สปป.ลาว เปิดประวัติศาสตร์ใหม่ 'เทศกาลทองคำ 2025' ปักหมุดสู่ฮับทองคำโลก

สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประกาศก้าวสำคัญสู่เวทีโลก ด้วยการจัดงาน "เทศกาลทองคำลาว 2025" ครั้งแรก ซึ่งถือเป็นหมุดหมายประวัติศาสตร์ในการผสานพลังเศรษฐกิจและวัฒนธรรม เพื่อนำเสนอศักยภาพของ ลาว สู่สายตานานาชาติ งานนี้ไม่เพียงสะท้อนความมั่งคั่งเชิงสัญลักษณ์ของ ทองคำ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างแท้จริง

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือการเปิดตัว แอปพลิเคชัน "LBB PLUS" ที่พัฒนาขึ้นเพื่อยกระดับการเข้าถึงบริการจากธนาคารทองคำลาว (Lao Bullion Bank) สู่ประชาชนทั่วประเทศ สามารถเปิดบัญชี ฝาก ถอน โอน และซื้อขายทองคำแบบเรียลไทม์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เสริมด้วยเทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัย อีกทั้งยังมีแผนเชื่อมต่อสู่ตลาดโลก เพื่อปักหมุดลาวเป็นศูนย์กลางด้านโลหะมีค่าแห่งใหม่ของภูมิภาค

ดร.จันทอน สิทธิไซ ประธานคณะกรรมการจัดงาน และผู้อำนวยการใหญ่ธนาคารทองคำลาว หรือ Lao Bullion Bank (LBB) เปิดเผยว่า การจัดงานเทศกาลทองคำลาว 2025 ถือเป็นครั้งแรก และเป็นงานประวัติศาสตร์ของ อุตสาหกรรมทองคำลาว โดยมีเป้าหมายหลักในการยกระดับอุตสาหกรรมทองคำของประเทศ และเชื่อมโยงสู่ตลาดโลก ซึ่งงานนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม สะท้อนถึงศักยภาพ และความมุ่งมั่นของลาวในการเป็นผู้เล่นสำคัญในอุตสาหกรรมทองคำระดับนานาชาติ อีกทั้งเพื่อเฉลิมฉลองวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติ วันครบรอบ 70 ปีการก่อตั้งพรรคประชาชนปฏิวัติลาว ครบรอบ 50 ปีการก่อตั้งประเทศ และครบรอบ 105 ปี วันคล้ายวันเกิดของอดีตประธานาธิบดีไกสอน พมวิหาน

ทั้งนี้ เทศกาลทองคำลาว 2025 มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมทองคำของ ลาว เพื่อจัดแสดงศักยภาพฝีมือ และความประณีตของทองคำลาวให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก ซึ่ง อุตสาหกรรมทองคำลาว มีการพัฒนามา 4 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ความคาดหวังสำคัญของงานนี้คือการเปลี่ยนอุตสาหกรรมทองคำจากหัตถกรรมไปสู่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ร่วมมือกับต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ จึงมีการเชิญสมาคมทองคำจากหลายประเทศเข้าร่วมงาน เช่น สมาคมทองคำจากประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ตุรกี โปแลนด์ และเยอรมนี รวมเกือบ 10 ประเทศ ซึ่งการมีส่วนร่วมของนานาชาติในงานครั้งแรกนี้ สะท้อนถึงความสนใจและการเติบโตของอุตสาหกรรมทองคำในระดับโลก และความตั้งใจของลาวที่จะเชื่อมโยงอุตสาหกรรมทองคำของตนเข้ากับตลาดโลก

"ปัจจุบันมีร้านค้าทองคำขนาดใหญ่เกือบ 50 ร้าน ในลาวเข้าร่วมงาน และมีบูธจัดแสดงรวมเกือบ 100 บูธ รวมถึงผ้าไหมและสินค้าอื่นๆ คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 30,000 คน ตลอดระยะเวลา 3 วันของการจัดงาน ในระหว่างวันที่ 5-7 กันยายน 2568 ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ดีสำหรับการจัดงานครั้งแรก ผลตอบรับค่อนข้างสูง เนื่องจากมีต่างชาติเข้าร่วมงานกว่า 200 คนตั้งแต่เริ่มต้น"

ดร.จันทอน กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานครั้งนี้ เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเสริมสร้างเงินกีบ LBB ซึ่งเป็นสถาบันทองคำและธนาคาร ไม่ใช่เพียงร้านขายทองคำ แต่เป็นผู้รวบรวมสมาคมทองคำและร้านค้าต่างๆ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรม ซึ่งผลการดำเนินงานและการเติบโตตั้งแต่ก่อตั้งมา 8 เดือน มีลูกค้าที่เข้ามาเปิดบัญชีทองคำประมาณ 4,000-5,000 บัญชี มูลค่าการฝากและซื้อขายทองคำมากกว่า 1 ตัน โดยตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้ (ปี 2568) จะมีจำนวนบัญชีและยอดฝากทองคำรวมไม่ต่ำกว่า 2 ตัน และในปีหน้า (ปี 2569) คาดว่าจะเพิ่มยอดเป็น 10 ตัน และมีลูกค้าถึง 3,000 บัญชี และ 5,000 บัญชีใน 3 ปีข้างหน้า 

