ใช้จ่ายเสพสุขปีใหม่ หนุนเศรษฐกิจโดยรวม

ใช้จ่ายเสพสุขปีใหม่ หนุนเศรษฐกิจโดยรวม

หลายคนถือเป็นหมุดหมายเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ในชีวิต บรรยากาศช่วงปลายปีจึงเต็มไปด้วยความสุขและความหวังควบคู่ไปกับการช้อปปิ้งใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการที่จะสร้างความสุขในชีวิต

ล่วงเข้าวันศุกร์ 23 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันศุกร์รองสุดท้ายของปี 2565 บรรยากาศเริ่มคึกคักเข้ามาทุกขณะ คริสต์มาสใกล้เข้ามาแม้ไม่ใช่ธรรมเนียมไทยแต่เป็นธรรมเนียมทุนนิยมโลกไปแล้ว ที่ไหนๆ ก็เฉลิมฉลอง ถัดไปอีกหนึ่งสัปดาห์ถึงคิวปีใหม่ หลายคนถือเป็นหมุดหมายเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ในชีวิต บรรยากาศช่วงปลายปีจึงเต็มไปด้วยความสุขและความหวังควบคู่ไปกับการช้อปปิ้งใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการที่จะสร้างความสุขในชีวิต

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 พบว่า การจับจ่ายในช่วงปีใหม่นี้กลับมาขยายตัวเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 3 ปี เรียกได้ว่า “ฟื้นจากสถานการณ์โควิด-19” โดยเติบโตสูงถึง 20.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน มูลค่าอยู่ที่ประมาณ 103,039 ล้านบาท การใช้จ่ายมากกว่า 50% ไปอยู่ที่ภาคท่องเที่ยวกว่า 6 หมื่นล้านบาท ถ้าเป็นอย่างที่คาดจริงพ่อค้าแม่ขายธุรกิจน้อยใหญ่คงเบิกบานถ้วนหน้า 

ถัดจากใช้จ่ายปีใหม่แล้วลองมองข้ามช็อตไปถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปีหน้า ปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่น่าเป็นห่วงยังมีอยู่ สงครามรัสเซีย-ยูเครนไม่มีทีท่าจบง่ายๆ เมื่อประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน เดินทางไปต่างประเทศอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่ถูกรัสเซียรุกรานเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ด้วยการเยือนกรุงวอชิงตันพบปะหารือกับ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และได้แถลงต่อสภาคองเกรส สหรัฐประกาศให้ความช่วยเหลือยูเครนต่อเนื่อง รวมทั้งเตรียมให้ระบบต่อต้านขีปนาวุธ “แพทริออต” ระบบป้องกันตนเองทางอากาศที่มีความก้าวหน้ากว่าที่ยูเครนใช้ 

ด้าน ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียเสนอแผนเพิ่มกำลังพลติดอาวุธอีก 30% จาก 1.15 ล้านนายเป็น 1.5 ล้านนาย พร้อมประกาศกร้าวจะปักหลักทำศึกในยูเครนจนกว่าจะมีชัยชนะตามเป้าหมาย ส่วนในมิติเศรษฐกิจ จีน ประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลก คู่ค้ารายใหญ่สุดของหลายๆ ประเทศ ถึงวันนี้กำลังอ่วมกับโควิดที่ไม่รู้ว่าจะถึงจุดพีคเมื่อใด สรุปว่ากว่าเศรษฐกิจจีนจะเข้าที่หลังโควิดความเชื่อมั่นผู้บริโภคกลับคืนเหมือนก่อนต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง การท่องเที่ยวต่างประเทศให้สาสมกับที่อัดอั้นมานานคงไม่เกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ ระหว่างนั้นจีนจะกระตุ้นการบริโภคในประเทศเป็นหลัก

เรื่องสงครามรัสเซีย-ยูเครนและเศรษฐกิจจีนเป็นปัจจัยภายนอกที่ถูกพูดถึงบ่อยครั้งและคงต้องพูดถึงกันต่อไป  แต่ก็เป็นปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้ สิ่งที่พอจะทำได้ช่วงปลายปีคือ เสพสุขอย่างมีสติ ใช้เงินซื้อหาความสุขตามกำลังทรัพย์ของแต่ละคน เม็ดเงินเล็กๆ น้อยๆ จากการบริโภคภายในประเทศที่หลั่งไหลรวมกันด้วยพลังความอัดอั้นหลังโควิดเมื่อเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจใหญ่คงมากพอจะผลักดันให้ระบบโดยรวมเดินหน้าไปได้ หวังว่าแผนการแห่งความสุขในปีที่ 3 หลังระทมทุกข์จากโควิดคงไม่มีอะไรสะดุด