ราคาน้ำมันร่วง 2% หลุด 70 ดอลลาร์ รับประชุม OPEC+
![ราคาน้ำมันร่วง 2% หลุด 70 ดอลลาร์ รับประชุม OPEC+](https://image.bangkokbiznews.com/uploads/images/md/2024/12/Degf1AvgNcI38oLTJn0S.webp?x-image-process=style/LG)
ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.40 ดอลลาร์ ก่อนการประชุม OPEC+ ขณะที่ปริมาณสำรองน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่าที่คาดในสัปดาห์ที่แล้ว
รอยเตอร์สรายงานเช้าวันนี้ว่า ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าในวันพุธ (4 ธ.ค.) ปรับตัวลดลงเนื่องจากนักลงทุนต่างรอคอยการตัดสินใจของกลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) ในเรื่องกำลังการผลิตในเร็วๆ นี้ ขณะที่ปริมาณสำรองน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าที่คาดในสัปดาห์ที่แล้วช่วยหนุนราคาได้บ้าง
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ล่วงหน้าลดลง 1.31 ดอลลาร์ หรือ 1.78% ปิดที่ระดับ 72.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียต ล่วงหน้า ลดลง 1.40 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ระดับ 68.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เมื่อวันอังคาร ราคาน้ำมันเบรนท์เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ โดยเพิ่มขึ้น 2.5%
บรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่าตลาดอยู่ในภาวะผันผวน โดยนักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การประชุมของกลุ่ม OPEC+ ที่จะถึงนี้
แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ส ว่า กลุ่ม OPEC+ ซึ่งประกอบด้วยองค์กรร่วมประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพื่อการส่งออก (OPEC) และพันธมิตร จะประชุมกันในวันพฤหัสบดีนี้ และมีแนวโน้มจะขยายเวลาลดกำลังการผลิตออกไปจนถึงสิ้นไตรมาสแรกของปีหน้า
แมตต์ สมิธ หัวหน้านักวิเคราะห์น้ำมันอเมริกาจากบริษัทวิจัยข้อมูลตลาดพลังงาน Kpler กล่าวว่า "แม้ว่าการเลื่อนการลดการผลิตออกไปจะเป็นสิ่งที่คาดไว้ แต่วาทกรรมที่ออกมาจากประชุมครั้งนี้จะมีอิทธิพลต่อตลาดมากที่สุด"
กลุ่ม OPEC+ กำลังมองหาแนวทางที่จะยกเลิกการลดกำลัง การผลิตไปจนถึงปีหน้า
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงาน (EIA) กล่าวว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่าที่คาดไว้ในสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากโรงกลั่นต่างๆ เริ่มดำเนินการมากขึ้น สต็อกน้ำมันเบนซินและผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ในสัปดาห์นี้
แมตต์ สมิธ นักวิเคราะห์น้ำมันจาก Kpler กล่าวว่า "กิจกรรมการกลั่นที่เพิ่มขึ้นโดยปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดที่ไม่เคยเห็นมาตั้งแต่ฤดูร้อน ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบลดลง และผลิตภัณฑ์น้ำมันเพิ่มขึ้น"
โมเมนตัมขาขึ้นช่วยหนุนราคาได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น ปริยังกา ซัชเดวา นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของกระดานเทรด Phillip Nova กล่าวว่า การหยุดยิงที่ไม่แน่นอนระหว่างอิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์ ผลพวงการประกาศกฎอัยการศึกของเกาหลีใต้ และการโจมตีของกลุ่มกบฏในซีเรียที่เสี่ยงที่จะดึงกำลังทหารจากประเทศผู้ผลิตน้ำมันหลายประเทศเข้ามา ล้วนเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน
ในตะวันออกกลาง อิสราเอลกล่าวเมื่อวันอังคารว่าจะกลับมาทำสงครามกับฮิซบอลเลาะห์อีกครั้ง หากการสงบศึกล้มเหลว และการโจมตีของอิสราเอลจะขยายวงเข้าไปในเลบานอนและมุ่งเป้าไปที่ประเทศนั้นเอง
ขณะเดียวกัน ในเกาหลีใต้สมาชิกรัฐสภาได้ยื่นญัตติเพื่อถอดถอนประธานาธิบดียุน ซ็อกยอล หลังจากเขาประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันอังคาร ซึ่งถูกยกเลิกภายในไม่กี่ชั่วโมง ก่อให้เกิดวิกฤตทางการเมืองในเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของเอเชีย