‘ลดค่าครองชีพ’ มาตรการเฉพาะหน้า

‘ลดค่าครองชีพ’  มาตรการเฉพาะหน้า

นโยบายประชานิยมแบบนี้ ไม่ได้ช่วยให้ประชาชนหลุดพ้นจากความยากจนได้อย่างแท้จริง และบางกรณีอาจทำให้ประชาชนเสพติดนโยบายประชานิยม

นโยบายที่นับว่าเป็นไฮไลต์ของรัฐบาลเศรษฐา 1 คือ นโยบายที่เกี่ยวข้องกับการลดค่าครองชีพต่างๆ ลดค่าไฟ ลดค่าพลังงาน พักหนี้เกษตรกร ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า รวมไปถึงนโยบาย ดิจิทัล วอลเล็ต 1 หมื่นบาท 

ที่ประชุม ครม.วานนี้ (18 ก.ย.) มีมติลดค่าไฟฟ้า จาก 4.10 บาท เหลือ 3.99 บาท ทันทีในรอบบิลเดือน ก.ย. 2566 หลังก่อนหน้านี้ ในประชุม ครม.ให้กระทรวงพลังงานไปศึกษาต่อว่าสามารถลงอีกได้หรือไม่ 

จนนำมาสู่มติ ครม. รับทราบ คือ ลดเพิ่มอีก 11 สตางค์ การลดค่าไฟฟ้าดังกล่าว รัฐบาลมองว่าเป็นการช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน และช่วยเหลือภาคเอกชน 

ส่วนเรื่องลดราคาน้ำมันเบนซินนั้น รัฐบาลได้มอบหมายให้อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ไปหาแนวทางปรับลดราคา หรือหามาตรการช่วยเหลือประชาชนกลุ่มพิเศษที่จำเป็นต้องใช้น้ำมันเบนซินในการประกอบอาชีพโดยเร่งด่วน

ขณะที่นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ดูเหมือนจะเป็นนโยบายที่ประชาชนให้ความสนใจมากที่สุด แต่จนถึงวันนี้ยังเกิดคำถามมากมาย ถึงวิธีการใช้งาน รัศมีการใช้งาน ระบบสนับสนุนต่างๆ รวมถึงงบประมาณที่ต้องใช้ไปกับนโยบายนี้ เป็นจำนวนมหาศาล 5.6 แสนล้านบาท จะสะเทือนระบบการเงินการคลังประเทศอย่างไร

แม้หลายสำนักฯ จะออกมาวิเคราะห์ว่า เงินมหาศาลจำนวนนี้จะหมุนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจทันที กระจายสู่ฐานรากชุมชน แม้จะเป็นระยะสั้น แต่รัฐบาลเชื่อว่า ดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทจะช่วยต่อยอดสร้างอาชีพ เกิดการรวมกลุ่มจัดกิจกรรมสร้างประโยชน์ให้ชุมชนได้

ขณะที่ นายกฯ เศรษฐา ก็ย้ำว่า เงินในโครงการนี้ เป็นการจ่ายเงินครั้งเดียวไม่ได้ทยอยจ่าย ในมุมของภาคเอกชนเมื่อเห็นว่ารัฐบาลจะมีโครงการที่ใหญ่ขนาดนี้ลงสู่ระบบเศรษฐกิจ ก็ต้องเร่งการลงทุน การจ้างงาน ซึ่งโครงการนี้จะเริ่มในไตรมาสที่ 1 ปีหน้า

นายกฯ เชื่อว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้น คือ เอกชนจะเร่งการลงทุน การจ้างงานล่วงหน้า 3 เดือนเพื่อเตรียมความพร้อม ซึ่งเท่ากับว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจเกิดก่อนล่วงหน้าแล้ว 3 เดือน ขณะที่ ภาคธุรกิจก็สามารถทำโปรโมชันแข่งขันกัน 

เรามองว่า นโยบายทั้งหมดนี้ แทบจะเรียกได้ว่าเป็นนโยบายที่ออกมาเพื่อแก้ปัญหาในระยะสั้น เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

ขณะที่ หากนโยบายการเงินการคลังที่ออกแบบมาเพื่อควบคุม ทำได้ไม่ดีพอ อาจทำให้เกิดเงินเฟ้อขั้นรุนแรง ส่งผลเสียถึงความมั่นคงทางเศรษฐกิจประเทศได้ เพราะพวกเราต่างรู้กันอยู่เต็มอกว่า นโยบายประชานิยมแบบนี้ ไม่ได้ช่วยให้ประชาชนหลุดพ้นจากความยากจนได้อย่างแท้จริง และบางกรณีอาจทำให้ประชาชนเสพติดนโยบายประชานิยม รัฐบาลมีแผนรับมือเรื่องแบบนี้อย่างไร