สศอ. เผ้าระวัง "ค่าเงิน-ดอกเบี้ย" ชี้ปัจจัยต่างประเทศฉุดภาคผลิต

สศอ. เผ้าระวัง "ค่าเงิน-ดอกเบี้ย" ชี้ปัจจัยต่างประเทศฉุดภาคผลิต

กระทรวงอุตสาหกรรม รายงานดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ส.ค.2565 อยู่ที่ 99.28 ขยายตัว 14.52% จากปีก่อนหน้า ส่งผลให้ 8 เดือนแรกของปี 2565 MPI เฉลี่ยอยู่ที่ 99.81 ขยายตัว 2.72% จากการเปิดรับนักท่องเที่ยวและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยฟื้นดีมานต์ในประเทศ

โดยต้องจับตา 1-2 เดือนหน้า ภาคอุตสาหกรรมเริ่มได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจถดถอยในประเทศคู่ค้า รวมทั้งความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ 

สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สถานการณ์การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่องจากการบริโภคในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ส.ค.2565 อยู่ที่ 99.28 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 14.52% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ระดับ 63.78

สำหรับภาพรวมดัชนี MPI 8 เดือนแรกของปี 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 99.81 ขยายตัว 2.72% โดยมีอัตราการใช้กำลังการผลิต 8 เดือนแรก เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 63.43 จากการเปิดประเทศทำให้นักท่องเที่ยวมากขึ้น ส่งผลดีต่อการบริโภคในประเทศดีต่อเนื่อง รวมถึงมีคำสั่งซื้อและเพิ่มการผลิตมากขึ้น

ทั้งนี้ คาดว่าดัชนี MPI หลังจากนี้จะขยายตัวต่อเนื่อง โดยได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อาทิ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 ที่ทำให้การบริโภคขยายตัว

ศิริเพ็ญ เกียรติเฟื่องฟู รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ MPI เดือน ส.ค.2565 ขยายตัว ได้แก่ รถยนต์ จักรยานยนต์ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมน้ำมันปิโตรเลียมขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกัน สะท้อนให้เห็นถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว

อีกทั้ง การอ่อนค่าของเงินบาทส่งผลดีต่อภาคการส่งออก ทำให้สินค้าไทยสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก ได้แก่ อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 18 ติดต่อกัน จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ อุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่การส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้น

รวมถึงอุตสาหกรรมสำคัญที่ขยายตัว อาทิ อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมพลาสติก และอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ โดยมีเพียงอุตสาหกรรมบางกลุ่มลดลง ได้แก่ อุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า ประกอบกับการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทองคำ) เดือน ส.ค.2565 อยู่ที่ 18,213.2 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 9.04% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 21

การนำเข้าสินค้าทุน ขยายตัว 5.30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้าสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูปขยายตัว 5.30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงการเตรียมพร้อมสำหรับการผลิต

ขณะที่ปัจจัยเงินเฟ้อที่กระทบภาคอุตสาหกรรมมีทิศทางชะลอตัว สะท้อนจากดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) หมวดสินค้าอุตสาหกรรม เดือน ส.ค.ขยายตัว 8.7% ลดลงจากเดือน ก.ค.ที่ขยายตัว 10.5%

ทั้งนี้ สศอ.ใช้เครื่องมือระบบเตือนภัยด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทย (EWS-IE) คาดการณ์จากดัชนีชี้นำสถานการณ์การผลิตโลก (PMI) พบว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทย 1-2 เดือนข้างหน้า ปัจจัยภายในประเทศขยายตัวต่อเนื่อง ภาคการผลิตขยายตัวตามอุปสงค์ในประเทศ ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมดีขึ้นจากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศเริ่มกระทบภาคอุตสาหกรรม เกิดความผันผวนของเศรษฐกิจโลก การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายหลายประเทศ ข้อพิพาทระหว่างประเทศ รวมทั้งประเทศคู่ค้าอยู่ในภาวะไม่ปกติและคำสั่งซื้อชะลอตัวลง ได้แก่ สหรัฐ สหภาพยุโรป ที่คาดว่าอาจเกิดเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้และต้องเผชิญต่อภาวะขาดแคลนพลังงาน 

รวมทั้งจีนที่เศรษฐกิจชะลอตัวจากวิกฤติอสังหาริมทรัพย์และข้อพิพาทระหว่างประเทศในช่องแคบไต้หวัน ส่งผลให้สถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรมของประเทศไทยเริ่มส่งสัญญาณไม่ปกติ

ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2565 ต้องจับตาดูสถานการณ์ค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ปัญหาการขาดแคลนชิป ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นของภาคอุตสาหกรรม ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจกระทบการส่งออก นอกเหนือจากภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจของตลาดคู่ค้าส่งออกที่สำคัญของไทยดัชนี MPI เดือน ส.ค.ขยายตัว 14.52% สะท้อนการบริโภคฟื้นตัวหลังเปิดประเทศ

สำหรับอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลบวกต่อดัชนีผลผลิตในเดือน ส.ค.2565 ได้แก่

ยานยนต์ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 63.37% จากผลิตภัณฑ์รถบรรทุกปิคอัพ รถยนต์นั่งขนาดเล็ก และเครื่องยนต์ดีเซล เป็นหลัก หลังมีการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ

น้ำมันปิโตรเลียม ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 17.60% จากผลิตภัณฑ์น้ำมันดีเซล น้ำมันเครื่องบินและน้ำมันแก๊สโซฮอล์ เป็นหลัก หลังการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว การเปิดประเทศและการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19

เครื่องปรับอากาศ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 54.62% ตามเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า รวมถึงการเร่งผลิตเพื่อส่งมอบรองรับงานแสดงสินค้าที่จะมีขึ้นเดือน ก.ย.นี้ โรงงานผลิตและส่งสินค้าได้ตามปกติจากปีก่อนที่มีโควิด-19

ชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 15.61% จากผลิตภัณฑ์ Integrated circuits (IC) และ PCBA เป็นหลัก หลังได้รับคำสั่งซื้อต่อเนื่องตามความต้องการของตลาดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์โลก

จักรยานยนต์ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 131.01% จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ

สศอ. เผ้าระวัง \"ค่าเงิน-ดอกเบี้ย\" ชี้ปัจจัยต่างประเทศฉุดภาคผลิต