ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น หลังโดรนยูเครนโจมตีท่อส่งน้ำมัน

ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น หลังโดรนยูเครนโจมตีท่อส่งน้ำมัน

ราคาน้ำมันยังคงปรับตัวขึ้นในวันอังคาร หลังจากที่เกิดการโจมตีด้วยโดรนต่อสถานีปั๊มท่อส่งน้ำมันในรัสเซีย ส่งผลให้ปริมาณการไหลของน้ำมันจากคาซัคสถานลดลง

รอยเตอร์สรายงานภาวะตลาดน้ำมันดิบวันอังคาร (18 ก.พ.) ว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์สัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพิ่มขึ้น 62 เซนต์ หรือ 0.82% ปิดที่ 75.84 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) ซื้อขายล่วงหน้า เพิ่มขึ้น 1.11 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.57% จากราคาปิดเมื่อวันศุกร์ที่ 71.85 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยไม่มีการซื้อขายในตลาด WTI ในวันจันทร์เนื่องจากวันหยุดประธานาธิบดีของสหรัฐ

แม้ราคาน้ำมันจะเพิ่มขึ้นจากเหตุการณ์โจมตีดังกล่าว  แต่ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของอุปทาน

“ธีมหลักที่ขับเคลื่อนราคาน้ำมันในช่วงนี้คือการคาดการณ์อุปทาน จากราคาที่ต่ำในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวการโจมตีด้วยโดรนต่อท่อส่งออกน้ำมันคาซัคสถานที่อยู่ในรัสเซียได้ส่งผลให้ความกังวลต่อภาวะตลาดหมี ลดลงบ้าง” เยป จุน รอง นักกลยุทธ์ตลาดของโบรกเกอร์ IG กล่าว 

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซียกล่าวเมื่อวันอังคารว่า โดรนของยูเครนได้โจมตีท่อส่งน้ำมันรัสเซียที่ส่งออกน้ำมันดิบประมาณ 1% ของอุปทานน้ำมันทั่วโลก

ความเสียหายอาจทำให้ปริมาณการขนส่งน้ำมันจากคาซัคสถานลดลงประมาณ 30% และอาจใช้เวลาถึงสองเดือนในการซ่อมแซม บริษัทขนส่งน้ำมัน Transneft ของรัสเซียกล่าว

“อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของราคาในระยะยาวอาจถูกจำกัด เนื่องจากตลาดคาดว่าจะมีการเพิ่มอุปทานจากกลุ่มโอเปกพลัส และรัสเซียในอนาคต ขณะที่แนวโน้มความต้องการน้ำมัน โดยเฉพาะจากจีน ยังคงไม่แน่นอน” เยป กล่าว

นักวิเคราะห์จาก BMI คาดว่าราคาน้ำมันเบรนท์จะเฉลี่ยอยู่ที่ 76 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในปี 2025 ซึ่งลดลง 5% จากค่าเฉลี่ยในปี 2024 เนื่องจากมีอุปทานส่วนเกิน มาตรการภาษีและความตึงเครียดทางการค้า

ด้านสื่อของรัฐรัสเซียรายงานว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันเพื่อการส่งออก โอเปกพลัส ไม่มีการพิจารณาเลื่อนการเพิ่มอุปทานน้ำมันที่จะเริ่มต้นในเดือนเมษายน ออกไป  

ในเดือนธันวาคมโอเปกได้เลื่อนแผนการเริ่มเพิ่มการผลิตไปในเดือนเมษายน โดยอ้างถึงความต้องการที่อ่อนแอและอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากนอกกลุ่ม

ตลาดยังรอคอยข่าวจากการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนที่มีเจ้าหน้าที่จากสหรัฐ และรัสเซียเข้าร่วมในซาอุดีอาระเบียในวันอังคารนี้

“ดูเหมือนว่ามีหลายปัจจัยที่จะทำให้ราคาน้ำมันดิบอยู่ในขาลง โดยปัจจัยที่สำคัญที่สุดในขณะนี้คือผลลัพธ์จากการเจรจาสันติภาพยูเครน” นีล ครอสบี้ นักวิเคราะห์จาก Sparta Commodities กล่าว 

“น้ำมันรัสเซียอาจกลับมาสู่ตลาดที่ถูกกฎหมายได้บางส่วน แต่ผลลัพธ์สุดท้ายอาจจะเป็นไปได้หลายทาง”