คนไทยแห่จองตั๋ว เที่ยวญี่ปุ่น หมดเกลี้ยง ทำคนญี่ปุ่นซื้อตั๋วขากลับไม่ได้

นายจิรวัฒน์ วงษ์สมศรี กรรมการ สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) ซึ่งเป็นสมาคมของบริษัททัวร์ที่นำคนไทยออกไปเที่ยวต่างประเทศ และในฐานะผู้ประกอบธุรกิจบริษัทค้าส่งทัวร์ (โฮลเซล) จัดจำหน่ายแพ็กเกจทัวร์เที่ยวญี่ปุ่น กล่าวว่า หลังจากญี่ปุ่นประกาศเปิดประเทศเต็มรูปแบบ มีผลตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา พบว่าตอนนี้แพ็กเกจทัวร์ไทยไปญี่ปุ่นสำหรับปีนี้ถูกลูกค้าซื้อเต็มไปทั้งหมดแล้ว เนื่องจากคนไทยอัดอั้น ไม่ได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นมานานกว่า 2 ปีครึ่งนับตั้งแต่เกิดวิกฤติโควิด-19 จึงจองซื้อแพ็กเกจทัวร์ แม้ราคาจะสูงขึ้นถึง 80-100% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด-19 ระบาดก็ตาม โดยมีสาเหตุมาจากค่าตั๋วเครื่องบินแพงขึ้นมากตามราคาน้ำมันในตลาดโลก ส่วนนักท่องเที่ยวไทยที่ต้องการไปญี่ปุ่นเพิ่มเติม คงต้องรอต้นปี 2566 ที่สายการบินต่างๆ น่าจะเปิดเที่ยวบินเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีจำนวนเที่ยวบินไป-กลับญี่ปุ่น กลับมาให้บริการประมาณ 40% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19

“ก่อนโควิด-19 ระบาด แพ็กเกจทัวร์เที่ยวญี่ปุ่นแบบ 5 วัน 3 คืน หรือ 6 วัน 4 คืน จะเริ่มต้นที่ 20,000 บาทกว่าถึง 30,000 บาทปลายๆ แต่ตอนนี้หาราคา 30,000 บาทไม่ได้แล้ว โดยราคาเริ่มตั้งแต่ 45,000 บาท - 50,000 บาท”

และเมื่อก่อน เมื่อใกล้ถึงเวลาเดินทาง ผู้ประกอบการทัวร์จะขายทัวร์ไฟไหม้ ซึ่งเป็นโปรโมชั่นขายแพ็กเกจทัวร์ราคาถูก เพราะใกล้เวลาเดินทางแล้วแต่ยังขายไม่หมด แต่ตอนนี้เปลี่ยนไป ยิ่งใกล้เวลาเดินทาง ราคาแพ็กเกจทัวร์จะยิ่งสูงขึ้นในกรณีบริษัททัวร์ไปไขว่คว้าหาตั๋วเครื่องบินมาจัดทำแพ็กเกจทัวร์เพิ่มได้

สำหรับภาพรวมการฟื้นตัวของตลาดคนไทยเที่ยวญี่ปุ่น จริงๆ เริ่มออกเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ช่วงนั้นทางญี่ปุ่นเปิดประเทศแบบมีเงื่อนไข เช่น ต้องเที่ยวกับบริษัททัวร์ ต้องมีไกด์นำคณะ ต้องขอวีซ่า และจำกัดจำนวนคนเข้าประเทศวันละไม่เกิน 50,000 คน

“ตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.เป็นต้นมา ญี่ปุ่นเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ไม่ต้องขอวีซ่า ประกอบกับสายการบินต่างๆ กลับมาเริ่มเปิดเที่ยวบิน จึงทำให้คนไทยทะลักไปญี่ปุ่นจำนวนมาก เห็นได้จากการฟื้นตัวของยอดขายแพ็กเกจทัวร์ ในเดือน ต.ค. ทางบริษัทขายได้ 5,000 แพ็กเกจ และในเดือน พ.ย. 10,000 แพ็กเกจ กลับมา 50% ของยอดขายก่อนเกิดโควิด-19 ที่เคยขายได้เดือนละ 20,000 แพ็กเกจ”

ด้านนายชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ภายหลังรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.2565 ได้ส่งผลให้ชาวญี่ปุ่นเดินทางออกต่างประเทศมากขึ้น และเลือกเดินทางมาไทยเพิ่มขึ้น เห็นได้จากข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1-24 ต.ค.ที่ผ่านมา มีชาวญี่ปุ่นเดินทางเข้าไทย 31,000 คน นับว่าเพิ่มขึ้นมากเกินเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะอยู่ที่เดือนละ 10,000 กว่าคนเท่านั้น

“แต่สิ่งที่ ททท.รู้สึกกังวลและกลุ้มใจคือ คนญี่ปุ่นที่มาประเทศไทยแม้จะหาตั๋วเครื่องบินเพื่อมาประเทศไทยได้ แต่หาตั๋วโดยสารขากลับไม่ได้ เนื่องจากถูกคนไทยที่อัดอั้นการเดินทางออกนอกประเทศ จองตั๋วเครื่องบินหมด เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นจุดหมายยอดนิยมของคนไทย ยิ่งค่าเงินเยนอ่อนค่า ยิ่งทำให้คนไทยจองตั๋วเครื่องบินและจองกรุ๊ปทัวร์เพื่อไปเที่ยวญี่ปุ่นมากขึ้น”

อย่างไรก็ตาม ททท.ได้ร่วมมือกับ 7 เอเย่นต์ญี่ปุ่น และมีเอเย่นต์เข้ามาร่วมงานเพิ่มเติมจากเมืองฮอกไกโด เพื่อออกแพ็กเกจส่งเสริมให้คนญี่ปุ่นมาเที่ยวไทยตามเป้าหมายปีนี้ที่ 350,000 คน โดยแพ็กเกจพิเศษดังกล่าวจะเริ่มส่งเสริมการตลาดในเร็วๆ นี้เพื่อเปิดขายได้ในเดือน ธ.ค.

ขณะที่คนญี่ปุ่นที่เดินทางมาไทยตั้งแต่เดือน ม.ค.- กลางเดือน ต.ค. 2565 ตามข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) อยู่ที่ 230,000-240,000 คน แต่กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาจะมีวิธีการสำรวจเพื่อแยกจำนวนของนักธุรกิจญี่ปุ่นออกไปอีก ที่ต้องมาสรุปจำนวนของนักท่องเที่ยวที่แท้จริงอีกที