‘กำไร-ปันผล’ ปี 65 สูง ทำไมยังเรียกศรัทธา ‘หุ้นเบทาโกร’ คืนไม่ได้ !

‘กำไร-ปันผล’ ปี 65 สูง ทำไมยังเรียกศรัทธา ‘หุ้นเบทาโกร’ คืนไม่ได้ !

กำไรสุทธิปี 65 “เบทาโกร” ที่ 7.93 พันล้าน เติบโต 685.5% และรายได้ทะลุระดับ “แสนล้าน” จากการเพิ่มขึ้นของยอดขายและราคาขาย ตามความต้องการที่เพิ่มขึ้น และควบคุมค่าใช้จ่ายมีประสิทธิภาพ พร้อมปันผลอีก 1 บาท ขึ้น XD 14 มี.ค.นี้ แต่ราคา “หุ้น BTG” วันนี้ (1มี.ค.) กลับสวนทางร่วง 3.73%

             ประกาศผลดำเนินงานปี 2565 ของ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG มี “กำไรสุทธิ” 7,937.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 685.5% จากปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิ 1,010.52 ล้านบาท และมี “อัตรากำไรสุทธิ” อยู่ที่ 7% เพิ่มขึ้น 1.2% จากปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของรายได้และอัตรากำไรขั้นต้น รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่าย

              ขณะที่บริษัทมี “รายได้” อยู่ที่ 113,876.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.3% จากปี 64 ที่มีรายได้ 86,743.7 ล้านบาท มาจากการเติบโตของรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการของทุกกลุ่มธุรกิจ (ยกเว้นกลุ่มธุรกิจอื่น) ได้แก่

            (1) กลุ่มธุรกิจเกษตร โดยหลักเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาขายสินค้าตามการเพิ่มขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์

(2) กลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีน โดยหลักเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาขายผลิตภัณฑ์ หมู่ ไก่ ไข่ไก่ อาหารแปรรูปและเนื้อสัตว์แปรรูป ทั้งในประเทศและในตลาดส่งออก รวมถึงปริมาณขายตามความต้องการที่เพิ่มขึ้น  

       (3) กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ จากการเพิ่มขึ้นของราคาขายอาหารสัตว์ ตามการเพิ่มขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์และราคาขายสัตว์มีชีวิตในประเทศกัมพูชาและประเทศลาว และ (4) กลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยง เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการขาย และราคาขายอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งสอดคล้องรับปริมาณการผลิตและการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ที่มีราคาขายสูงขึ้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) อนุมัติการจ่ายปันผลงวดสุดท้ายปี 65 ในอัตราหุ้นละ 1 บาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้สิทธิรับเงินปันผลวันที่ 14 มี.ค. 66 และกำหนดจ่ายปันผล วันที่ 19 พ.ค. 66

 

ทว่าสารพัดข่าวดี กลับไม่สะท้อนมาที่ราคาหุ้น BTG โดยวันนี้ (1 มี.ค.) ราคาหุ้นเคลื่อนไหวในแดนลบเกือบทั้งวัน ก่อนมาปิดตลาดที่ 32.25 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 3.73% โดยระหว่างวันทำราคาสูงสุด 33  บาท และต่ำสุด 32.25 บาท อนึ่ง ราคาหุ้น BTG ยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นมายืนเหนือราคาไอพีอีที่ 40 บาท 

‘บล.ทรีนีตี้’ หั่นคาดการณ์กำไร ปี 66-67  เหตุราคาหมู-ไก่ อ่อนตัวเร็ว

              บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บริษัท เบทาโกร (BTG) รายงานกำไรสุทธิปี 65 ที่ 7,938 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 786% จากปีก่อน และใกล้เคียงกับที่คาดไว้ก่อนหน้าที่ 8,081 ล้านบาท แต่กำไรไตรมาส 4 ปี 65 อยู่ที่ 1,796 ล้านบาท อ่อนตัว 22% จากไตรมาส 3 ปี 65 แต่ยังเติบโต 99% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

โดยหลักๆ เป็นผลมาจากราคาสัตว์บกทั้งหมูและไก่ในประเทศที่อ่อนตัวลงในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นอ่อนตัวลงจาก 21.2% ในไตรมาส 3 ปี 65 มาอยู่ที่ 17.9% ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานยังค่อนข้างทรงตัว ส่วนดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาสก่อน ซึ่งคาดว่าเป็นผลจากอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

ดังนั้น อาจต้องมีการปรับประมาณการกำไรปี 2566-2567 ลง เนื่องด้วยในช่วงต้นปี 66 เริ่มเห็นแนวโน้มราคาสัตว์บกอ่อนตัวลงมาค่อนข้างเร็ว โดยเฉพาะราคาหมูที่ลดลงมาเกือบ 20% จากระดับสูงสุดแล้ว ซึ่งในแง่ของการผลิตในประเทศ คาดว่ายังไม่ฟื้นกลับมาที่ระดับเดิมก่อนการระบาดของโรค ASF แต่เป็นผลจากหมูลักลอบนำเข้าที่ทางภาครัฐกำลังเร่งปราบปราม ในอีกด้านหนึ่งต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ทั้งกากถั่วเหลืองและข้าวโพดปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นกดดันอัตรากำไร