโยงข้อมูลและฐานข้อมูล เพื่อพัฒนาระบบการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานในภูมิภาคกับส่วนกลางด้วย รวมไปถึงเสริมศักยภาพให้กับองค์กรด้วยการนำระบบโปรแกรมสำเร็จรูประดับโลกจากบริษัท Manhattan Associates จากสหรัฐอเมริกา มาใช้บริหารจัดการ คลังสินค้า และสินค้าคงคลังที่เรียกว่า Warehouse Management System WMS ชื่อ ILS
ไม่เพียงเชื่อมโยงเครือข่ายการค้าทั้งในและต่างประเทศ ไทยเบฟฯยังมัดใจเอเย่นต์ด้วยการนำระบบ PDA หนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ “ช่วย” เอเย่นต์บริหารจัดการระบบธุรกิจของตัวเองให้ดีขึ้น และเป็นการสร้างความสัมพันธ์ (CRM) ที่ดีกับแย่นต์อีกทางหนึ่ง
วันนี้สิ่งที่จะมาเพิ่มอำนาจการค้าขายให้กับธุรกิจนอนแอลกอฮอล์ของไทยเบฟฯ คือการเทคโอเวอร์บริษัทเฟรเซอร์แอนด์นีฟ (เอฟแอนด์เอ็น) ยักษ์ใหญ่สินค้าอาหารและเครื่องดื่มในเอเซีย ที่มีเครือข่ายการค้าขายในช่องทางต่างๆ ผ่านฐานตลาดสำคัญทั้งมาเลเซียและสิงคโปร์ ล้วนเชื่อมโยงโครงการข่ายโลจิสติกส์ให้กับสินค้านอนแอลกอฮอล์บุกอาเซียน ต่อไปถึง "เอเซียแปซิฟิก" ได้คล่องตัวมากขึ้น
การที่เอฟแอนด์เอ็นอยู่ในตลาดมายาวนานถึง 128 ปี และมีสินค้าเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เป็นเบอร์ 1 อย่างน้ำดื่ม Ice mountain นอกจากสินค้าดีและการทำตลาดเด่นแล้ว การยึดหัวหาดร้านค้าปลีกที่เป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าได้ ยังถือเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญไม่น้อย เพราะความสามารถในการกระจายสินค้าเป็นด่านสุดท้ายที่จะส่ง “โปรดักส์” ถึงมือผู้บริโภค
อีกการจัดทัพหนึ่งในการกระจายเครื่องดื่มนอนแอลกอฮอล์บุกอาเซียน นั่นคือการตั้งบริษัทลูก อย่าง โออิชิ อินเตอร์เนชั่นแนล ฮ่องกง ซึ่งเป็นการมองข้ามช็อตของไทยเบฟฯ ที่ไม่ได้จำกัดการค้าขายในอาเซียนเท่านั้น แต่ยังหมายมั่นปั้น ชาเขียวโออิชิ สินค้าพอร์ตใหญ่ของนอนแอลกอฮอล์ ที่อยู่ในมือเจ้าสัวเจริญ ไปบุกเอเชียอย่างฮ่องกง และ “คิดใหญ่” พุ่งเป้าไปตลาด “สหรัฐฯ” ด้วย
จะเห็นได้ว่า แผนดังกล่าวล้วนมีบทบาทต่อการขยายอาณาจักเครื่องดื่มนอนแอลกอฮอล์อย่างยิ่ง โดยมีโลจิสติกส์ เป็นแกนในการกระจายสินค้าเพื่อกอบโกยยอดขายและรายได้ให้เติบโตอย่างยั่งยืน สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงบันไดขั้นแรกๆของธุรกิจเครื่องดื่มนอนแอลกอฮอล์ในการบุกอาเซียนเท่านั้น เมื่อเทียบกับธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่พูดได้ว่า 30 ปีที่ผ่านมา การขนส่งและกระจายสินค้าของไทยเบฟ “ซี้ปึ้ก” กับร้านค้าปลีก เพราะมีทีมงานขายที่หมั่นสร้าง CRM อยู่เสมอ
ทว่า วันนี้เมื่อไทยเบฟฯเคลื่อนทัพธุรกิจนอนแอลกอฮอล์บุกอาเซียนเต็มตัวในปี 2558 หลังเปิดเออีซี คงจะเห็นการเดินเครื่องเต็มสูบของไทยเบฟฯ โลจิสติกส์ เป็นการตีโอบธุรกิจนอนแอลกอฮอล์ และขุมข่ายโลจิสติกส์ให้ผงาดขึ้นเป็นผู้นำระดับภูมิภาคที่เด่นชัดมากขึ้น
ทั้งนี้ในปี 2554 ไทยเบฟเวอเรจ มียอดขาย 1.32 แสนล้นบาท แบ่งเป็นยอดขายจากธุรกิจแอลกอฮอล์ 89% นอนแอลกอฮอล์ 11% (ในจำนวนนี้เป็นยอดขายจากโออิชิ 8% และอาหาร 3%)







