มอร์แกน สแตนลีย์ เพิ่มคาดการณ์น้ำมันโลกปีหน้า หลังโอเปกตัดสินใจไม่ผลิตเพิ่ม

Morgan Stanley เพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันโลกปีหน้าแตะ 60 ดอลลาร์ หลังโฮเปกปรับแผนใหม่ ไม่ผลิตน้ำมันเพิ่ม ตลาดคลายความกังวลเรื่องสต็อกน้ำมันล้นตลาด
ทีมนักวิเคราะห์ธนาคารมอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันโลกในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า 2569 จากเดิมให้ไว้ที่ 57.50 ดอลลาร์/บาร์เรลสำหรับน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้นเป็น 60 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่และพันธมิตร (โอเปกพลัส) ตัดสินใจระงันแผนผลิตน้ำมันเพิ่ม
ทั้งนี้ กลุ่มประเทศโอเปกพลัสเปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า ทางกลุ่มตกลงที่จะหยุดการเพิ่มกำลังการผลิตในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า ซึ่งถือเป็นการหยุดการผลิตน้ำมันเพิ่มครั้งแรก นับตั้งแต่โอเปกพลัสเริ่มฟื้นฟูกำลังการผลิตที่หยุดชะงักไปในเดือนเม.ย.
“แม้ว่าการประกาศของโอเปกจะไม่เปลี่ยนแปลงกลไกคาดการณ์การผลิตของเรา แต่มันก็ส่งสัญญาณสำคัญ” ทีมนักวิเคราะห์ที่นำโดยมาร์ติน รัตส์ และชาร์ล็อตต์ เฟอร์คินส์ ระบุในบันทึก “ด้วยการตัดสินใจของโอเปก ความผันผวนจะลดลง”
อย่างไรก็ดี มอร์แกน สแตนลีย์ ระบุด้วยว่ายังมี “ช่องว่างขนาดใหญ่” ระหว่างโควตาและการผลิตของโอเปก โดยประมาณการของทางแบงก์แสดงให้เห็นว่ากำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัสเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรลต่อวัน ในช่วงเดือนมี.ค. - ต.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่ประกาศเพิ่มโควตาไว้ที่ 2.6 ล้านบาร์เรลต่อวันอย่างมาก
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวสูงขึ้นใกล้แตะระดับ 65 ดอลลาร์/บาร์เรลในวันจันทร์ ตลอดทั้งปีนี้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงแล้ว 13% เนื่องจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าอุปทานส่วนเกินที่คาดการณ์ไว้กำลังเริ่มปรากฏขึ้น มอร์แกน สแตนลีย์คาดการณ์ว่าภาวะ "น้ำมันล้นตลาด" น่าจะเริ่มทรงตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2570 และคาดว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวสูงขึ้นกลับไปที่ระดับ 65 ดอลลาร์ในช่วงเวลานี้







