IAM ออกหนังสือชี้แจง ปมทำโฉนดกู้เงินลูกค้าหาย พร้อมการเยียวยา

IAM ออกหนังสือชี้แจง ปมทำโฉนดกู้เงินลูกค้าหาย พร้อมการเยียวยา

บริษัท บริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด ชี้แจงปมทำโฉนดกู้เงินลูกค้าหาย พร้อมการเยียวยา ขยายเวลาชำระหนี้ออกไปจนถึงวันที่ 15 ก.พ.67 หรือจนกว่าจะได้ใบแทนฯ งดคิดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ คืนเงินมัดจำ

เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2566 บริษัทบริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด ออกหนังสือชี้แจง ปมทำโฉนดกู้เงินลูกค้าหาย โดยระบุว่า ตามที่ปรากฎข่าวผ่านสื่อออนไลน์และสื่อสาธารณะ โดยรายงานว่า ธนาคารแห่งหนึ่งย่านพระราม 9 ได้ทำ โฉนดที่ดิน ของลูกค้าสูญหาย ทำให้ไม่สามารถขายที่ดินเพื่อชำระหนี้ได้ทันตามกำหนดเวลาและเกิดความเสียหายนั้น

บริษัทบริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด (บอส.หรือ IAM) ให้ความสำคัญในการให้บริการกับลูกค้าอย่างเป็นธรรม (Market Conduct) ตระหนักถึงสิทธิของลูกค้า และรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเต็มความสามารถ โดยได้หารือร่วมกับลูกค้าหรือผู้ร้องเรียนเพื่อแก้ไขสถานการณ์ให้ลูกค้าสามารถโอนขายทรัพย์ตามความประสงค์ได้อย่างเร็วที่สุด และหาแนวทางชดเชยเยียวยาจนเป็นทีพอใจของลูกค้าและผู้ค้ำประกันแล้ว จึงขอเรียนชี้แจงดังนี้

บสอ. มีการเก็บรักษาเอกสารสำคัญของลูกค้าภายในห้องมั่นคง และมีกระบวนการควบคุมการเข้าถึงการเบิกใช้เอกสารเพื่อป้องกันการสูญหาย และการนำไปใช้ที่ไม่สมควร สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บสอ.ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า โฉนดที่ดิน ของลูกค้าไม่ได้เกิดการสูญหายในระหว่างเก็บรักษาของ บสอ.

อย่างไรก็ตาม บสอ.รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยขอรับมอบอำนาจจากลูกค้าไปดำเนินการออกใบแทนหนังสือแสดงสิทธิ์ในที่ดินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.66 ซึ่งตามขั้นตอนทราบว่าภายในวันที่ 15 ก.พ.67 ลูกค้าจะสามารถใช้ใบแทนฯ ดังกล่าวทำการโอนขายทรัพย์ได้

ในการนี้ บสอ.ได้มีมาตรการชดเชยเยียวยาให้กับลูกค้า โดยจะขยายเวลาชำระหนี้ออกไปจนถึงวันที่ 15 ก.พ.67 หรือจนกว่าจะได้ใบแทนฯ และในระหว่างนี้ บสอ.จะงดคิดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ รวมทั้งจะทำการคืนเงินมัดจำ (Upfort) ทั้งจำนวนให้กับลูกค้าเพื่อนำเงินไปคืนให้กับผู้ซื้อทรัพย์ ซึ่งจะทำให้ทุกฝ่ายไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้

บสอ.ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงการคลัง ยังคงมุ่งมั่นในการช่วยเหลือลูกหนี้ทุกรายให้กลับมาประกอบธุรกิจและดำเนินชีวิตได้ตามปกติอย่างเต็มความสามารถ เพื่อสร้างความเข้มแข็งและความมั่นคงทางการเงินให้กับธุรกิจและชุมชน และเป็นฟันเฟืองในการขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาลในการแก้หนี้สาธารณะของประเทศ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบการเงินของประเทศชาติต่อไป