‘เอ็กซ์สปริง-เคทีซี’รุกสินเชื่อคริปโทรายแรกของไทย

‘เอ็กซ์สปริง-เคทีซี’รุกสินเชื่อคริปโทรายแรกของไทย

ภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนส่งผลกระทบต่อรายได้ ทำให้ประชาชนประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง และภาวะการลงทุนในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ในปีนี้อยู่ในช่วงขาลง ซึ่งตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ผลตอบแทนคริปโทติดลบ 70% ทำให้ผู้ลงทุนที่ยังคงถืออยู่ ตัดใจยากที่จะขายออกมา ทำให้ขาดสภาพคล่อง

 ด้านบมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล (XPG ) และ บมจ. บัตรกรุงไทย (KTC) มองเป็นจังหวะในการขยายธุรกิจ ปล่อยสินเชื่อ โดยนำสินทรัพย์ดิจิทัลเทิร์นเป็นวงเงินสดพร้อมใช้ โดยออกบัตรกดเงินสด “เคทีซี-เอ็กซ์สปริง” (KTC - XSPRING) เป็นรายแรกของประเทศไทย โ เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับนักลงทุนในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล 

 "วรางคณา อัครสถาพร" ผู้จัดการใหญ่ ของบริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ในเครือ XSpring  กล่าวว่า เอ็กซ์สปริงเห็นถึงตลาดสินเชื่อที่มีแนวโน้มเติบโตมาก และเห็นถึงโอกาสในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทยที่มีบัญชีผู้ใช้เกือบ 3 ล้านบัญชี แม้ว่าการเคลื่อนไหวบัญชีจะปรับตัวลดลงก็ตาม

แต่อย่าลืมว่าตัวเลขนี้ยังไม่ได้นับรวม ผู้ใช้บริการในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (“เอ็กซ์เชนจ์)ในต่างประเทศที่อาจมีมากกว่านี้อีกหลายเท่า ซึ่งในตลาดยังไม่มีใครทำธุรกิจรูปแบบนี้เพื่อตอบโจทย์ให้ลูกค้ามีทางเลือกในการได้รับกระแสเงินสดเพื่อใช้แก้ปัญหาการขาดสภาพคล่องมากกว่าการเทขาย 

บริษัทเล็งเห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะสินเชื่อส่วนบุคคลที่ยังคงขยายตัวได้ดีในครึ่งปีหลัง ด้วยการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาวางค้ำประกันเพื่อรับเงินสดผ่าน ในรูปแบบบัตรกดเงินสด “เคทีซี-เอ็กซ์สปริง” (KTC - XSPRING) และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการปลายเดือนส.ค.2565

‘เอ็กซ์สปริง-เคทีซี’รุกสินเชื่อคริปโทรายแรกของไทย

 บิตคอยน์ อิเธอเรียม นำร่อง 

      สำหรับวงเงินการให้สินเชื่อจะอยู่ที่ 10,000-100,000 บาทต่อราย โดยการพิจารณาการให้สินเชื่อจะอยู่ที่ 50% ของมูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัลที่นำมาวางเป็นหลักประกัน ณ ราคาในเวลานั้น  โดยในเฟสแรกจะเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลเหรียญขนาดใหญ่เป็นที่นิยมของผู้ลงทุน และที่มีความมั่นคง อย่าง บิตคอยน์ และอีเธอเรียม 

รวมทั้งโทเคน ซึ่งต้องเป็นโทเคนที่ผ่านการคัดกรองจาก ICO Portal  และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รวมถึงบางเหรียญที่เราเป็นที่ปรึกษาในการออกเหรียญ เช่น สิริ ฮับ(SiriHubToken) เราจะสามาสร้างความมั่นใจได้มากขึ้น ในการเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่นำมาวางค้ำประกันได้ในบัตรเคทีซี-เอ็กซ์สปริง

สำหรับตลาดNFTถือเป็นตลาดที่เล็กมาก และยากมากที่จะควบคุมราคา แต่ถ้าในอนาคตมีตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลอะไรใหม่ๆ เราพร้อมที่จะเปิดรับตลาดเหล่านี้

หากราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลง บริษัทมีวิธีบริหารความเสี่ยงในกรณีที่ราคาสินทรัพย์ ซึ่งบริษัทจะมีการถามลูกค้าว่าต้องการปรับวงเงินเพิ่มขึ้นหรือไม่ สามารถพิจารณาในการเพิ่มวงเงินจากประวัติของสินทรัพย์ว่าปรับขึ้นมาในระยะเวลาหนึ่งแล้ว มีความเสี่ยงน้อยที่จะปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว

ประกอบกับพิจารณาประวัติของลูกค้าจึงจะเพิ่มสินเชื่อให้ ส่วนในกรณีที่สินทรัพย์ปรับตัวลงต่ำ จะมีการแจ้งให้ลูกค้าเติมเงินเข้าในระบบ หรือถ้ามีความเสี่ยงมาก บริษัทจะพิจารณาขายสินทรัพย์ของลูกค้าในตลาดต่างประเทศที่มีสภาพคล่องสูงได้ทันการณ์ก่อนที่ราคาจะปรับตัวลดต่ำกว่าระดับความเสี่ยงที่บริษัทรับไหว

วางเป้า3ปีปล่อยสินเชื่อ5-7 พันล้าน

เคทีซี-เอ็กซ์สปริง ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อ 5,000 – 7,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี พร้อมคาดว่าจะสามารถขยายฐานลูกค้านักลงทุนได้ถึง 5 - 10% จากทั้งหมดที่ซื้อขายในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทย  สำหรับปีนี้ยังประเมินยอดการปล่อยสินเชื่อได้ยาก  เพราะ เป็นครั้งแรกของประเทศไทย แต่คิดว่าจำนวนผู้ขอสินเชื่อจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆและเพิ่มขึ้นเยอะตอนที่ เราเริ่มประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตจากก.ล.ต.

     โดยลูกค้าจะสามารถรับรู้ได้ว่าเมื่อเปิดบัญชีเทรดกับเอ็กซ์สปริง จะมีบริการเสริมให้ จึงมั่นใจว่าจะสร้างรายได้ให้แก่บริษัท เอ็กซ์สปริง อัลไลแอนซ์ จำกัดพร้อมด้วยโอกาสในการขยายฐานลูกค้าใหม่ในการเปิดบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัล เนื่องจากลูกค้าที่ต้องการจะเทิร์นสินทรัพย์ดิจิทัลให้เป็นวงเงินสดพร้อมใช้จากบัตรกดเงินสด “เคทีซี-เอ็กซ์สปริง” (KTC - XSPRING) จะต้องมีบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลกับบริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด อยู่ก่อนการใช้บริการเพื่อนำสินทรัพย์ดิจิทัลที่ตนเองถือครองอยู่มาเป็นหลักประกัน

ทั้งยังวางแผนที่จะเปิดรับเหรียญคริปโทฯ สกุลยอดนิยมและโทเคนมาใช้เป็นหลักประกัน พร้อมวางแผนที่จะปล่อยสินเชื่อประเภทอื่นๆ ในอนาคตเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ผนึก ‘เคทีซี’ ใช้สิทธิประโยชน์ในอีโคซิสเต็ม

นางสาวพิชามน จิตรเป็นธรรม ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-ธุรกิจสินเชื่อบุคคล  KTC กล่าวว่า การความร่วมมือกับ XSpring ในครั้งนี้ นับเป็นมิติใหม่ของวงการสินเชื่อ-การเงินดิจิทัล ที่จะเป็นโอกาสให้เคทีซีได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์ดิจิทัล และขยายพอร์ตสินเชื่อให้เติบโตขึ้น ด้วยการนำเสนอ บัตรกดเงินสด “เคทีซี-เอ็กซ์สปริง” (KTC - XSPRING) ซึ่งเป็นวงเงินสินเชื่อพร้อมใช้ที่มีความยืดหยุ่น สามารถเบิกใช้วงเงิน และชำระคืนได้ตามความประสงค์ เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ช่วยให้สมาชิกได้ใช้ชีวิตเต็มที่แบบไม่มีสะดุด กับบัตรกดเงินสดดีไซน์แนวตั้งแบบโมเดิร์นรับกับยุคดิจิทัล 

พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่มาครบทั้งรูด-โอน-กด และเหนือกว่าด้วยจุดแข็งของมาสเตอร์การ์ด ซึ่งมีเครือข่ายร้านค้าขนาดใหญ่กระจายอยู่กว่า 80 ล้าน ร้านค้าทั่วโลก ทำให้สมาชิกสามารถใช้ บัตรกดเงินสดเคทีซี-เอ็กซ์สปริงได้สะดวกขึ้น และเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ที่ต้องการความสะดวก ปลอดภัย ไร้สัมผัส สมาชิกบัตรฯ สามารถช้อปออนไลน์ได้ทุกร้านค้า ทุกที่ ทุกเวลา

รวมทั้งสามารถโอนเงินเรียลไทม์ผ่านแอปฯ “KTC Mobile” เข้าบัญชีธนาคารได้ถึง 15 ธนาคาร และกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มได้ตลอด 24 ชั่วโมง ฟรีค่าธรรมเนียมอีกด้วย โดยเคทีซีคาดหวังว่าการร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มยอดสมาชิกสินเชื่อรายใหม่ และสร้างการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อรายย่อย รวมถึง ส่วนแบ่งทางการตลาดสินเชื่อบุคคลที่สูงขึ้นได้