สร้างซอฟต์พาวเวอร์ อย่าลืมเศรษฐกิจ 3 C

สร้างซอฟต์พาวเวอร์ อย่าลืมเศรษฐกิจ 3 C

แม้ว่าตอนนี้ “ซอฟต์พาวเวอร์” ยังมองไม่เห็นนิยามที่แท้จริงมากนัก แต่ก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในรูปแบบใหม่ๆ ผ่าน “เศรษฐกิจ 3 C” ได้แก่ เศรษฐกิจประณีต เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และเศรษฐกิจใส่ใจ ที่จะเป็นพื้นฐานในการต่อยอด “เศรษฐกิจแห่งอนาคต”

ประเทศไทยวันนี้คำว่า “ซอฟต์พาวเวอร์” เป็นคำฮิตติดตลาด เอะอะอะไรก็ซอฟต์พาวเวอร์ไว้ก่อน จะนิยามว่าอย่างไร เข้าใจตรงกันบ้างไม่ตรงกันบ้างก็ช่างประไร ในเมื่อรัฐบาลให้ความสำคัญ นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน พูดเองว่า การสร้างพลังอำนาจในการดึงดูดคนจากทั่วโลก ต้องสร้างวัฒนธรรม สินค้า คุณค่าทางการเมืองให้เกิดซอฟต์พาวเวอร์ ไม่มีทางลัด ไม่มีสูตรสำเร็จ ไม่มีทางง่ายต้องใช้เวลากว่าที่จะสร้าง Ecosystem ให้แข็งแรงต่อทุกอุตสาหกรรม แต่ถ้าไม่เริ่มต้น จะไม่มีทางเกิดขึ้น อันนี้เห็นด้วยอย่างยิ่ง

เมื่อวานนี้ (30 พ.ย.) คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ประชุมกันเป็นครั้งที่ 2 แพทองธาร ชินวัตร ประธานกรรมการฯ เป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ การทำงานด้านซอฟต์พาวเวอร์ของไทยให้บรรลุวัตถุประสงค์แบ่งเป็นสามขั้นตอน เริ่มจากการพัฒนาคน ส่งเสริมคนที่มีความฝันแล้วทำฝันนั้นให้เป็นจริง, พัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ในสาขาต่างๆ ภายในประเทศ 11 สาขาคือ อาหาร กีฬา เฟสติวัล ท่องเที่ยว ดนตรี หนังสือ ภาพยนตร์ เกม ศิลปะ ออกแบบ แฟชั่น จากนั้นรุกตลาดโลก ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ไทยให้กลายเป็นระดับสากล กระบวนการเหล่านี้ใช้เวลาหลายปีไม่ใช่ปุบปับจะชี้นิ้วบอกว่านั่นเป็นซอฟต์พาวเวอร์ นี่เป็นซอฟต์พาวเวอร์ตามใจนึก

หลายปีก่อนเคยมีการพูดถึงการสร้าง “เศรษฐกิจแห่งอนาคต” ต่อยอดจาก “ไทยแลนด์ 4.0” สร้างงานใหม่ในภาคเศรษฐกิจ 3C ประกอบด้วย เศรษฐกิจประณีต (Craft Economy) เน้นการผลิตสินค้าและบริการที่มีความประณีตมีมูลค่าสูง, เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) เน้นการผลิตสินค้าและบริการที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์สูง และเศรษฐกิจใส่ใจ (Care Economy) เน้นการผลิตสินค้าและบริการสำหรับดูแลร่างกาย อารมณ์ และความต้องการของผู้ใช้ซึ่งเศรษฐกิจ 3C ต้องอาศัย 3H ได้แก่ Hand ใช้มือทำงานประณีต, Head ใช้หัวทำงานสร้างสรรค์ และ Heart ใช้ใจทำงานดูแลคนอื่น ทั้งหมดนี้คนไทยได้ชื่อว่าเยี่ยมยอดอยู่แล้ว

เศรษฐกิจ 3C ที่ต้องใช้ทักษะ 3H ไม่ใช่เรื่องเข้าใจยาก ไม่ต้องถกเถียง ไม่มีนิยามแต่ทำจริงได้เพราะเป็นเรื่องที่คนไทยถนัดเป็นทุนเดิม ลองเทียบนักเรียนไทยสักคน ถ้าเกิดมาไม่เก่งด้านศิลปะงานฝีมือ ก็ต้องเป็นคนเรียนเก่งไม่เก่งวิทย์-คณิตก็เก่งภาษา ถ้าสองอย่างนี้ยังไม่เก่งเด็กคนนั้นก็มักเป็นคนโอบอ้อมอารีมีน้ำใจ คนเราเกิดมามันต้องมีดีสักอย่าง ที่สำคัญคือพ่อแม่ต้องค้นหาความเก่งในตัวของลูกให้เจอ พัฒนาเด็กให้สอดคล้องกับสิ่งที่เขาเป็น นี่คือขั้นแรกของการทำงานด้านซอฟต์พาวเวอร์ที่รัฐบาลมุ่งมั่น ถึงวันนี้ไม่ต้องเถียงกันว่าซอฟต์พาวเวอร์คืออะไร แค่ตั้งใจเดินหน้าทำเศรษฐกิจ 3C ให้ดีแล้วอำนาจทางวัฒนธรรมอันเป็นเสน่ห์ให้คนอื่นมาชอบเราจะตามมาเองชนิดหัวกระไดไม่แห้ง ไม่ต้องป่าวประกาศว่าฉันกำลังทำซอฟต์พาวเวอร์