กระตุ้นท่องเที่ยวไทย ต้องมากกว่า 'ยกเว้นวีซ่า'

กระตุ้นท่องเที่ยวไทย ต้องมากกว่า 'ยกเว้นวีซ่า'

หลังจากไทยและจีนประกาศ "ยกเว้นวีซ่า" หลายฝ่ายก็มองว่าอาจเป็นการดีที่จะกระตุ้นการท่องเที่ยว แต่ก็ต้องย้อนมองกลับไปว่าที่ผ่านมา "นักท่องเที่ยวจีน" เดินทางเข้ามาเที่ยวที่ไทยน้อยกว่าที่ตั้งเป้าไว้ ดังนั้นรัฐบาลต้องหาทางส่งเสริมการท่องเที่ยวรูปแบบอื่นด้วย

เริ่มต้นศักราชใหม่ท่ามกลางความหวังเศรษฐกิจไทยปี 2567 จะกลับมาฟื้นตัวได้ จากเครื่องยนต์ “การท่องเที่ยว” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตมากขึ้น ขณะเดียวกันก็มีความกังวลว่าจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง หากเครื่องจักรของเศรษฐกิจไทยไม่สามารถกลับมาฟื้นตัวได้ตามคาด แม้สำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะสามารถขยายตัวได้ที่ 3.2% ต่อปี เร่งขึ้นจากปี 2566 ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ที่ 2.7% ต่อปี โดยได้รับแรงสนับสนุนหลักจากการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวใกล้เคียงระดับ 90% ของช่วงก่อนโควิด จากนักท่องเที่ยวมาเลเซีย เกาหลีใต้ อินเดีย รัสเซีย สปป.ลาว เวียดนาม และสิงคโปร์

ก่อนหน้านี้คาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาประเทศไทยจำนวน 40 ล้านคนในปีที่ผ่านมา ทว่าสถิติที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเปิดเผยออกมา พบว่าตลอดปี 2566 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาไทยจำนวน 28 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 1.2 ล้านล้านบาท โดย 5 อันดับแรก ที่เดินทางเข้าไทยมาจากมาเลเซียกว่า 4.5 ล้านคน รองลงมาเป็นจีน 3.5 ล้านคน ส่วน เกาหลีใต้และอินเดีย ใกล้เคียงกัน 1.6 ล้านคน และรัสเซีย 1.4 ล้านคน

ล่าสุด “ไทย-จีน” ตกลงร่วมกันออกมาตรการยกเว้นวีซ่าเดินทางเข้าออกระหว่างกันเป็นการถาวร ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.2567 เป็นต้นไป จากที่ก่อนหน้านี้ยกเว้นวีซ่าพำนัก 30 วัน เป็นเวลา 5 เดือน ตั้งแต่ 25 ก.ย. 2566-29 ก.พ. 2567 ซึ่งมีการคาดการณ์จะสามารถทำให้นักท่องเที่ยว “จีนมาเที่ยวไทย” เพิ่มขึ้นประมาณ 6-7 ล้านคน โดยจะสามารถประเมินสถานการณ์ได้จากเทศกาลตรุษจีนที่จะถึงนี้ หากนักท่องเที่ยวจีนมียอดจองเที่ยวบินเดินทางเข้ามาประเทศไทยมากขึ้น ก็น่าจะเป็นไปได้ค่อนข้างมากว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนจะเพิ่มขึ้นได้ในปีนี้

แต่มาตรการยกเลิกวีซ่าถาวรของทั้ง 2 ประเทศจะมองว่าเป็นผลดีกับประเทศไทยฝ่ายเดียวคงจะไม่ได้ เพราะในทางกลับกันมาตรการนี้ก็สะท้อนได้ว่าจีนเองก็ต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อดึงรายได้เข้าประเทศเหมือนกับไทยเช่นกัน เห็นได้จากก่อนหน้านี้สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สถานทูตจีนในกรุงวอชิงตันประกาศบนเว็บไซต์ทางการจีนจะผ่อนปรนขั้นตอนการขอวีซ่าให้นักท่องเที่ยวสหรัฐ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. เป็นต้นไป โดยพลเมืองสหรัฐที่ต้องการขอวีซ่าท่องเที่ยวไม่ต้องยื่นเอกสารการจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม หรือจดหมายเชิญ หลังจากที่อนุญาตให้ผู้เดินทางที่ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สเปนและมาเลเซีย เข้าจีนได้สูงสุด 15 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่าตั้งแต่ 1 ธ.ค. 2566

การยกเว้นวีซ่าในครั้งนี้จะเป็นผลดีต่อประเทศไทยมากน้อยเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับอิทธิพลของ “การตลาดของการท่องเที่ยวไทย” จะสามารถดึงนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยตามเป้าหมายหรือไม่ เพราะตอนนี้คนจีนยังไม่ออกท่องเที่ยวนอกประเทศมากนัก แม้ว่าปีนี้จะตั้งเป้าไว้ที่ 8 ล้านคน จากปีที่แล้วมีเพียง 3.5 ล้านคน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นมีถึง 11 ล้านคน เมื่อปี 2562 ได้แต่หวังว่าการที่คณะรัฐมนตรีมีมติลดภาษี "ไวน์-สุราชุมชน” จะมีส่วนช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและกระตุ้นเพิ่มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าในประเทศไทยได้มากขึ้น บางที่เราอาจจะต้องกระตุ้นให้คนไทยหันมาเที่ยวไทยกันเพิ่มมากขึ้นด้วย