อัปเดต 'สะพานถล่มลาดกระบัง' ก่อสร้างผิดปกติ เร่งเก็บกู้ซากเร่งด่วน

อัปเดต 'สะพานถล่มลาดกระบัง' ก่อสร้างผิดปกติ เร่งเก็บกู้ซากเร่งด่วน

เกาะติดอัปเดต "สะพานถล่มลาดกระบัง" ด้าน "ผู้ว่าฯชัชชาติ" ชี้ไม่ใช่เหตุสุดวิสัย ก่อสร้างผิดปกติ กทม.ใช้รถเครนขนาด 200 ตันเร่งเก็บกู้ซากเร่งด่วน

ประชาชนสนใจอย่างมาก กรณี สะพานถล่มลาดกระบัง ต่างค้นหาว่า ข่าวสะพานข้ามแยกลาดกระบังถล่ม ซึ่งมีความคืบหน้าดังนี้ 

  • คานสะพานลาดกระบังถล่มไม่ใช่เหตุสุดวิสัย ก่อสร้างผิดปกติ

นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือ กทม. กล่าวระหว่างลงพื้นที่เกิดเหตุคานโครงการก่อสร้างทางยกระดับถนนอ่อนนุช-ลาดกระบังถล่มค่ำวานนี้ว่า ช่วงระหว่างก่อสร้าง จุดอ่อนที่อันตรายที่สุด เนื่องจากคอนกรีตยังไม่แข็งตัว องค์ประกอบแต่ละส่วนของโครงสร้างยังไม่เชื่อมเป็นเนื้อเดียวกัน เพราะต้องร้อยชิ้นส่วนซึ่งเป็นคอนกรีตมาประกอบกัน เชื่อว่าไม่ใช่เหตุสุดวิสัย ตามหลักการ เหตุการณ์นี้ไม่ควรเกิดขึ้น อาจมีความผิดปกติเกิดขึ้นระหว่างก่อสร้าง เพราะฐานรากมีการลงเสาเข็มลึกถึงชั้นทราย

อัปเดต \'สะพานถล่มลาดกระบัง\' ก่อสร้างผิดปกติ เร่งเก็บกู้ซากเร่งด่วน

 

สำหรับ Launcher คือ คาน 1 คาน เคลื่อนไหวได้ ประกอบด้วย ชิ้นส่วนคอนกรีต 20 ชิ้น ต้องใช้ลวดสลิงดึงส่วนประกอบแต่ละชิ้นมาต่อกัน เบื้องต้นสันนิษฐานว่า เกิดจากความไม่เสถียรระหว่างก่อสร้าง ส่วนจุดที่เสาขาด คาดว่ารับน้ำหนักมากเกินไป

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีผู้รับผิดชอบ เพราะมีการก่อสร้างลักษณะนี้มากมายในกรุงเทพมหานครโดยไม่ต้องปิดพื้นที่ และไม่เคยเกิดปัญหาลักษณะนี้ ต่อไปต้องคัดเลือกผู้รับเหมาที่มีคุณภาพ เบื้องต้นอาจต้องปิดพื้นที่บริเวณเกิดเหตุ 3-4 วัน และคาดว่าจะรู้สาเหตุภายในคืนนี้ สำหรับผู้บาดเจ็บ ณ เวลานี้ ได้รับแจ้ง 8 คน เสียชีวิต 1 คน ยังไม่มีรายงานผู้สูญหาย ปัจจุบัน ได้แต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักงานเขตลาดกระบัง เป็นผู้บัญชาการเหตุ

อัปเดต \'สะพานถล่มลาดกระบัง\' ก่อสร้างผิดปกติ เร่งเก็บกู้ซากเร่งด่วน

ใช้รถเครนขนาด 200 ตันเร่งเก็บกู้ซากสะพานลาดกระบังถล่มเร่งด่วน

เจ้าหน้าที่เร่งค้นหาผู้ติดค้าง 2 จุด ผู้ว่า กทม. แบ่งชุดทำงาน 4 ชุด หาผู้ติดค้าง หากไม่มีผู้ติดค้างแล้ว ใช้รถเครนขนาดใหญ่เคลียร์พื้นที่ ย้ำต้องทำงานอย่างระมัดระวัง โครงสร้างไม่เสถียร อาจถล่มซ้ำได้อีก คาดใช้เวลา 3-4 วัน ระบุไม่ใช้เหตุสุดวิสัย ผิดพลาดระหว่างติดตั้ง ขณะที่รถเครนขนาด 200 ตัน เข้าพื้นที่เร่งเก็บกู้ซากเร่งด่วนแล้ว