สำหรับแอปพลิเคชัน LBB Plus ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้ ปัจจุบันรองรับการซื้อขายภายในประเทศก่อน แต่ทว่าในอนาคตจะขยายให้นักลงทุนต่างชาติสามารถซื้อขายผ่านแอปพลิเคชันได้ และสามารถขาย ทองคำ จากลาวไปยังต่างประเทศได้ เช่น ขายผ่านลาวไปสิงคโปร์ เป็นต้น ทั้งนี้ 98% ของลูกค้าปัจจุบันเป็นคนลาว และ 2% เป็นชาวต่างชาติ ส่วนใหญ่เป็นคนไทย เนื่องจากความใกล้ชิดทางวัฒนธรรมและภาษา

ทั้งนี้ วัตถุประสงค์หลักของการก่อตั้งธนาคารทองคำ หรือ LBB คือการดึงทองคำจากนอกระบบเข้าสู่ระบบธนาคาร ซึ่งการดึงทองคำเข้าสู่ระบบธนาคารเปรียบเสมือนการดึงทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเข้าสู่ระบบ เนื่องจากทองคำบริสุทธิ์ 99.99% ถือเป็นสินทรัพย์ชำระหนี้ระหว่างประเทศ และเป็นการเพิ่มขึ้นของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ จะส่งผลให้ค่าเงินกีบแข็งค่าขึ้นตามหลักเศรษฐศาสตร์การเงิน

นอกจากนี้ ลาว ตั้งเป้าที่จะมีทุนสำรองทองคำจำนวน 10 ตัน ซึ่งเทียบเท่ากับ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หากทำได้จะสามารถครอบคลุมมูลค่าการนำเข้าของประเทศได้เกือบ 2 ปี

คุณภาพ ทองคำลาว และความร่วมมือระดับภูมิภาค ทองคำของ ลาว มีมาตรฐานความบริสุทธิ์อย่างน้อย 99.9% ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานของไทยที่ 96.5% ซึ่งทองคำลาวที่มีคุณภาพสูงเป็นที่ต้องการของตลาดไทย โดยสามารถสร้างกำไรได้ 2% หากซื้อทองคำลาวไปขายที่ไทย

อย่างไรก็ดี LBB กำลังหารือความร่วมมือกับสมาคมทองคำและอัญมณีของไทย โดยมีเป้าหมายที่จะผลิตทองรูปพรรณในลาว เพื่อส่งออกไปยังหลายประเทศ ซึ่งข้อได้เปรียบของลาวคือต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า ทั้งค่าไฟฟ้า แรงงาน และวัตถุดิบ เนื่องจากลาวขุดทองคำจากแผ่นดินตนเอง และใช้พลังงานสะอาด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สมาคมทองคำไทยให้ความสนใจ เนื่องจากความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์และวัฒนธรรม

การลงทุนในทองคำยังคงเป็นทางเลือกที่ดี โดยเฉพาะสำหรับการลงทุนระยะยาว เนื่องจากราคาทองคำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับอนาคต LBB ได้เข้าสู่ตลาด (The Singapore Bullion Market Association)(SBMA) หรือสมาคมตลาดทองคำสิงคโปร์แล้ว และมีเป้าหมายต่อไปคือการเข้าสู่ตลาด London Bullion Market Association (LBMA) หรือสมาคมตลาดทองคำแห่งลอนดอน ซึ่งถือเป็นมาตรฐานคุณภาพทองคำระดับโลก หากได้รับการรับรอง LBMA ทองคำจะสามารถซื้อขายในระดับสากลได้ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน LBB ยังไม่มีแผนที่จะระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ในอนาคตอันใกล้ แต่มีแนวคิดที่จะแบ่งปันหุ้นให้คนลาวเป็นเจ้าของร่วมกัน ในอีกประมาณ 5 ปีข้างหน้า

ขณะเดียวกัน ประเทศลาว เตรียมทดลองเปิดโรงกลั่นทองคำที่มีมาตรฐานระดับสากลแห่งแรกในเดือนกันยายน 2568 ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนมหาศาลถึง 5,000 ล้านบาท โดยได้ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว และคาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม 2568 นี้ โดยโรงกลั่นแห่งนี้ตั้งเป้าหมายที่จะดำเนินการกลั่นทองทั้งหมดในประเทศ 100% เพื่อลดการพึ่งพาการส่งออกไปต่างประเทศ และก้าวขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมทองคำระดับโลก