สมรภูมิสตรีมมิ่งระอุ! ชิงลูกค้า ยักษ์ใหญ่ระดมอาวุธ ‘คอนเทนท์-หั่นราคา’ สู้

สมรภูมิสตรีมมิ่งระอุ! ชิงลูกค้า  ยักษ์ใหญ่ระดมอาวุธ ‘คอนเทนท์-หั่นราคา’ สู้

สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งตัดสินใคร "แพ้-ชนะ" ในศึกสตรีมมิ่งเช่นกัน "เน็ตฟลิกซ์" หั่นราคาดึงลูกค้า แต่ความคมชัด 4K เป็นอีกข้อเรียกร้อง ส่วนคู่แข่ง ไม่ยอม 'คอนเทนท์ ราคา' เด็ดไม่ด้อย Disney+ Hotstar VIU WeTV iQIYI HBO Go Apple TV+ MonoMax ฯ ปล่อยของดีสู้

สนามการรับชมรายการโปรดหรือคอนเทนท์ แยกใหญ่ 2 ฝ่าย ออฟไลน์ คือทีวีดิจิทัล ซึ่งจอแก้วยังคงดึงคนดูได้อยู่ จากฐานผู้ใหญ่ คนสูงวัย คนต่างจังหวัด ฯ

ขณะที่ “ออนไลน์” นับวันยิ่งเป็นสมรภูมิเดือด! ยิ่งขึ้น ไม่แค่ในประเทศไทยแต่ทั่วโลก เพราะบรรดาเทคคัมปะนี กระโจนสู่ตลาด ระเบิดศึกชิงคนดูเต็มสูบ

เจาะตลาดในประเทศไทย วันนี้แทบทุกค่ายเข้ามาเปิดตลาด ให้บริการแก่ลูกค้า ทั้งรับชมฟรี และ “จ่ายค่าสมาชิก” หรือ Subscription Model พี่เบิ้มเขย่าวงการเสพคอนเทนท์ต้องยกให้ “เน็ตฟลิกซ์”(Netflix) โกยฐานคนดูจำนวนมาก มีแพ็คเกจหลากหลายราคาดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย

แลกหมัดด้วย Content Is King

เมื่อผู้บริโภคเปิดกว้าง ก้าวสู่โลกสตรีมมิ่ง ทำให้ตลาดหอมหวานมากขึ้น และนำไปสู่ “ผู้เล่น” มากหน้าหลายค่ายเข้ามาทั้งไทยและต่างประเทศ เช่น Disney+ Hotstar VIU WeTV iQIYI HBO Go Apple TV+ Amazon Prime Video ฯ

ส่วนยักษ์บันเทิง และสถานีโทรทัศน์หลายช่องต่างมีแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่นำเสนอรายการเด่นดังของแต่ละช่อง ป้อนคนดูเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น TrueID BugabooTV oneD MonoMax 3Plus เป็นต้น

สมรภูมิสตรีมมิ่งระอุ! ชิงลูกค้า  ยักษ์ใหญ่ระดมอาวุธ ‘คอนเทนท์-หั่นราคา’ สู้ Content Is King กลยุทธ์สำคัญที่วัดการแข่งขัน “ชนะ-แพ้” นอกเหนือจาก “ความง่วง” ของมนุษย์แล้ว ทำให้ทุกค่ายต้องสร้างสรรค์ “คอนเทนท์” เพื่อเป็นแม่เหล็กตรึงคนให้เฝ้าจอนานที่สุดเท่าที่ทำได้ และ “จุดแข็ง” ที่ต่างค่ายหามาต่อกรกับคู่แข่งจึงเกิดขึ้น อย่าง Netflix มีซีรีส์หลากหลายแต่ คอนเทนท์ “เกาหลี” ครองใจกลุ่มเป้าหมายอย่างมาก เพราะมีพันธมิตรเป็นแบ็คเสริมแกร่งอย่างดีนั่นคือ Studio Dragon ของเครือใหญ่ซีเจ อีเอ็นเอ็ม คอยสร้างสรรค์ Original Content ให้ เป็นต้น

ส่วน WeTV ซีรี่ส์ รายการโปรดจากจีนยืนหนึ่งอย่างโดดเด่น iQIYI ซีรีส์จีนแล้วยังมี ซีรีส์วาย เอาใจสายวายทั้งหลายด้วย Disney+ Hotstar มีหนังดังระดับบล็อกบัสเตอร์ จากสตูดิโอในเครือ หนังเจ้าหญิงเอาใจสาวกทุกเพศทุกวัย VIU นอกจากคอนเทนท์เอเชียทั้งซีรีส์เกาหลี จีน การพากย์ “ภาษาถิ่น” ทั้งเหนือ อิสาน เป็นจุดขายที่แตกต่างมาก เพราะทำให้คนที่ไม่ต้องการอ่านคำบรรยายหรรือซับไตเติ้ล เปิดฟังและเข้าใจเนื้อเรื่องรายการโปรดได้

สมรภูมิสตรีมมิ่งระอุ! ชิงลูกค้า  ยักษ์ใหญ่ระดมอาวุธ ‘คอนเทนท์-หั่นราคา’ สู้ ฟาก MonoMax ที่เอาใจชาวไทยด้วยซีรีส์จีน ญี่ปุ่น TrueID ซีนเนอร์ยีกับเครือ นำคอนเทนท์เด่นอย่าง “กีฬา” เข้ามาเสิร์ฟด้วย และแพลตฟอร์มของไทยอีกหลายเจ้า ต่างนำรายการบนทีวี มาสตรีมมิ่งตอบโจทย์ดูทุกที่ทุกเวลา

สงครามราคาไม่เคยแผ่ว

คอนเทนท์ดีอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะหลักการตลาดพื้นฐาน “ราคา” เป็นอีกกลยุทธ์ที่ชี้ชะตาการแข่งขัน Netflix เพิ่งประกาศปรับ “ลดราคาแพ็คเกจพื้นฐาน” เหลือเพียง 169 บาทต่อเดือน จากเดิม 279 บาทต่อเดือน โดยผู้ชมจะสตรีมคอนเทนต์คุณภาพระดับ HD มีผล 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ราคาดังกล่าว จะรับชมได้ทั้งโทรศัพท์ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ และสมาร์ททีวี โดยรับชมได้ครั้งละ 1 เครื่อง ทุกขนาดจอ ไม่ต้องแบ่งใคร

สมรภูมิสตรีมมิ่งระอุ! ชิงลูกค้า  ยักษ์ใหญ่ระดมอาวุธ ‘คอนเทนท์-หั่นราคา’ สู้ “หั่นราคา” ตอบโจทย์คนดูแล้ว แต่เหมือนข้อเรียกร้องหรือ “เสียงผู้บริโภค” จะมีความต้องการมากกว่านั้นคือ “ความคมชัด” ในการรับชมที่อ้อนเป็น 4K ได้ไหม

สัญญาณการปรับราคาแพ็คเกจของ “เน็ตฟลิกซ์” เห็นตั้งแต่ปลายปี 2565 ตัวแปรหลักๆ เพราะการแข่งขันทวีความดุเดือดขึ้น จาก “ยักษ์ใหญ่” เทคคัมปะนี สื่อ พร้อมท้าชนแย่งคนดูเต็มที่

อย่างไรก็ตาม สงครามราคา แม้ไม่ใช่เป็นอาวุธไม้ตาย แต่ซัดคู่แข่งได้ไม่น้อย เกม “เผาเงิน” เพื่อแลกกับการสร้างฐานสมาชิกหรือ Traffic เข้ามาใช้บริการมีอย่างต่อเนื่อง Disney+ Hotstar ตอนลงสนามในไทย นอกจากขนภาพยนตร์มาประเดิมให้คนดูกว่า 700 เรื่อง ซีรีส์ดังทั่วโลกกว่า 14,000 ตอน “ราคา” สำหรับสมาชิกเปิดที่ 799 บาทต่อเดือน ดูได้ 2 อุปกรณ์

ด้วยการเข้ามามีพันธมิตรเป็นบิ๊กโทรคมนาคมและการสื่อสารอย่าง “เอไอเอส” จึงระเบิดโปรโมชั่น 35 บาทต่อเดือน แถมอีก 1 เดือน จากราคาเต็ม 99 บาทต่อเดือน ล่าสุด แพ็คเกจของลูกค้าเอไอเอส ยังได้ราคาพิเศษรายปี เฉลี่ย 49 บาทต่อเดือนด้วย

สมรภูมิสตรีมมิ่งระอุ! ชิงลูกค้า  ยักษ์ใหญ่ระดมอาวุธ ‘คอนเทนท์-หั่นราคา’ สู้ Apple TV+ สำหรับผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Apple ลูกค้าจะได้รับชมรายการโปรด “ฟรี” 3 เดือน บ้างได้ทดลองใช้ฟรี 7 วัน จากนั้นจะเสียค่าบริการ 199 บาทต่อเดือน หากรายการโปรดที่มีไม่ยังไม่ตอบโจทย์ ตรงใจ ยังมีคอนเทนท์ที่ทางค่ายกั๊กเพื่อให้จ่ายเพิ่มทั้งรูปแบบ “เช่า” และ “ซื้อเพิ่ม” ด้วย เช่น TENET ซื้อ 499 บาท เช่า 99 บาท เป็นต้น

VIU มีโปรโมชั่นแนะนำ 119 บาทต่อเดือน หรือเลือกจ่าย 315 บาทต่อ 3 เดือน และ 1,199 บาทต่อ 12 เดือน (หารเฉลี่ย 99.92 บาทต่อเดือน) ยังมีโปรโมชั่น อย่างสมาชิกพรีเมียมจ่าย 79 บาทต่อเดือน นาน 12 รอบบิล แต่เฉพาะลูกค้าทรูมูฟ เอช ฯ iQIYI แพ็คเกจสแตนดาร์ดจ่าย 49 บาทต่อเดือน จาก 119 บาทต่อเดือน รายไตรมาสหรือ 3 เดือน 199 บาท ซึ่งลดราคาลง 140 บาท แพ็คเกจรายปี 719 บาท หั่นราคาจาก 1,200 บาท เป็นต้น

สมรภูมิสตรีมมิ่งระอุ! ชิงลูกค้า  ยักษ์ใหญ่ระดมอาวุธ ‘คอนเทนท์-หั่นราคา’ สู้ เหล่านี้ เป็นแค่ส่วนหนึ่งของ “สงครามราคา” เท่านั้น เพราะแต่ละช่วงเวลา เมื่อคู่แข่งปรับแพ็คเกจ หรือยอดสมาชิก การรับชมหล่นหาย แต่ละแพลตฟอร์ม ต้องออกอาวุธตั้งราคาใหม่ เพื่อรักษาฐานลูกค้าไว้

ง่วง-ไม่มีเวลาดู แต่ผู้บริโภคเปย์เงินทิ้งเพื่อสตรีมมิ่ง

หนึ่งในพฤติกรรมที่น่าสนใจของผู้บริโภคโลกสตรีมมิ่งคือ จำนวนไม่น้อยที่มีสารพัดแอปพลิเคชั่น การดู “ฟรี” บางแพลตฟอร์มต้องแลกกับการรับชมโฆษณาคั่นให้กวนใจเล็กน้อย แต่อีกส่วนหนึ่งยอมจ่ายเงินค่าสมาชิกรายเดือน รายปี ทิ้ง!!

เมื่อปฏิเสธไม่ได้ว่า เกมการแข่งขันของทุกค่ายที่ต้องเผชิญคือ “เวลา” และ “ความง่วง” ของผู้บริโภค ทุกคนมี 24 ชั่วโมงเท่ากัน เมื่อต้องดูรายการโปรด แพลตฟอร์มที่เลือกรับชมจะมีเพียง “หนึ่งเดียว” ที่ได้ Eyeball ยอดวิว เรทติ้งจากคนดู แต่เพราะคอนเทนท์บางอย่าง โดยเฉพาะ Original Content ค่ายใครค่ายมัน ทำให้ผู้บริโภคต้องเปย์ทิ้งขว้างบ้าง

บางคนอาจมีทั้ง Netflix Disney+ Hotstar Apple TV+ ใครชื่นชอบซีรีส์ญี่ปุ่น จีน ที่เป็นรายการท็อป ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ต้องเป็นสมาชิก VIP แล้วล่ะ ความเห็นเหล่านี้ ปรากฏบนเพจของสตรีมมิ่งค่ายต่างๆเพียบ

ศึกสตรีมมิ่งชิงคนดู ระอุ! ตั้งแต่ออกตัว และยังคงเดือดปรอทแตกต่อไป ส่วนค่ายไหนจะยิ่งใหญ่ ทำเงินโกยกำไร ติดตามกันยาวๆ