ความคืบหน้าเหตุสะพานยกระดับอ่อนนุช-ลาดกระบัง ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างพังถล่มลงมาทับประชาชน และคนงานได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณหน้าห้างโลตัส สาขาลาดกระบัง ถนนหลวงแพ่งเบื้องต้นพบมีผู้บาดเจ็บ 13 ราย เสียชีวิต 2 ราย คือนายฉัตรชัย ประเสริฐ ส่วนอีกราย เสียชีวิตที่รพ.

นายอัญวุฒิ โพธิ์อำไพ รองหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ มูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดเผยว่า ร่างของนายฉัตรชัย คาดว่าน่าจะเสียชีวิตจากการตกจากที่สูง เนื่องจากร่างผู้เสียชีวิตนอนอยู่กลางถนน ไม่มีเศษปูนหรือโครงสร้างทับตามร่างกาย ดังนั้นจึงอาจตกลงมาจากคานที่ถล่ม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลตำรวจต่อไป

อย่างไรก็ตาม ยังเหลืออีก 2 จุดที่เจ้าหน้าที่ยังเข้าไปพิสูจน์ทราบไม่ถึงว่ามีผู้ติดค้างอยู่หรือไม่ จุดแรกคือบริเวณรถยนต์ที่ถูกคานปูนทับจนแบน มองไม่เห็นว่ามีใครอยู่ในรถหรือไม่ และอีกจุดคือบริเวณใกล้เสาด้านในที่โครงสร้างถล่ม ที่มีผู้ถ่ายรูปว่าเห็นร่างคนติดอยู่ แต่เจ้าหน้าที่ยังเข้าไปไม่ถึงจุดดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะเร่งทยอยนำอุปกรณ์เข้าตรวจสอบโดยเร็วหากประเมินแล้วว่าโครงสร้างไม่ความปลอดภัย

ส่วนความเสียหายอื่นๆ มีรถยนต์ถูกโครงสร้างทับพังเสียหาย 4 คัน รถจักรยานยนต์ 7-8 คัน และบ้านเรือนประชาชนริมถนนได้รับความเสียหาย

อัปเดต \'สะพานถล่มลาดกระบัง\' ก่อสร้างผิดปกติ เร่งเก็บกู้ซากเร่งด่วน

ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเปิดเผยแนวทางการค้นหากู้ร่างผู้ที่อาจติดค้างอยู่ใต้โครงสร้างที่พังถล่มลงมาว่า หลังประเมินความปลอดภัยของตัวโครงสร้างแล้ว เจ้าหน้าที่จะแบ่งชุดทำงานเป็น 4 ชุด ไปค้นหา และตัดเหล็กและคานปูนออกเป็นท่อน ก่อนจะใช้รถเครนขนาดใหญ่ 2 คันยกคานปูน เพื่อค้นหาว่ามีผู้ใดติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังหรือไม่ โดยหากไม่พบผู้ติดค้างแล้ว ก็จะนำรถเครนขนาดใหญ่เข้าเคลียร์พื้นที่ทั้งหมด คาดจะใช้เวลาคืนนี้ทั้งคืนต่อเนื่องไปจนถึงวันนี้ ( 11 ก.ค.) จึงประชาสัมพันธ์ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางถนนหลวงแพ่งโดยรอบจุดเกิดเหตุ

“ทุกขั้นตอนต้องทำอย่างระมัดระวัง เพราะความเสียหายค่อนข้างรุนแรง มีเสาหัก และโครงสร้างที่ไม่เสถียร โดยตัวโครงสร้างชั่วคราวสีฟ้าหรือตัว Launcher ที่จะทำหน้าที่พยุงชิ้นส่วนคานสะพานมาร้อยต่อกัน หากมีการขยับด้านล่าง ก็อาจทำให้โครงสร้างสีฟ้าดังกล่าวถล่มหรือร่วงซ้ำได้”

