พท.ปรับการสื่อสารแถลงวันอาทิตย์ทุกสัปดาห์ เน้นสร้างความเข้าใจ

เพื่อไทย (พท.) พร้อมถกงบ 69 หนุนรัฐบาลใช้แก้ปัญหาประชาชน เปิดวิสามัญพิจารณากม.แก๊งคอลเซ็นเตอร์ก่อน เผยจ่อแถลงวันอาทิตย์ทุกสัปดาห์เพิ่มช่องสื่อสารประชาชน
ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค พท. พร้อมด้วยนายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรค พท. แถลงถึงการเตรียมความในการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ของ พรรคเพื่อไทย
นายดนุพร กล่าวว่า เราพยายามจะเพิ่มช่องทางการสื่อสารกับประชาชนและสื่อมวลชนให้มากขึ้น เนื่องจากในอดีตทุกวันอาทิตย์เราจะมีการแถลงข่าวประจำสัปดาห์และห่างหายกันไป แต่ขณะนี้เราช่วยกันพิจารณาแล้วและเห็นว่าทุกวันอาทิตย์ช่วงเช้าหากมีประเด็นการเมืองอะไร
โดยเราจะมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวกันเช่นนี้ เพื่อทำความเข้าใจให้พี่น้องประชาชน โดยในวันที่ 28 พฤษภาคมจะมีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาเรื่องงบประมาณและกฎหมายสำคัญอีกหลายฉบับที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน
นายชนินทร์ กล่าวว่า ในวันที่ 28-31 พฤษภาคม ที่จะการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ นอกจากจะมีการพิจารณาเรื่องงบประมาณแล้ว ยังมีกฎหมายที่สำคัญอีกหลายฉบับ เช่น พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) สองฉบับ คือ พ.ร.ก.กำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งมีการบังคับใช้ไปก่อนหน้านี้แล้ว เพราะเป็นการออกพ.ร.ก.แต่ต้องมีมติเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเร่งด่วน
โดยจะมีการบรรจุเป็นวาระแรกในการเปิดสมัยประชุมวันที่ 28 พฤษภาคมนี้ โดยหลังจากที่มีการประกาศใช้ไปแล้ว ก็พบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีจำนวนลดลง และคาดว่าจะได้รับความเห็นชอบ จากทั้งฝั่งรัฐบาลและฝ่ายค้าน
นายชนินทร์ กล่าวต่อว่า ส่วน ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ พ.ศ.2569 จะมีการพิจารณาตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 28 พฤษภาคม และมีการลงมติในวันที่ 31 พฤษภาคม พรรค พท.มีความพร้อมในการอภิปรายเพื่อสนับสนุนงบประมาณให้รัฐบาลสามารถแก้ปัญหาได้ รวมถึงอาจจะมีการท้วงติงเพื่อให้การจัดสรรงบประมาณบางประเด็นตรงจุดแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ให้มากที่สุด
นายชนินทร์ กล่าวต่อว่า การจัดทำงบประมาณในครั้งนี้มีความสำคัญมาก เนื่องจากกำลังเจอผลกระทบจากสถานการณ์ภายนอกที่ส่งผลต่อความมั่นคง ต่อเศรษฐกิจ หรือปัญหาเศรษฐกิจในประเทศ ดังนั้น รัฐบาลต้องมีความพร้อมในการแก้ไขปัญหาและงบประมาณก็เป็นเรื่องหนึ่งที่จะส่งผลให้การแก้ไขปัญหาราบรื่นลุล่วงไปด้วยดี
โดยภายใต้สถานการณ์นี้โลกอาจจะเป็นสถานการณ์เปลี่ยนและการดำเนินงานนโยบายของรัฐบาลบางเรื่องอาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทปัญหาทางเศรษฐกิจในประเทศ แต่ขอยืนยันว่าการตัดสินใจใดๆ ของรัฐบาลเราจะให้ความสำคัญกับพี่น้องประชาชนเป็นลำดับทานเหมือนเดิมแน่นอนไม่เปลี่ยนแปลง







