สภาพคล่องเศรษฐกิจ ใกล้สิ้นปี

สภาพคล่องเศรษฐกิจ ใกล้สิ้นปี

ภาพรวมเศรษฐกิจปี 2566 ที่กำลังจะก้าวผ่านไปสู่ปี 2567  หลายคนเห็นตรงกันว่า ยังมีทิศทางที่ไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งส่งออก และท่องเที่ยวไม่ได้ดีมากอย่างที่คาดหวังกันเอาไว้

ใกล้สิ้นปีช่วงเวลาของเทศกาลแห่งความสุข การจับจ่ายซื้อสินค้าเริ่มคึกคักเพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงเวลาปกติ

ท่ามกลางการคาดการณ์เศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีนัก ราคาสินค้าที่ขยับสูงขึ้นทำให้สภาพคล่องเศรษฐกิจช่วงปลายปี ยังน่าลุ้นว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจโค้งสุดท้ายได้มากแค่ไหน 

ล่าสุด คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้สั่งการให้ทุกส่วนราชการสนับสนุนการดำเนินกิจการของสถาบันเฉพาะกิจของรัฐ (แบงก์รัฐ) ตามข้อเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยให้ส่วนราชการนำเงินนอกงบประมาณมาฝากไว้ที่แบงก์รัฐ เพื่อเสริมสภาพคล่อง ร่วมสนับสนุนการดำเนินนโยบายของรัฐในระยะถัดๆ ไป

ให้เหตุผลว่า ที่ผ่านมารัฐบาลดำเนินโครงการที่รัฐต้องชดเชยค่าใช้จ่าย หรือสูญเสียรายได้ของหน่วยงานรัฐ ตามนัยมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ทั้งมอบหมายให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐเป็นกลไกสำคัญในการดำเนินงาน และสำรองค่าใช้จ่ายล่วงหน้ามาโดยตลอด

ดังนั้น เพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินกิจการของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ จึงได้ขอความร่วมมือให้ส่วนราชการ และหน่วยงานของรัฐพิจารณานำเงินนอกงบประมาณ หรือเงินรายได้ที่พึงมีมาฝากไว้กับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐตามความเหมาะสม

รมว.คลังออกมาย้ำว่า การขอความร่วมมือ เพื่อนำเงินนอกงบประมาณมาฝากไว้กับแบงก์รัฐ เนื่องจากต้องการเพิ่มสภาพคล่อง ให้แบงก์รัฐสามารถรองรับการดำเนินตามภารกิจของรัฐบาลได้ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลมีภารกิจที่จะดำเนินการอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะมาตรการในอนาคตอันใกล้ รวมกับมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สิน รัฐบาลให้เหตุผลว่า การมีสภาพคล่องไว้จะได้มีความพร้อม

ภาพรวมเศรษฐกิจปี 2566 ที่กำลังจะก้าวผ่านไปสู่ปี 2567  หลายคนเห็นตรงกันว่า ยังมีทิศทางที่ไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งส่งออก และท่องเที่ยวไม่ได้ดีมากอย่างที่คาดหวังกันเอาไว้ ทั้งยังมีปัจจัยภายในประเทศและปัจจัยภายนอกประเทศรุมเร้า

การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่ำมาเป็นระยะเวลายาวนาน หนี้ครัวเรือนก็พุ่งสูง ปีนี้เศรษฐกิจไม่ดี ปีหน้าก็เลยยังลูกผีลูกคน ต้องเผชิญปัจจัยลบต่างๆ ที่พร้อมถาโถมฉุดรั้งการเติบโต

เศรษฐกิจไตรมาสที่ผ่านมา ก็มีอัตราลดลงหลายเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจ เช่น ส่งออกมูลค่าหดตัวลง 2% ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และการชะลอตัวการค้าโลก

มูลค่านำเข้าสินค้าหดตัว 10.7% การใช้จ่ายภาครัฐหดตัวลง เพราะเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า ทำให้เศรษฐกิจไทยช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ขยายตัวได้แค่ 1.9%

ขณะที่เศรษฐกิจไทยปี 2566 จะขยายตัว 2.5% ดังนั้นการดำเนินนโยบายการเงินการคลังที่เหมาะสมสอดคล้องกับเงื่อนไขทางเศรษฐกิจยังเป็นเรื่องจำเป็น