นายชัชชาติ ระบุอีกว่า หากประชาชนท่านใดคิดว่าญาติของตนอาจสูญหายไปในเหตุการณ์ดังกล่าว ขอให้แจ้งได้ที่สายด่วน 199 ได้ทันที และเจ้าหน้าที่ได้ตั้งศูนย์ดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่วัดพลมานีย์ พร้อมยืนยันเรื่องนี้ต้องมีผู้รับผิดชอบ เพราะมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่เหตุสุดวิสัย ต้องมีความผิดพลาดเกิดขึ้นระหว่างการติดตั้ง เพราะตามหลักการก่อสร้างไม่ควรจะถล่มลงมาเช่นนี้ ทั้งนี้อาจต้องปิดพื้นที่และการจราจรโดยรอบจุดเกิดเหตุนานถึง 3-4 วันเพื่อเคลียร์พื้นที่

นายชัชชาติ สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำรถเครนขนาด 200 ตัน ของ บริษัทโปรเครน แอนด์ ทรานส์ จำกัด และรถเครนขนาด 50 ตัน ของ บริษัทธนดลเครน จำกัด เข้าพื้นที่เจ้าหน้าที่ช่วยกันเร่งเก็บกู้ซากปรักหักพัง ด้วยการนำเหล็ก เศษ แท่งคอนกรีต และ อุปกรณ์อื่นๆที่พังถล่มลงมากีดขวางผิวการจราจรขึ้นสู่รถบรรทุก นำออกไปไว้ยังจุดที่ปลอดภัย

อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ตลอดค่ำคืนนี้จนถึงรุ่งเช้า ก็จะยังไม่สามารถดำเนินการได้เสร็จสิ้นทัน เนื่องจากการทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก ส่งผลให้ระยะเวลาในการเปิดเส้นทางการจราจร ต้องยืดออกไปอีก

เอาเรื่อง! เหตุคานก่อสร้างสะพานยกระดับถล่ม

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.จรเข้น้อย และกองบังคับการตำรวจนครบาล 3 สำรวจผู้ที่สัญจรในช่วงเวลาเกิดเหตุ และประชาชนพักอาศัยอยู่บริเวณโดยรอบ ว่ามีใครสูญหายหรือติดต่อไม่ได้บ้างหรือไม่ เนื่องจากข้อมูลของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่ส่งโรงพยาบาลมีจำนวนเกินกว่าคนงานที่ก่อสร้างอยู่

รวมถึงในช่วงเวลาเกิดเหตุเป็นช่วงเปลี่ยนกะทำงานของคนงานก่อสร้าง ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นคนงานทั้งหมดหรือไม่ จึงได้เชิญตัวโฟร์แมนผู้ควบคุมงานก่อสร้างมาสอบถามถึงจำนวนคนงานทั้งหมด แล้วจะเข้าไปตรวจสอบรายชื่อที่แคมป์คนงานพิสูจน์ทราบว่า มีใครตกค้างหรือไม่ เพื่อที่จะเข้าช่วยเหลือเป็นอันดับแรก

ส่วนสาเหตุที่สะพานถล่มลงมา สั่งสอบสวนด่วน

  • คำสั่งให้จัดตั้งคณะพนักงานสอบสวน ของกองบังคับการตำรวจนครบาล 3 
  • รวบรวมรายชื่อพยาน และพยานเอกสาร เริ่มตั้งแต่การควบคุมงานก่อสร้าง ไปจนถึงการเทหล่อสะพานยกระดับ 
  • แบ่งงานคนงานก่อสร้างอย่างไร ดำเนินการอย่างไรบ้าง 
  • วิศวกรที่มีการควบคุมดูแลได้ทำตามขั้นตอนหรือไม่ เพื่อนำไปสู่ประเด็นการสอบสวนถึงสาเหตุที่สะพานถล่มลงมา 

ขณะนี้ยังมีอุปสรรคที่จะเข้าตรวจสอบในโครงสร้างที่พังถล่มลงมาได้ ยังเป็นพื้นที่อันตราย