ถึงเวลาทบทวนยุทธศาสตร์ ปี 2567 เศรษฐกิจไม่ง่าย

ถึงเวลาทบทวนยุทธศาสตร์  ปี 2567 เศรษฐกิจไม่ง่าย

เมื่อนักท่องเที่ยวจีนมาน้อยกว่าที่คาด สาเหตุจากเศรษฐกิจจีนก็ไม่ดีเหมือนกัน อีกทั้งนักท่องเที่ยวเปลี่ยนทัศนคตินิยมเที่ยวในประเทศมากขึ้น ชี้ให้เห็นว่า ไทยจะพึ่งพานักท่องเที่ยวจีนอย่างเดียวไม่ได้อีกต่อไป

กรุงเทพธุรกิจวันนี้  (29 ธ.ค.) ถือเป็นฉบับส่งท้ายปี ได้เวลาทบทวนรอบปีที่ผ่านมาผ่านร้อนผ่านหนาวอะไรมาบ้างและจะทำอะไรต่อไปในปีหน้า จะว่าไปแล้วปี 2566 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงใหญ่

สำหรับประเทศไทยคือการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค. ซึ่งเป็นการเลือกตั้งครั้งที่ 2 ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เลือกตั้งเสร็จแล้วรอนานถึงสามเดือนกว่าจะได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ “เศรษฐา ทวีสิน” มาแทนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็นผู้นำมานานถึงเก้าปี 

ความเป็น “คนหน้าใหม่” นอกแวดวงการเมืองประกอบกับการตั้งรัฐบาลแบบพลิกขั้วพลิกข้าง ภายใต้บรรยากาศการเมืองแบ่งฝักแบ่งฝ่ายแบ่งแล้วแบ่งอีก ที่เคยสู้รบปรบมือกับผู้นำทหารมาด้วยกันก็มาแตกคอเชียร์กับคนละพรรครักกันคนละคน

รัฐบาลเศรษฐากว่าจะคลอดออกมาได้ กองเชียร์กองแช่งลุ้นแทบหมดแรง ตั้งรัฐบาลได้แล้วก็ต้องลุ้นต่อว่านโยบายที่หาเสียงไว้จะทำได้มากน้อยแค่ไหน ส่วนหนึ่งก็ทำออกมาแล้ว อะไรที่ประชาชนได้ประโยชน์ก็ขอขอบคุณ แต่ที่ลุ้นมากคือนโยบายเงินดิจิทัล ประชาชนจำนวนมากอยากได้ แต่หลายฝ่ายห่วงเรื่องภาระงบประมาณ หาเสียงไว้แล้วก็ต้องทำ แต่ทำอย่างไรให้เจ็บน้อยที่สุด เป็นโจทย์ให้ต้องคิดต่อ 

ขยับไปถึงประเทศไทยในบริบทโลก เมื่อวันที่ 7 ต.ค. มือปืนฮามาสหลายร้อยคนข้ามพรมแดนจากกาซาบุกเข้ามาในอิสราเอล คร่าชีวิตประชาชนราว 1,140 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน จับเป็นตัวประกันอีกราว 250 คน ถือเป็นการโจมตีครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล

อิสราเอลตอบโต้ทั้งทางอากาศและทางบก ข้อมูลจากทางการกาซา เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. สงคราม 11 สัปดาห์ พลเมืองกาซาเสียชีวิตกว่า 21,000 คน 

ไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้งแต่เข้าไปเกี่ยวข้องตรงที่มีแรงงานไทยในอิสราเอลเสียชีวิต 33 คน บาดเจ็บ 18 คน ถูกจับเป็นตัวประกัน 18 คน ตัวประกันไทยได้รับการปล่อยตัวมาจำนวนหนึ่ง ยังเหลือในกาซาอีก 8 คน

ขณะที่ตัวประกันทั้งหมดเหลืออีก 129 คน สงครามอิสราเอล-ฮามาสยังไม่มีวี่แววจบ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูบอกเองว่า ต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน ได้ยินแล้วก็ภาวนาให้ทุกคนปลอดภัย ตัวประกันไทยได้กลับบ้านโดยเร็ว 

อีกเรื่องที่ยังหนักหน่วงคือเศรษฐกิจ คาดหวังให้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์หลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวแต่กลายเป็นว่าไม่ได้อย่างใจหวัง

เมื่อนักท่องเที่ยวจีนมาน้อยกว่าที่คาด สาเหตุจากเศรษฐกิจจีนก็ไม่ดีเหมือนกัน อีกทั้งนักท่องเที่ยวเปลี่ยนทัศนคตินิยมเที่ยวในประเทศมากขึ้น ชี้ให้เห็นว่า ไทยจะพึ่งพานักท่องเที่ยวจีนอย่างเดียวไม่ได้อีกต่อไป

ช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ระหว่างที่ทุกคนพักผ่อน หวังว่ารัฐบาลคงใช้โอกาสนี้คิดทบทวนถึงยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศที่ไปไกลมากกว่าหากินกับของเดิมๆ เพราะดูแล้วปี 2567 ไม่ง่าย