จัดตั้งธุรกิจใหม่ ม.ค. 66 ทำสถิตินิวไฮในรอบ 10 ปี

จัดตั้งธุรกิจใหม่ ม.ค. 66 ทำสถิตินิวไฮในรอบ 10 ปี

“จุรินทร์” เผยยอดบริษัทตั้งใหม่เดือนม.ค.66 พุ่ง 8,466 ราย โต 6.2% มูลค่าทุนจดทะเบียน 20,847.11 ล้าน บาท ด้านต่างด้าวจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ 52 ราย

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือนม.ค.2566 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 8,466 ราย เทียบกับเดือนธ.ค.2565 ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 111% และเทียบกับม.ค.2565 เพิ่มขึ้น 6.2% มูลค่าทุนจดทะเบียน 20,847.11 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร

ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 1,297 ราย เทียบกับธ.ค.2565 ลดลง 77% เทียบกับม.ค.2565 เพิ่มขึ้น 30% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการ 4,268.20 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 54 และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร

ปัจจุบัน มีธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ วันที่ 31 ม.ค.2566 จำนวน 857,511 ราย มูลค่าทุน 21.36 ล้านล้านบาท เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 201,641 ราย คิดเป็น 23.52% บริษัทจำกัด 654,488 ราย คิดเป็น 76.32% และบริษัทมหาชนจำกัด 1,382 ราย คิดเป็น 0.16% ตามลำดับ

สำหรับการลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าวเดือนม.ค. 2566 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น 52 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจ 22 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ 30 ราย มีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 5,129 ล้านบาท ลดลง 69% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่าน นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด 3 สัญชาติแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 14 ราย เงินลงทุน 3,588 ล้านบาท สิงคโปร์ 6 ราย เงินลงทุน 410 ล้านบาท และสหรัฐอเมริกา 6 ราย เงินลงทุน 9 ล้านบาท ตามลำดับ

ทั้งนี้ยอดจัดตั้งธุรกิจเดือนม.ค. 2566 ทำสถิติสูงสุดในรอบ 10 ปี ตั้งแต่ปี 2557-2565 โดยปัจจัยบวกที่ทำให้การจดทะเบียนจัดตั้งใหม่เพิ่มขึ้น มาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และภาคการท่องเที่ยว ทั้งในประเทศ