ปฏิบัติการ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ดึงพลัง Facebook สื่อสารเจาะมวลชน

ปฏิบัติการ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ดึงพลัง Facebook สื่อสารเจาะมวลชน

‘เศรษฐา ทวีสิน’ ในฐานะ 'ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย' เตรียมยุติบทบาทซีอีโอแสนสิริอย่างเป็นทางการสู่สมรภูมิเลือกตั้งเต็มตัว พร้อมเปิดช่องทางสื่อสารผ่าน Facebook 'เศรษฐา ทวีสิน - Srettha Thavisin' ย้ำวิถีการเมือง 'คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน'

สปอตไลต์ในแวดวงธุรกิจและการเมือง จับจ้องอยู่ที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีลำดับที่สองจากพรรคเพื่อไทย 'เศรษฐา ทวีสิน' ซีอีโอหมื่นล้านแห่งค่ายอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ 'แสนสิริ' ที่วันนี้พ่วงตำแหน่ง 'ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

ภายใต้ภารกิจทางการเมืองที่ชัดเจน 'เศรษฐา'  สู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้เต็มสูบ เตรียมยุติบทบาทกุมบังเหียนแสนสิริ พร้อม Leave without pay ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในวันนี้ (9 มี.ค.)  

'เศรษฐา' เป็นหนึ่งในนักบริหารที่ใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางสื่อสารความเห็นต่างๆ ถูกเรียกว่าเป็น ซีอีโอสาย Call Out ผ่าน 'Twitter' กดคีย์บอร์ดทวีตเรียกเสียงเชียร์มาอย่างต่อเนื่องจากแฟนคลับ กลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ชื่นชอบแนวคิดแบบตรงไปตรงมา กล้าพูด

ความเคลื่อนไหวล่าสุด เศรษฐา เปิด Facebook 'เศรษฐา ทวีสิน - Srettha Thavisin' ที่มาพร้อมข้อความตัวหนังสือสีขาว 'คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน' บนพื้นสีแดง เปิดฉากการสื่อสารอีกหนึ่งช่องทาง

นอกเหนือจาก Twitter ที่เป็นช่องทางหลักเพียงช่องเดียวของ เศรษฐา ก่อนหน้านี้ ซึ่งเคยบอกว่า เลือกใช้ Twitter เพราะกระชับ! สื่อสารได้ตรงจุด จับใจความได้ดี เรียกว่า โดน! สำหรับบรรดาเฟรนด์ หรือคนมาฟอลโลว์ที่ได้รับ 'สาร' แบบได้ใจความเต็มๆ ไม่ต้องยืดเยื้อ 

หากแต่วันนี้ การขับเคลื่อนที่ต้องใช้พลัง! รอบด้าน 'Facebook' ในฐานะสังคมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดจึงเป็นเครื่องมือสำคัญ ทำให้ 'เศรษฐา' สื่อสารในวงกว้างขวางได้มากกว่าเดิม ด้วยข้อมูลที่ต้องการ 'สื่อ' มากกว่าเดิมนำสู่การสร้าง 'คอมมูนิตี้' และวัดขุมพลังแห่งมวลชน

เศรษฐา

การเข้าสู่นักการเมืองเต็มตัวของเศรษฐา ขณะที่การขับเคลื่อนของ แสนสิริโชว์ผลงานปี 2565 ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบ 38 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัททั้งด้านยอดขายกำไรสุทธิแตะ 4,200 ล้านบาท โตก้าวกระโดด 112%  และอัตราผลตอบแทน (Dividend yield) สูงสุด 8% เหนือคู่แข่งในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เวลานี้ พร้อมเดินหน้าสร้างสถิติใหม่ในปีกระต่ายทองเคลื่อนธุรกิจมุ่งสู่การเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ด้วยการลงทุน 52 โครงการใหม่ มูลค่า 75,000 ล้านบาท ภายใต้เป้าหมายกำไรสุทธิ ALL-Time High

“ท่ามกลางความท้าทายมากมายในปี2565 แสนสิริสามารถขับเคลื่อนธุรกิจผ่านมาได้อย่างแข็งแกร่งในรอบ 38 ปี จากความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานความไว้วางใจและเชื่อมั่นจากลูกค้า ทำให้แสนสิริเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน”

ไม่เพียงพิสูจน์ฝีมือ 'เศรษฐา' แต่ยังสะท้อนความแข็งแกร่งขององค์กร 'แสนสิริ' ที่มีระบบการทำงานมืออาชีพ ที่เศรษฐา เคยบอกว่า ตัวเอง 'อยู่' หรือ 'ไม่อยู่' องค์กรก็สามารถเดินหน้าต่อไปได้โดยไม่สะดุด! อย่างแน่นอน

'เศรษฐา' ถือหุ้นในแสนสิริลำดับ 4 จำนวน 661,002,734 หุ้น คิดเป็น 4.44% มูลค่ากว่า 707.2 ล้านบาท (จากราคาพาร์หุ้นละ 1.07 บาท มูลค่า ณ วันที่ 12 ต.ค.2565) ข้อมูลล่าสุดเดือน มิ.ย.2565 แสนสิริ มีมูลค่าสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 121,231 ล้านบาท โดยธุรกิจหลักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สัดส่วน 90% ธุรกิจอื่นๆ 10% 

นอกจากนี้ เป็นกรรมการบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อีกอย่างน้อย 1 แห่ง คือ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทลูกในเครือแสนสิริ

ในนามส่วนตัว 'เศรษฐา' ปรากฏชื่อเป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 44 แห่ง ยังเปิดดำเนินกิจการอยู่ไม่ต่ำกว่า 38 แห่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทุนปัจจุบันรวมกันนับหมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ คาแรคเตอร์และคมคิดที่ชัดเจนของ 'เศรษฐา' เป็น 'จุดขาย' ที่สร้างความแตกต่างให้กับพรรคเพื่อไทย ท่ามกลางการแข่งขันที่ร้อนแรง ของพรรคโลกเก่าและพรรคโลกใหม่หัวก้าวไกล

'เศรษฐา' ประกาศถึงแนวคิดและการให้ความสำคัญกับการแก้ไข “ปัญหาความเหลื่อมล้ำ” ที่ยกเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลควรดำเนินการโดยด่วน เพราะมองว่าผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ก่อให้เกิดช่องว่างทางด้านความมั่งคั่ง ระหว่าง 'คนมี' กับ 'คนไม่มี' ขยายตัวกว้างขึ้นอย่างน่ากลัว! หากไม่เร่งปรับสมดุล โอกาสที่จะเกิดความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจย่อมเป็นไปได้ยากยิ่ง

'เศรษฐา' ยังให้มุมมองการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2566 ด้วยว่า จะสามารถเปลี่ยนประเทศไทยได้! การเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญมาก ทุกคนต้องออกมาใช้สิทธิ์ ไม่ว่าจะชื่นชอบรัฐบาลเก่า หรืออยากเปลี่ยน!