ระวังนโยบาย ‘ประชานิยม’ ฉุดไทยลงเหวลึก

ระวังนโยบาย ‘ประชานิยม’ ฉุดไทยลงเหวลึก

นโยบายหาเสียงของพรรคการเมือง ควรต้องออกแบบให้รอบคอบ มองทุกมุม ทุกมิติ มองประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นไม่เพียงแค่ระยะสั้น

ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง 14 พ.ค.66 ความเข้มข้นการชูนโยบายต่างๆ ของพรรคการเมืองยิ่งร้อนแรง นโยบายหลักส่วนใหญ่จากพรรคการเมืองที่เราเห็นครั้งนี้ ล้วนเป็นนโยบายประชานิยมเสียเป็นส่วนใหญ่ สัญญาว่าจะให้ผ่านมาตรการที่กำหนดขึ้น

หลายนโยบายอ้างว่าทำแบบนี้แล้วจะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจ มีเม็ดเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบ ทำให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้ในห้วงที่วิกฤติเศรษฐกิจถดถอยกำลังซ้ำเติม โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง ผู้มีรายได้น้อย 

หลายคนอาจมองว่า นโยบายประชานิยม เป็นนโยบายที่เอื้อประโยชน์ให้กับประชาชนในมุมต่างๆ แน่นอนว่า เมื่อประชาชนได้รับประโยชน์จากนโยบายแบบนี้ จะเกิดความพึงพอใจ และต้องการให้พรรคการเมืองที่ออกนโยบายนี้ ได้กลับเข้ามาเป็นรัฐบาลอีก เพื่อให้ดำเนินมาตรการที่ประชาชนเคยได้รับมาอย่างต่อเนื่อง

บางคนยังมองว่านโยบายประชานิยม คือการคิดแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ได้มองลึกถึงการปรับโครงสร้างที่มันเป็นปัญหาจริงๆ ดังนั้นนโยบายประชานิยม หากไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ครอบคลุมทุกมิติ อาจส่งผลเสียต่อภาพรวมของระบบเศรษฐกิจประเทศได้

ในอีกแง่มุมหนึ่ง ผู้ว่าแบงก์ชาติ “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ออกมาพูดถึงนโยบายหาเสียงที่พรรคการเมืองกำลังโหมโรงกันอย่างคึกคัก ท่ามกลางภาพรวมเศรษฐกิจที่แบงก์ชาติเชื่อว่ากำลังเริ่มฟื้นตัว

ดังนั้นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอาจมีความจำเป็นน้อยลง ขณะที่ ความสำคัญของการทำนโยบายแต่ละพรรคการเมือง โจทย์ใหญ่คงไม่ใช่เพียงแค่การกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น ควรต้องช่วยสร้างศักยภาพการเติบโตให้เศรษฐกิจในระยะยาว ลงลึกไปที่โครงสร้างพื้นฐานที่จะเอื้อต่อการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศในอนาคตได้ยั่งยืนมากกว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น

หากย้อนภาพจำในอดีต นโยบายพรรคการเมืองส่วนใหญ่ ที่ถูกนำมาใช้หาเสียง ก็ล้วนเป็นนโยบายที่กระตุ้นเศรษฐกิจแค่ในระยะสั้นๆ เท่านั้น

ขณะที่ผลข้างเคียงที่เกิดจากนโยบายเหล่านี้ก็ดูจะไม่เข้าท่าสักเท่าไร ระวังอย่าให้นโยบายประชานิยม ครอบงำฉุดให้ประเทศร่วงลงสู่เหวลึก

นโยบายหาเสียงของพรรคการเมือง ควรต้องออกแบบให้รอบคอบ มองทุกมุม ทุกมิติ มองประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นไม่เพียงแค่ระยะสั้น หากต้องมองไกลระยะยาว ระบบเศรษฐกิจต้องก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน

เหนือสิ่งอื่นใด “ประชาชน” ที่เป็นผู้เลือกควรพิจารณาให้ดี พวกเรา “ออกแบบ” ได้ว่าจะให้ประเทศไทยนับจากนี้มีหน้าตาแบบไหน