ADB หั่นจีดีพี 'ไทย-เอเชีย' ปีนี้ แต่แย่น้อยกว่าที่คาดในเดือน ก.ค.

ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้ออกรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจเอเชีย (ADO) ฉบับล่าสุดเดือน ก.ย. "ปรับลด" คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2568 นี้ว่าจะเติบโตได้ 2.0% ซึ่งน้อยลงเมื่อเทียบกับ ADO ฉบับครึ่งปีแรกในเดือนเม.ย. ที่เคยให้ไว้ที่ 2.8% เนื่องจากโมเมนตัมที่ชะลอตัวลงในช่วงครึ่งปีหลัง จากผลพวงของมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐ 

อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับรายงาน ADO ฉบับอัปเดตในเดือนก.ค. ที่ผ่านมาจะสังเกตได้ว่า แนวโน้มของไทยและหลายประเทศในเอเชียปีนี้ "แย่น้อยกว่าที่คาดเอาไว้" เนื่องจากในรายงานอัปเดตเดือนก.ค. ADB หั่นคาดการณ์จีดีพีไทยปีนี้ลงเหลือเพียง 1.8% เท่านั้น ส่วนในปีหน้า 2569 เอดีบีคงคาดการณ์จีดีพีไทยเอาไว้ที่ 1.6% เหมือนในเดือนก.ค. แต่ลดลงจากที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนเม.ย. ที่ 2.9%   

ทั้งนี้ ในรายงานอัปเดตเดือนก.ค. ADB หั่นคาดการณ์จีดีพีของหลายประเทศลดลงมากเมื่อเทียบกับเดือนเม.ย. ก่อนที่ตัวเลขล่าสุดจะดีขึ้นเล็กน้อย ซึ่งบ่งชี้ว่าสถานการณ์อาจไม่ได้แย่หนักอย่างที่กังวล โดยล่าสุด ADB คาดการณ์เศรษฐกิจในปีนี้ว่า เวียดนามจะขยายตัวได้ 6.7%, สิงคโปร์ 2.5%, มาเลเซีย 4.3% และอินโดนีเซีย 4.9%

อัลเบิร์ต พาร์ก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ADB ซึ่งประจำที่ฟิลิปปินส์ กล่าวว่า เศรษฐกิจในหลายประเทศของเอเชียเติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีแรก แต่โมเมนตัมดังกล่าวจะชะลอตัวลงในช่วงครึ่งปีหลังเมื่อภาษีศุลกากรสหรัฐมีผลบังคับใช้ โดยภาษีนำเข้าของสหรัฐได้ปรับตัวขึ้นในอัตราที่สูงเป็นประวัติการณ์ และความไม่แน่นอนทางการค้าก็ยังอยู่ในระดับสูงสุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน

การส่งออกที่เร่งตัวขึ้นในช่วงแรกเพื่อตุนสินค้าก่อนภาษีจะมีผลบังคับใช้ ช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจในเอเชียในช่วง 6 เดือนแรกของปี โดยผู้นำด้านเทคโนโลยีอย่าง "ไต้หวัน" และ "เกาหลีใต้" ได้รับประโยชน์จากความต้องการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เพิ่มสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่นโยบายของสหรัฐกำลังเปลี่ยนโฉมการค้าโลกไป ภูมิภาคนี้จะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าผู้กำหนดนโยบายการเงินการคลังจะพยายามบรรเทาผลกระทบแล้วก็ตาม

ADB คาดการณ์จีดีพีของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 46 เขตเศรษฐกิจ จะขยายตัวได้ 4.8% ในปีนี้ ซึ่งลดลงจากคาดการณ์เดือนเม.ย. ที่ 4.9% และลดลงจากที่ขยายตัวได้ 5.1% ในปี 2567 ส่วนในปีหน้าคาดว่าการเติบโตจะชะลอตัวลงเหลือ 4.5%  เทียบกับ 4.7% ที่คาดการณ์ไว้ในเดือนเม.ย.