บีโอไอ ถกหอการค้าฯ ยกระดับ SMEs สู่ห่วงโซ่อุปทานการผลิตระดับโลก

บีโอไอ ถกหอการค้าฯ ยกระดับ SMEs สู่ห่วงโซ่อุปทานการผลิตระดับโลก

เลขาธิการบีโอไอนำทีมผู้บริหารเข้าพบหอการค้าไทย ถกยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนใหม่ เข้าถึง SMEs มุ่งยกระดับศักบภาพการผลิตสู่ห่วงโซ่อุปทานระดับโลก

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการหารือกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยว่า บีโอไอจะทำงานใกล้ชิดกับภาคเอกชน เพื่อร่วมขับเคลื่อนมาตรการส่งเสริมการลงทุน มุ่งสร้างเศรษฐกิจใหม่ให้กับประเทศไทย ตามยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุน 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570)

“บีโอไอมองเห็นความสำคัญของการทำงานอย่างใกล้ชิดกับภาคเอกชน เพื่อผนึกกำลังกันผลักดันให้เกิดการยกระดับภาคอุตสาหกรรม และการลงทุนที่จะนำไปสู่การสร้างเศรษฐกิจใหม่ ตามยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนใน 5 ปีข้างหน้า ภายใต้ 3 แนวคิด Innovative, Competitive และ Inclusive"

นอกจากนี้ บีโอไอและหอการค้าไทยจะจัดตั้งกลไกการทำงานร่วมกัน ผลักดันการปรับปรุงกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค เพื่อให้ไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุนและเป็นศูนย์กลางธุรกิจของภูมิภาคได้อย่างแท้จริง รวมทั้งสนับสนุนให้สมาชิกหอการค้าทั่วประเทศ โดยเฉพาะ SMEs ได้เข้าถึงมาตรการส่งเสริมและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของบีโอไอ

ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญในการหารือร่วมกับหอการค้าไทย คือ การผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ และประตูการค้าการลงทุนของภูมิภาค การยกระดับ SMEs ให้มีมาตรฐานที่สูงขึ้น สามารถเข้าไปอยู่ในห่วงโซ่การผลิตระดับโลก และพร้อมปรับตัวไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ๆ  การพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย และการสนับสนุนให้บริษัทใหญ่ที่มีศักยภาพเข้ามามีบทบาทในการช่วยพัฒนา SMEs รวมทั้งช่วยพัฒนาชุมชนและสังคม

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน ประเทศไทยมีความได้เปรียบในการดึงดูดการลงทุนจากประเทศต่างๆ หอการค้าฯ เห็นด้วยกับบีโอไอที่ต้องทำกิจกรรมในเชิงรุกเพื่อดึงดูดต่างชาติเข้ามาลงทุน โดยเฉพาะประเทศเป้าหมาย เช่น จีน ซาอุดิอาระเบีย อินเดีย และเวียดนาม ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยเทคโนโลยี และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ จะทำให้การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยไปสู่เศรษฐกิจใหม่ประสบความสำเร็จ

“หอการค้าฯ มีความพร้อมจะให้ความร่วมมือกับบีโอไอในการศึกษาและวิจัย สิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์กับทุกภาคส่วน ร่วมกันทำงานอย่างใกล้ชิด ทำงานในเชิงรุก และต้องทำทันที เช่น การจัดโรดโชว์เพื่อดึงดูดการลงทุน ถ้าทำได้ในปีหน้า จะช่วยเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด” 

สำหรับหอการค้าไทยฯ ได้นำเสนอประเด็นเพื่อหารือร่วมกับบีโอไอในครั้งนี้ อาทิ การเพิ่มเติมสิทธิประโยชน์ให้กับอุตสาหกรรมตลอด Value Chain การให้สิทธิประโยชน์กิจการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง การขอรับการส่งเสริมการลงทุนใน อุตสาหกรรมดิจิทัล สร้างสรรค์ และบริการที่มีมูลค่าสูง และ สิทธิประโยชน์สำหรับการลงทุนรูปแบบ Co-Investment เป็นต้น

นอกจากนี้ หอการค้าฯ จะตั้งคณะทำงาน เพื่อสื่อสารไปยังผู้ประกอบการ SMEs กลุ่มต่างๆ รวมทั้งเสนอให้มีการปรับสิทธิประโยชน์ให้เหมาะสมตามพื้นที่ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน